โครงการตรวจหาสารพิษตกค้างในเกษตรกร รพ.สต.บ้านทุ่งนารี
ชื่อโครงการ | โครงการตรวจหาสารพิษตกค้างในเกษตรกร รพ.สต.บ้านทุ่งนารี |
รหัสโครงการ | 2565-L3341-02-03 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทุ่งนารี |
วันที่อนุมัติ | 2 ธันวาคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 2 ธันวาคม 2564 - 30 กันยายน 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2565 |
งบประมาณ | 15,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายนพพล กองเอียด |
พี่เลี้ยงโครงการ | นายนราวุฒิ แก้วหนูนวล |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลทุ่งนารี อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 500 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
หลังจากได้มีพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 4)พ.ศ. 2562มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลเพื่อกำหนดมาตรการควบคุมวัตถุอันตรายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นมีผลให้ให้การใช้สารเคมีที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกร ได้แก่สารเคมีจำพวกยาฆ่าแมลง ให้รัดกุมยิ่งขึ้น และมีบทกำหนดโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนมีผลให้เกษตรกร หรือผู้ที่ใช้สารเคมีเหล่านี้ มีความตระหนัก ระมัดระวัง ในระดับหนึ่งสำหรับในพื้นที่ชนบท การปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวยังมีการละเลยอยู่บ้างทำให้ความปลอดภัยของผู้ใช้สารเคมี และผู้บริโภคยังต้องมีการเฝ้าระวังกันเหมือนเดิม การตรวจหาสารพิษตกค้างในเกษตรกรและผู้บริโภค ยังมีความจำเป็นเพราะนอกจากเป็นการเฝ้าระวังเรื่องสารพิษตกค้างที่อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพประชนชนแล้วยังเป็นการเปรียบเทียบถึงการรับรู้ และการปฏิบัติหลังจากที่มีพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 4)พ.ศ. 2562ออกมาใช้ด้วยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทุ่งนารีจึงมีความจำเป็นจัดทำโครงการตรวจหาสารพิษตกค้างในเกษตรกรเพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ปัญหาสารเคมีตกค้างของเกษตรกรและผู้บริโภค ในปี 2565
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรรู้ว่าตัวเองมีสารตกค้างในเลือดในระดับใด เกษตรกรทุกคนทราบระดับของสารพิษตกค้างของตนเอง |
1.00 | |
2 | เพื่อให้เกษตรกรมีความรู้และตระหนักถึงอันตรายในการใช้สารเคมีปราบศัตรูพืช. เกษตรกรทุกคน มีความรู้และตระหนักถึงอันตรายในการใช้สารเคมีปราบตรูพืช ในระดับดี ถึงดีมาก |
1.00 | |
3 | เพื่อให้เกษตรกรได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดการใช้สารเคมีและมาใช้สารอินทรีย์ให้ มากขึ้น เกษตรกรอย่างน้อยร้อยละ 80 ลดการใช้สารเคมีปราบศัตรูพืชและหันมาใช้สารอินทรีย์ |
1.00 | |
4 | การส่งต่อ กรณีพบสารพิษตกค้างในระดับอันตราย จำนวนเกษตรกรที่ได้รับการส่งต่อหรือยอมรับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม |
1.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 15,000.00 | 0 | 0.00 | |
2 ธ.ค. 64 - 30 ก.ย. 65 | ตรวจหาสารเคมีตกค้างในเกษตรกร | 0 | 15,000.00 | - | ||
2 ธ.ค. 64 - 30 ก.ย. 65 | จัดทำแผนตรวจหาสารพิษตกค้างในระดับหมู่บ้าน แปรผลการตรวจ และแจ้งให้กลุ่มเป้าหมายทราบ | 0 | 0.00 | - | ||
1 ก.พ. 65 - 30 ก.ย. 65 | ให้ความรู้ และส่งต่อกรณีผู้มีสารพิษตกค้างระดับอันตราย | 0 | 0.00 | - |
- ให้ความรู้และตระหนักถึงอันตรายในการใช้สารเคมีปราบศัตรูพืช
๒. เจาะเลือดตรวจหาสารพิษตกค้าง
3. จัดหาวัสดุอุปกรณ์.ในการตรวจ 4. รายงานผลการตรวจเลือดให้เกษตรกร 5. ส่งผู้ที่มีความเสี่ยงเข้ารักการรักษาต่อตามระบบการส่งต่อ
1เกษตรกรและประชาชนทั่วได้รับการตรวจเลือด และรู้ผลมีสารเคมีตกค้างอยู่ในระดับใด
2เกษตรกรมีความรู้และเข้าใจอันตรายจากการใช้สารเคมีปราบศัตรูพืช.
3เกษตรกรมีความรู้ในการป้องกันตัวเองหากมีความจำเป็นต้องใช้สารเคมีปราบศัตรูพืช
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2564 00:00 น.