รวมใจเป็นหนึ่ง เด็กเปาะเส้งฟันดี
ชื่อโครงการ | รวมใจเป็นหนึ่ง เด็กเปาะเส้งฟันดี |
รหัสโครงการ | 65-L4136-1-31 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเนียง |
วันที่อนุมัติ | 31 มีนาคม 2565 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2564 - 30 กันยายน 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2565 |
งบประมาณ | 34,380.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวอามีเน๊าะ มูเล็ง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลเปาะเส้ง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัญหาสุขภาพช่องปากของประชาชนไทยในทุกกลุ่มวัยยังคงมีแนวโน้มที่สูงขึ้น ในขณะที่การเข้าถึงบริการยังมีข้อจำกัด ปัญหาสุขภาพช่องปากที่ไม่ดีมีผลต่อระบบร่างกายของทุกคนและทุกวัย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กปฐมวัยจะมีผลต่อพัฒนาการสมวัย หากป้องกันปัญหาโรคฟันผุและเหงือกอักเสบในวัยเด็กได้ โอกาสที่จะเกิดปัญหาของโรคในช่องปากในวัยที่สูงขึ้นน่าจะลดลง ซึ่งสาเหตุของโรคในช่องปากประเด็นหลักมาจากขาดการทำความสะอาดช่องปากอย่างสม่ำเสมอและจากพฤติกรรมการบริโภคที่มีสิ่งจูงใจจากการโฆษณาทางสื่อต่างๆ การแก้ปัญหาให้ได้ผล จึงต้องขยายขอบเขตการทำงานโดยบูรณาการร่วมกับงานสุขภาพอื่นๆอย่างเป็นองค์รวม สุขภาพช่องปากมีความสัมพันธ์กับสุขภาพร่างกาย การดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีจึงมีผลต่อการมีสุขภาพกายที่ดีด้วย แต่ปัญหาสุขภาพช่องปากนั้นไม่ได้มีสาเหตุเกิดจากภายในช่องปากเพียงอย่างเดียว แต่มีตัวปัญหาซึ่งเกิดจากสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันด้วย ยกตัวอย่างเช่นโรคฟันผุซึ่งเป็นปัญหาในช่องปากที่พบได้ทั่วไปก็มีปัจจัยร่วมหลายๆอย่างที่ส่งเสริมให้เกิดโรคนอกเหนือไปจากเชื้อโรคในช่องปาก เช่น อาจมาจากตัวบุคคลเองที่ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องของสุขภาพช่องปากและการทำความสะอาดช่องปากของตนเองการอยู่ในครอบครัวที่ขาดการดูแลเอาใจใส่ หรือ สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวที่ไม่เอื้อต่อการใส่ใจสุขภาพช่องปาก นอกจากนี้สื่อโฆษณาเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มก็มีอิทธิพลอย่างมากในสังคมปัจจุบัน สภาพเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรมต่างๆ ล้วนมีส่วนที่ทำให้เกิดโรคได้เช่นกัน ดังนั้นหากเราวางรากฐานเรื่องสุขภาพช่องปากแก่เด็กก่อนวัยเรียนพร้อมกับการสอดแทรกความรู้เรื่องการแปรงฟันที่ถูวิธี ในรูปแบบที่เหมาะสมกับเด็กๆนั้น เพื่อให้ผู้ปกครองได้ตระหนักเห็นว่า เรื่องของทันตสุขภาพนั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบ แล้วปรับเปลี่ยนปลูกฝังพฤติกรรมอาจจะทำให้ปัญหาสุขภาพในช่องปากลดลงได้
จากการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพจังหวัดยะลา ปี 2564 พบว่า เด็กกลุ่มอายุ 3 ปี มีฟันน้ำนมผุร้อยละ 52.95 ในอำเภอเมืองยะลา พบมีฟันผุร้อยละ 54 และในตำบลเปาะเส้งพบที่ร้อยละ 54.54 ซึ่งนับว่าเป็นอัตราฟันผุที่ค่อนข้างสูง
การแก้ไขปัญหาดังกล่าวสามารถทำได้โดยการใช้รูปแบบการให้บริการทันตกรรมแบบครบวงจร คือ การให้สุขศึกษา การตรวจสุขภาพช่องปาก การให้บริการทันตกรรม การบำบัดรักษา และที่สำคัญมีการเยี่ยมติดตามและประเมินผลเป็นระยะๆอย่างต่อเนื่องจะทำให้ปัญหาสุขภาพช่องปากลดลงได้ ทางฝ่ายทันตสาธารณสุขโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเนียง ร่วมกับกองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลเปาะเส้ง ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาสุขภาพช่องปาก รวมถึงเฝ้าระวังทันตสุขภาพและตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการ รวมใจเป็นหนึ่ง เด็กเปาะเส้ง ฟันดี เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี |
---|
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 100 | 34,380.00 | 0 | 0.00 | |
1 ต.ค. 64 - 30 ก.ย. 65 | อบรมให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเด็กแรกเกิด - 3 ปี | 100 | 34,380.00 | - |
- ผู้ปกครองมีความรู้และมีทักษะในการดูแลสุขภาพช่องปากลูกได้
- แกนนำอสม.มีความรู้และมีทักษะในการดูแลสุขภาพช่องปากเด็กในชุมชนได้
- เด็กที่เข้าร่วมโครงการปราศจากแผ่นคราบจุลินทรีย์
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2565 00:00 น.