โครงการอบรมให้ความรู้และเฝ้าระวังการใช้สมาร์ทโฟน เพื่อป้องกันโรคสมาธิสั้นและติดจอในเด็กปฐมวัย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2567
ชื่อโครงการ | โครงการอบรมให้ความรู้และเฝ้าระวังการใช้สมาร์ทโฟน เพื่อป้องกันโรคสมาธิสั้นและติดจอในเด็กปฐมวัย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2567 |
รหัสโครงการ | 67-L2512-3-3 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลลาเมาะนอก |
วันที่อนุมัติ | 11 ตุลาคม 2566 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 15 พฤศจิกายน 2566 - 30 พฤศจิกายน 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 29 ธันวาคม 2566 |
งบประมาณ | 14,600.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวนูรา เจ๊ะสนิ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านลาเมาะนอก |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 52 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
สมาร์ทโฟน เป็นเครื่องมือสื่อสารที่มีบทบาทสำคัญ และจำเป็นในชีวิตประจำวันเนื่องจากเข้าถึงได้ง่าย ใช้สะดวก มีประโยชน์ทั้งการติดต่อสื่อสาร การถ่ายภาพ การจัดเอกสารข้อมูล การเล่นอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมต่าง ๆ และสมาร์ทโฟนยังถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเลี้ยงเด็กหรือใช้เป็นของเล่นเบี่ยงเบนความสนใจของเด็ก โดยเฉพาะเด็กปฐมวัยเป็นช่วงวัยที่มีการเจริญเติบโต และพัฒนาการทางสมองเจริญสูงสุด การใช้สมาร์ทโฟนในเต็กจะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย ด้านจิตอารมณ์ ด้านสังคมและด้านการสื่อสาร ทำให้เกิดภาวะสมาธิสั้น และความสามารถในการเรียนรู้ลดลงได้เด็กปฐมวัยเป็นช่วงวัยที่มีการเจริญเดิบโต และมีพัฒนาการทางสมองเจริญสูงสุด จึงควรได้รับการกระตุ้นส่งเสริมพัฒนาการที่ถูกต้องเหมาะสม แต่ถ้าปล่อยให้เต็กใช้สมาร์ทโฟนต่อเนื่องเป็นเวลานานจะส่งผลกระทบต่อระบบประสาททำให้พัฒนาการด้านร่างกาย จิตอารมณ์ และปฏิสัมพันธ์ทางสังคมบกพร่อง พ่อแม่ หรือผู้ปกครองเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดเด็กมากที่สุด จึงมีบทบาทสำคัญในการเฝ้าระวัง และป้องกันผลกระทบ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้สมาร์ทโฟน โดยต้องมีความรู้เกี่ยวกับพัฒนาการ ความต้องการและการตอบสนองความต้องการของเด็ก การอบรมเลี้ยงดูด้วยความรักเอาใจใส่ ให้ความเข้าใจ มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนในเด็ก โดยการ ลด ละ เลิก การใช้สมาร์ทโฟน ซึ่งผู้ปกครองต้องกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด มีการกระตุ้นส่งเสริมพัฒนาการเด็กให้เหมาะสมตามวัยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลลาเมาะนอกถึงได้ตระหนักและให้ความสำคัญ จึงได้จัดทำโครงการอบรมให้ความรู้และเฝ้าระวังการใช้สมาร์ทโฟนเพื่อป้องกันโรคสมาธิสั้น และติดจอในเต็กปฐมวัยขึ้น เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการดูแลการใช้สมาร์ทโฟนในทางที่เหมาะสม และส่งเสริมกระตุ้นให้เด็กมีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย เพื่อหลีกเลี่ยงโทษและปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกับเด็กที่มาจากการติดสมาร์ทโฟนจนกลายเป็นโรคสมาธิสั้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อให้ผู้ปกครองมีความรู้ในการเฝ้าระวังการใช้สมาร์ทโฟนในเด็กปฐมวัย เพื่อป้องกันโรคสมาธิสั้น ผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ในการใช้สมาร์ทโฟนในเด็กปฐมวัย |
0.00 | |
2 | 2.เพื่อให้ผู้ปกครองมีแนวทางในการส่งเสริมสุขภาพจิตของเด็กปฐมวัยให้เหมาะสมตามวัย ผู้ปกครองสามารถดูแลสุขภาพจิตของเด็กปฐมวัยให้เหมาะสมตามวัย |
0.00 | |
3 | 3.เพื่อให้เด็กปฐมวัยใช้สื่อออนไลน์ในทางที่สร้างสรรค์ ผู้ปกครองสนับสนุนการใช้สื่อออนไลน์ของเด็กปฐมวัยในทางที่สร้างสรรค์ |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 14,600.00 | 0 | 0.00 | |
15 - 30 พ.ย. 66 | อบรมให้ความรู้และเฝ้าระวังการใช้สมาร์ทโฟน เพื่อป้องกันโรคสมาธิสั้นและติดจอในเด็กปฐมวัย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2567 | 0 | 14,600.00 | - |
- ผู้ปกครองมีความรู้ในการดูแลและเฝ้าระวังการใช้สมาร์ทโฟนในเด็กปฐมวัย เพื่อป้องกัน โรคสมาธิสั้นและติดจอ
- เด็กปฐมวัยมีสุขภาพจิตดีเหมาะสมตามวัย
- เด็กปฐมวัยมีพฤติกรรมติดจอลดลงและใช้สื่อออนไลน์ในทางที่สร้างสรรค์มากขึ้น
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2566 00:00 น.