โครงการค้นหาและเฝ้าระวังโรคความดันโลหิตในประชาชนกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง
ชื่อโครงการ | โครงการค้นหาและเฝ้าระวังโรคความดันโลหิตในประชาชนกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง |
รหัสโครงการ | 67-L3350-01-02 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสวน |
วันที่อนุมัติ | 23 มกราคม 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤษภาคม 2567 - 30 กันยายน 2567 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 60,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายประภาส สงบุตร |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 150 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง | 45.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคความดันโลหิตสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน กล้ามเนื้อหัวใจตายหรือขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์ อัมพาต ไตวายเรื้อรัง หัวใจล้มเหลวและสมองเสื่อม นอกจากนี้ ระดับความดันโลหิตที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วยังเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดหลอดเลือดสมองแตก เลือดออกในสมอง(Hemorrhagicstroke) หลอดเลือดหัวใจตีบตันเกิดภาวะหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลันหรือหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด โรคความดันโลหิตสูงจึงเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเสียชีวิตด้วยข้อมูลจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่าโรคเรื้อรังหรือโรคไม่ติดต่อเป็นโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ได้แก่ การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การไม่ออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีรสเหวาน มัน เค็มจัด รวมถึงความเครียด ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคร้ายได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมองและหัวใจ มะเร็ง ถุงลมโป่งพองและ โรคอ้วนลงพุง และทำให้อายุไขของคนป่วยกลุ่มนี้จะมีอายุต่ำกว่า 60 ปี โดยจากสถิติพบว่า คนไทยเสียชีวิตด้วยโรคกลุ่มดังกล่าวมากกว่าปีละ 3 แสนคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยคิดเป็นร้อยละ 73 ของสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทย โดยทั่วโลก สาเหตุการตายด้วยโรคกลุ่มดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 63 ของสาเหตุการตายของประชากรโลก
ปัจจุบันพบว่าอัตราความชุกของ โรคความดันโลหิตสูง เครือข่ายบริการสุขภาพ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี รวมถึงผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ที่มารับบริการผู้ป่วยนอก เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีเช่นกัน จากการจัดลำดับความชุก 10 อันดับโรคของผู้รับบริการพบว่า ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง จัดอยู่ในอันดับที่ 1 และ พบจำนวนสูงสุดในกลุ่มผู้ป่วยอายุ 60 ปี ขึ้นไป รองลงมาพบในกลุ่มอายุ 40-60 ปี และพบจำนวนน้อยในช่วงอายุน้อยกว่า40 ปี ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง พบโรคแทรกซ้อนร้อยละ 55.77 และยังพบว่ามีผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ที่ต้องเข้านอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ อีกเป็นจจำนวนมาก
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อแก้ปัญหาประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงลดลง |
45.00 | 30.00 |
2 | 1. เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละประชาชนกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูงมีความตระหนักและเห็นความสำคัญในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากค่าความดันที่วัดได้ในแต่ละวัน |
45.00 | 45.00 |
3 | เพื่อติดตามระดับความดันโลหิตที่บ้าน ร้อยละประชาชนกลุ่มสงสัยป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้รับการติดตามระดับความดันโลหิตที่บ้าน |
45.00 | 45.00 |
4 | เพื่อให้กลุ่มสงสัยป่วยได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที และป้องกันภาวะแทรกซ้อน ร้อยละประชาชนกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูงได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที |
45.00 | 45.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 60,000.00 | 0 | 0.00 | |
8 ม.ค. 67 | 1. ค้นหากลุ่มเป้าหมาย | 0 | 0.00 | - | ||
9 ม.ค. 67 | แนวทางการวัดความดันโลหิตที่บ้าน | 0 | 0.00 | - | ||
10 ม.ค. 67 - 31 ส.ค. 67 | ติดตามกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูงด้วยการวัดความดันที่บ้าน | 0 | 60,000.00 | - |
1.มีเครื่องวัดความดันโลหิตในหมู่บ้าน สามารถให้บริการแก่ประชาชนได้ทันที
2.กลุ่มสงสัยป่วยได้รับการติดตามวัดความดันโลหิตตามเกณฑ์ที่กำหนด
3.กลุ่มสงสัยป่วยได้รับการวินิจฉัยและรักษาตามมาตรฐาน
4.ร้อยละประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงลดลง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2567 15:01 น.