โครงการป้องกันเด็กจมน้ำในเด็กปฐมวัย
ชื่อโครงการ | โครงการป้องกันเด็กจมน้ำในเด็กปฐมวัย |
รหัสโครงการ | 67-L5190-3-04 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลเทพา |
วันที่อนุมัติ | 8 มกราคม 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 3 มิถุนายน 2567 - 29 สิงหาคม 2567 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2567 |
งบประมาณ | 10,062.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลเทพา |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลเทพา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.827196,100.968003place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 65 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 65 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | เด็กและเยาวชน | 130.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
การจมน้ำเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับ 1 ของเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งสูงมากกว่าการเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อและโรคไม่ติดเชื้อ และสูงมากกว่าอุบัติเหตุจากการจราจรถึง 2 เท่าเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มักเกิดจากการเผอเรอชั่วขณะของผู้ปกครอง/ผู้ดูแลเด็ก เช่น รับโทรศัพท์ เปิด-ปิด ประตูบ้าน ทำกับข้าว ซึ่งบางครั้งไม่คิดว่าแหล่งน้ำในภาชนะในบ้านจะทำให้เด็กจมน้ำได้ เนื่องจากเด็กเล็กมีการทรงตัวไม่ดี จึงทำให้ล้มในท่าศีรษะทิ่มลงได้ มักพบเด็กจมน้ำในแหล่งน้ำภายในบ้าน หรือรอบ ๆ บ้าน เช่น ถังน้ำ กะละมัง แอ่งน้ำ บ่อน้ำ ซึ่งเด็กสามารถจมน้ำเสียชีวิตได้ในแหล่งน้ำที่มีระดับความสูงเพียง 1-2 นิ้ว ผู้ปกครองและผู้ดูแลเด็กทุกคนควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ไม่ควรเผอเรอแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว โดยเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ต้องอยู่ในระยะที่มองเห็น คว้าถึงและเข้าถึง ไม่ปล่อยทิ้งให้เด็กเล่นน้ำเองตามลำพังแม้ในกะละมัง ถังน้ำ โอ่ง ควรมีการจัดการสิ่งแวดล้อม เช่น เทน้ำทิ้งภายหลังใช้งาน หาฝาปิด รวมถึงการจัดพื้นที่เล่นปลอดภัยให้เด็ก กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดแนวทางการสอนให้เด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กรู้จักแหล่งน้ำเสี่ยง การสอนให้เด็ก “อย่าใกล้ อย่าเก็บ อย่าก้ม” และตะโกนขอความช่วยเหลือ นอกจากนี้ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็กถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก ต้องมีความรู้ในการสอนบุตรหลานให้รู้จักแหล่งน้ำเสี่ยง และหากเด็กจมน้ำต้องมีความรู้ ความเข้าใจในการกู้ชีพ และปฐมพยาบาลอย่างถูกวิธี . ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลเทพาได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาการจมน้ำและการช่วยเหลือชีวิตจากการจมน้ำในเด็กปฐมวัย และเป็นการป้องกันก่อนปัญหาจะเกิดขึ้น จึงได้จัดทำโครงการป้องกันการจมน้ำในเด็กปฐมวัยของศูนย์พัฒนาเด็กเทศบาลตำบลเทพาขึ้นฟฟฟ
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อฝึกอบรม และปฏิบัติให้ความรู้ผู้ที่เกี่ยวข้องในการเฝ้าระวังป้องกันเด็กจมน้ำ
|
0.00 | |
2 | เพื่อให้เห็นความสำคัญของปัญหาเด็กเสียชีวิตจากการจมน้ำ
|
0.00 | |
3 | เพื่อสร้างทักษะให้กับเด็กในการช่วยเหลือตนเอง สามารถเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเด็กสามารถช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยจากการจมน้ำได้
|
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 10,062.00 | 0 | 0.00 | |
??/??/???? | เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ | 0 | 0.00 | - | ||
??/??/???? | ประชุมเพื่อวางแผนดำเนินงาน | 0 | 0.00 | - | ||
3 มิ.ย. 67 - 30 ส.ค. 67 | ดำเนินงานตามแผนงานโครงการ | 0 | 10,062.00 | - |
- ผู้ดูแลเด็ก ผู้ปกครอง และบุคลากรทางการศึกษามีความรู้และสามารถเฝ้าระวังการป้องกันการจมน้ำในเด็กปฐมวัยได้ .
- ผู้ดูแลเด็ก ผู้ปกครอง และบุคลากรทางการศึกษามีความตื่นตัวและตระหนักถึงเรื่องการเสียชีวิตในเด็ก ปฐมวัยจากการจมน้ำได้.
- เด็กมีทักษะในการช่วยเหลือตนเอง สามารถเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำ ผู้ดูแลเด็ก ผู้ปกครอง และบุคลากรทางการศึกษาสามารถช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยจากการจมน้ำได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2566 00:00 น.