กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์

รายงานฉบับสมบูรณ์


โครงการ
“ โครงการ ลดโรคNCDs. ชะลอไตเสื่อม เพื่อลดผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังรายใหม่ ปีงบประมาณ 2567 ”




หัวหน้าโครงการ
นายกอดะ เจะมะ




ชื่อโครงการ โครงการ ลดโรคNCDs. ชะลอไตเสื่อม เพื่อลดผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังรายใหม่ ปีงบประมาณ 2567

ที่อยู่ จังหวัด

รหัสโครงการ 67-L3050-01-06 เลขที่ข้อตกลง 5/2567

ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2567 ถึง 25 กันยายน 2567

กิตติกรรมประกาศ

"โครงการ ลดโรคNCDs. ชะลอไตเสื่อม เพื่อลดผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังรายใหม่ ปีงบประมาณ 2567 จังหวัด" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.หนองแรต ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการ ลดโรคNCDs. ชะลอไตเสื่อม เพื่อลดผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังรายใหม่ ปีงบประมาณ 2567



บทคัดย่อ

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันสูงมีความรู้ ความเข้าใจและมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปฏิบัติตนที่เหมาะสม เพื่อชะลอภาวการณ์เกิดโรค Ncds. และโรคไตเรื้อรัง (2) เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสงสัยป่วยเบาหวานและความดันสูงได้รับการติดตาม และส่งต่อพบแพทย์เพื่อได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและได้รักษาทันท่วงที (3) เพื่อให้กลุ่มป่วยโรคเรื้อรังมีความรู้ ความเข้าใจและมีพฤติกรรมการปฏิบัติตนที่เหมาะสมเพื่อป้องกันและชะลอการเพิ่มขึ้นของภาวะไตวายเรื้อรัง (4) เพื่อให้กลุ่มป่วยโรคเรื้อรังได้รับการติดตามเยี่ยมบ้าน ครอบครัวมีส่วนรวมในการดูแลสุขภาพร่วมกัน

ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่
(1) กิจกรรมที่ 3. กิจกรรมตรวจสุขภาพประชาชนกลุ่มเสี่ยงหลังเข้ารับการอบรบโครงการ ครั้งที่ 1

(2) กิจกรรมที่ 1.จัดประชุมชี้แจงโครงการโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำรพ.สต. แก่อาสาสมัครชุมชน
(3) กิจกรรมอบรมให้ความรู้ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเกี่ยวกับโรค NCDs.และโรคไตเรื้อรัง โดยจัดอบรม 2 วัน โดยแบ่งกลุ่มตามกลุ่มเป้าหมาย
(4) กิจกรรมการเยี่ยมบ้านพร้อมติดตามตรวจสุขภาพกลุ่มประชาชนกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันโลหิตสูง และกลุ่มป่วยโรคเรื้อรังที่รับยาที่รพ.สต.ที่มีค่า BP >140/90mmHg

ข้อเสนอแนะ ได้แก่ ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจยืนยันเพื่อเฝ้าระวังการเกิดโรค และได้รับการส่งต่อเพื่อป้องกันการเกิดโรคได้ทันท่วงที
2.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเกิดความตระหนักถึงความสำคัญของโรค และมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลตนเอง เพื่อป้องกันการเกิดโรคได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ลดโอกาสการเกิดโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง
3.ผู้ป่วยโรคเรื้อรังโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงเกิดความตระหนัก และมีความรู้เกี่ยวกับโรคที่เป็นสามารถปฏิบัติดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม และไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเพิ่มขึ้น

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"


สารบัญ

กิตติกรรมประกาศ»
บทคัดย่อ»
   ความเป็นมา/หลักการเหตุผล»
   วัตถุประสงค์โครงการ»
   กิจกรรม/การดำเนินงาน»
   กลุ่มเป้าหมาย»
   ผลลัพธ์ที่ได้»
   การประเมินผล»
   ปัญหาและอุปสรรค»
   ข้อเสนอแนะ»
   เอกสารประกอบอื่นๆ»

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease, CKD) เป็นปัญหาสาธารณสุขระดับโลก รวมถึงประเทศ ไทย ภาวะไตเรื้อรังมักมีการดำเนินโรคไปสู่โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย (End-Stage Renal Disease, ESRD) ที่จำเป็นต้องได้รับการบำบัดทดแทนไตหรือการปลูกถ่ายไต และยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญในการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด ทำให้สูญเสียสุขภาวะ เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ประกอบกับสถานการณ์ปัญหาของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในประเทศไทยในปัจจุบันมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการบำบัดทดแทนไตเพิ่มมากขึ้น ก่อให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจต่อตัวผู้ป่วยเองและต่อประเทศไทยในอนาคต เพราะต้องแบกรับ ค่าใช้จ่ายในการรักษาซึ่งมีราคาสูงโดยเฉพาะในระยะที่เข้าสู่การบำบัดทดแทนไต การป้องกันไม่ให้เกิดโรคไตเรื้อรังและชะลอความเสื่อยมของไต จึงเป็นเรื่องที่สำคัญโดยเฉพาะการค้นหา คัดกรอง เพื่อการเฝ้า ระวังรวมถึงการติดตามดูแลให้ความรู้และคำแนะนำเพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การรับประทาน อาหาร การออกกำลังกาย การใช้ยาอย่างเหมาะสม ตั้งแต่การดูแลตนเองที่บ้านจนถึงเกิดการกระตุ้นให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง มีประสิทธิภาพในการดูแลตนเองและดูแลผู้อื่น จนทำให้จำนวนผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังมีจำนวนลดลงได้ในอนาคต ซึ่งเริ่มจากการดูแลคนในชุมชน ดังนั้น เพื่อให้เกิดการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และการฟื้นฟูสมรรถภาพในกลุ่มประชาชนที่มีความ เสี่ยง และเกิดการชะลอการเสื่อมของไตในกลุ่มผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองแรต จึงจัดทำโครงการลดโรคNCDs. ชะลอไตเสื่อม เพื่อลดผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังรายใหม่ ปีงบประมาณ 2567 ขึ้น จากการเก็บข้อมูลของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองแรต พบว่าจำนวนผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในเขตรับผิดชอบ จำแนกตาม Stage (Coverage) ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2564- 2567 จะเห็นได้ว่ามีแนวโน้มจะเกิดกลุ่มป่วยโรคไตวายเรื้อรังเพิ่มขึ้นในอนาคต Stage (Coverage) ปีงบประมาณ2564Stage 4 คิดเป็นร้อยละ 6.90 Stage 5 คิดเป็นร้อยละ6.90
ปีงบประมาณ2565 Stage 4 คิดเป็นร้อยละ 5.56 Stage 5 คิดเป็นร้อยละ5.56
ปีงบประมาณ2566 Stage 4 คิดเป็นร้อยละ 17.39Stage 5 คิดเป็นร้อยละ 4.35
ปีงบประมาณ2567Stage 4 คิดเป็นร้อยละ 33.33Stage 5 คิดเป็นร้อยละ0.00 จากการคัดกรอง/ค้นหาเสี่ยงป่วยโรคไตเรื้อรังรายใหม่ (Coverage) ของผู้ป่วย DM และ HT ร้อยละที่ได้รับการค้นหาและคัดกรองโรคไตเรื้อรังตำบลหนองแรต (KPI:80) ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2564- 2566 พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้รับการตรวจคัดกรองน้อยลง ส่งผลให้ไม่มีการเฝ้าระวังในการดูแลตนเอง และเมื่อมีการคัดกรองซ้ำในปีถัดไปทำให้พบผู้ป่วยไตเรื้อรังเพิ่มขึ้นได้ (https://ptn.hdc.moph.go.th/)
ปีงบประมาณ2564เป้าหมาย( 267คน) /ตรวจคัดกรอง(117คน) คิดเป็นร้อยละ43.82 โรคไตเรื้อรังรายใหม่ (16คน)คิดเป็นร้อยละ 13.68
ปีงบประมาณ2565เป้าหมาย(264คน) /ตรวจคัดกรอง(110คน)คิดเป็นร้อยละ41.67 โรคไตเรื้อรังรายใหม่ (15คน)คิดเป็นร้อยละ13.64 ปีงบประมาณ2566เป้าหมาย(267คน) /ตรวจคัดกรอง(129คน)คิดเป็นร้อยละ48.31 โรคไตเรื้อรังรายใหม่ (18คน)คิดเป็นร้อยละ13.95
ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองแรตจึงได้จัดการทำโครงการลดโรคNCDs. ชะลอไตเสื่อม เพื่อลดผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังรายใหม่ปีงบประมาณ 2567 ขึ้นเพื่อเป็นการสร้างความตระหนักในการดูแลสุขภาพตนเองของประชาชนกลุ่มเสี่ยง และผู้ป่วยโรคเรื้อรังได้เรียนรู้ถึงวิธีการป้องกัน ดูแลตนเองไม่ให้เกิดโรคไตวายเรื้อรัง ตลอดจนการดูแลรักษาและชะลอไม่ให้เกิดภาวะไตวายระยะสุดท้าย โดยให้การดูแลรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้นอย่างมีคุณภาพอันจะส่งผลให้ประชาชนและผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี และลดค่าใช้จ่ายที่สูงของภาครัฐในการรักษาพยาบาลโรคไตวายระยะสุดท้าย

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

  1. เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันสูงมีความรู้ ความเข้าใจและมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปฏิบัติตนที่เหมาะสม เพื่อชะลอภาวการณ์เกิดโรค Ncds. และโรคไตเรื้อรัง
  2. เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสงสัยป่วยเบาหวานและความดันสูงได้รับการติดตาม และส่งต่อพบแพทย์เพื่อได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและได้รักษาทันท่วงที
  3. เพื่อให้กลุ่มป่วยโรคเรื้อรังมีความรู้ ความเข้าใจและมีพฤติกรรมการปฏิบัติตนที่เหมาะสมเพื่อป้องกันและชะลอการเพิ่มขึ้นของภาวะไตวายเรื้อรัง
  4. เพื่อให้กลุ่มป่วยโรคเรื้อรังได้รับการติดตามเยี่ยมบ้าน ครอบครัวมีส่วนรวมในการดูแลสุขภาพร่วมกัน

กิจกรรม/การดำเนินงาน

  1. กิจกรรมที่ 3. กิจกรรมตรวจสุขภาพประชาชนกลุ่มเสี่ยงหลังเข้ารับการอบรบโครงการ ครั้งที่ 1
  2. กิจกรรมที่ 1.จัดประชุมชี้แจงโครงการโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำรพ.สต. แก่อาสาสมัครชุมชน
  3. กิจกรรมอบรมให้ความรู้ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเกี่ยวกับโรค NCDs.และโรคไตเรื้อรัง โดยจัดอบรม 2 วัน โดยแบ่งกลุ่มตามกลุ่มเป้าหมาย
  4. กิจกรรมการเยี่ยมบ้านพร้อมติดตามตรวจสุขภาพกลุ่มประชาชนกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันโลหิตสูง และกลุ่มป่วยโรคเรื้อรังที่รับยาที่รพ.สต.ที่มีค่า BP >140/90mmHg

กลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 30
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง 50
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจยืนยันเพื่อเฝ้าระวังการเกิดโรค และได้รับการส่งต่อเพื่อป้องกันการเกิดโรคได้ทันท่วงที
2.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเกิดความตระหนักถึงความสำคัญของโรค และมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลตนเอง เพื่อป้องกันการเกิดโรคได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ลดโอกาสการเกิดโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง
3.ผู้ป่วยโรคเรื้อรังโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงเกิดความตระหนัก และมีความรู้เกี่ยวกับโรคที่เป็นสามารถปฏิบัติดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม และไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเพิ่มขึ้น


ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ
ผลผลิต*
ผลผลิตที่ตั้งไว้ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง

1. กิจกรรมที่ 3. กิจกรรมตรวจสุขภาพประชาชนกลุ่มเสี่ยงหลังเข้ารับการอบรบโครงการ ครั้งที่ 1

วันที่ 1 มกราคม 2567 เวลา 09:00 น.

กิจกรรมที่ทำ

กิจกรรมตรวจสุขภาพประชาชนกลุ่มเสี่ยงหลังเข้ารับการอบรบโครงการ ครั้งที่ 1 1.ลงทะเบียนเข้าอบรมโครงการ 2.ตรวจสุภาพ ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน วัดรอบเอว
3.ชั่งน้ำหนักประเมิน BMI
4.ซักถามพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ปัญหาอุปสรรคเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 5.สะท้อนข้อมูลผลการตรวจร่างกายกลับแก้กประชาชนกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน/ความดัน
6.แจ้งถึงการติดตามการตรวจสุภาพในครั้งต่อไป

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

ผลการตรวจสุภาพกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน/ความดันหลังการอบรมติดตาม 3 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน
ค่าลงพุง ก่อนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ชายจำนวน 13 คน ค่าลงพุงปกติจำนวน 3 คน ภาวะเสี่ยง 10 คน คิดเป็นร้อยละ 43.33 ผู้หญิงจำนวน 37 คน ค่าลงพุงปกติจำนวน 1 คน  ภาวะเสี่ยงจำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 32.43 อันตราย จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 64.86
ผลตรวจสุภาพหลังปรับเปลี่ยนครั้งที่ 1 ผู้ชายมีค่าลงพุงมากที่สุดมีภาวะเสี่ยงจำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 43.33 ผู้หญิงมีค่าลงพุงมากที่สุด อันตราย จำนวน 28 คนคิดเป็นร้อยละ 75.67 รองลงมามีความเสี่ยงจำนวน 8 คน คิด
เป็นร้อยละ 21.62 และค่าลงพุงปกติ จำนวน 1 คน
ผลตรวจสุภาพหลังปรับเปลี่ยนครั้งที่ 2 ผู้ชายมีค่าลงพุงมากที่สุดมีภาวะเสี่ยงจำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 84.61 ผู้หญิงมีค่าลงพุงเพิ่มขึ้น มากที่สุด อันตราย จำนวน 29 คนคิดเป็นร้อยละ 78.37 รองลงมามีความเสี่ยงจำนวน 7
คน คิดเป็นร้อยละ 18.91 และค่าลงพุงปกติ จำนวน 1 คน
ผลตรวจสุภาพหลังปรับเปลี่ยนครั้งที่ 3 ผู้ชายมีค่าลงพุงมากที่สุดมีภาวะเสี่ยงจำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 84.61 ผู้หญิงมีค่าลงพุงเพิ่มขึ้น มากที่สุด อันตราย จำนวน 29 คนคิดเป็นร้อยละ 78.37 รองลงมามีความเสี่ยงจำนวน 7  คน คิดเป็นร้อยละ 18.91 และค่าลงพุงปกติ จำนวน 1 คน
แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงมีภาวะความอ้วนและมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆได้ เช่น โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานได้มากที่สุด
ค่าBMI ก่อนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันมีค่าน้ำหนักตัวน้อย/ผอมจำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 4 มากที่สุดน้ำหนักตัวปกติจำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ36 รองลงมาน้ำหนักเกินมีภาวะเสี่ยงจำนวน 11 ราย คิด
เป็นร้อยละ 22 และมีภาวะอ้วนระดับ 1 จำนวน 10 คนคิดเป็นร้อยละ 20 มีภาวะอ้วนระดับ 2 จำนวน 9 คนคิดเป็นร้อยละ 18
ผลตรวจสุภาพหลังปรับเปลี่ยนครั้งที่1 กลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันมีค่าน้ำหนักตัวน้อย/ผอมจำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 6 มากที่สุดน้ำหนักตัวปกติจำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ36 รองลงมาน้ำหนักเกินมีภาวะเสี่ยงจำนวน 8  ราย คิดเป็นร้อยละ 16 และมีภาวะอ้วนระดับ 1 จำนวน 13 คนคิดเป็นร้อยละ 26 มีภาวะอ้วนระดับ 2 จำนวน 8 คนคิดเป็นร้อยละ 16
ผลตรวจสุภาพหลังปรับเปลี่ยนครั้งที่2 กลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันมีค่าน้ำหนักตัวน้อย/ผอมจำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 4 มากที่สุดน้ำหนักตัวปกติจำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 38 รองลงมาน้ำหนักเกินมีภาวะเสี่ยงจำนวน 8  ราย คิดเป็นร้อยละ 16 และมีภาวะอ้วนระดับ 1 จำนวน 16 คนคิดเป็นร้อยละ 35 มีภาวะอ้วนระดับ 2 จำนวน 5 คนคิดเป็นร้อยละ 10
ผลตรวจสุภาพหลังปรับเปลี่ยนครั้งที่3 กลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันมีค่าน้ำหนักตัวน้อย/ผอมจำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 4 มากที่สุดน้ำหนักตัวปกติจำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 42 รองลงมาน้ำหนักเกินมีภาวะเสี่ยงจำนวน 7  ราย คิดเป็นร้อยละ 14 และมีภาวะอ้วนระดับ 1 จำนวน 15 คนคิดเป็นร้อยละ 30 มีภาวะอ้วนระดับ 2 จำนวน 5 คนคิดเป็นร้อยละ 10
ดังนั้นกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันมีค่าน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติ เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 42 รองลงมามีความเสี่ยงภาวะอ้วนระดับ 1 คิดเป็นร้อยละ 30 มีความเสี่ยงน้ำหนักเกิน คิดเป็นร้อยละ 14 มีความเสี่ยงภาวะอ้วนระดับ 2 คิด
เป็นร้อยละ 10 และมีน้ำหนักน้อย/ผอม คิดเป็นร้อยละ 4
ผลปิงปองจราจร 7 สี ก่อนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันมากสุดอยู่ในเกณฑ์เสี่ยงจำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 48 รองลงมากลุ่มสงสัยป่วยระดับ 1 จำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 32 เกณฑ์ปกติจำนวน 6 คน คิด
เป็นร้อยละ 12และน้อยสุด กลุ่มสงสัยป่วยระดับ 2 จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 8
ผลตรวจสุภาพหลังปรับเปลี่ยนครั้งที่ 1 กลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันมากสุดอยู่ในเกณฑ์เสี่ยงจำนวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 40 รองลงมา เท่ากัน อยู่ในเกณฑ์ปกติจำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 26 กับกลุ่มสงสัยป่วยระดับ 1  จำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 26 และกลุ่มสงสัยป่วยระดับ 2 จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 6  กลุ่มสงสัยป่วยระดับ 3 จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 2
ผลตรวจสุภาพหลังปรับเปลี่ยนครั้งที่ 2 กลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดัน เท่าเดิม มากสุดอยู่ในเกณฑ์เสี่ยงจำนวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 46 รองลงมาเกณฑ์ปกติจำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 36 และน้อยสุดกลุ่มสงสัยป่วยระดับ  1 จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 16
ผลตรวจสุภาพหลังปรับเปลี่ยนครั้งที่ 3 กลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดัน เพิ่มขึ้น มากสุดอยู่ในเกณฑ์เสี่ยงจำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 48 เกณฑ์เสี่ยงจำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 34 และกลุ่มสงสัยป่วยระดับ 1 ลดลง จำนวน  9 คน คิดเป็นร้อยละ 18.36  ดังนั้นกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันหลังปรับเปลี่ยนพฤติกรรม พบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ เพิ่มขึ้น จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 34 มีภาวะเสี่ยงเบาหวาน/ความดัน เท่าเดิม จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 48  และกลุ่มป่วย ลดลง จากเดิม กลุ่มสงสัยป่วยระดับ 1 ( BP140/90-159/99mmHg., FBS 125-159 mm/dl) จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 18 และไม่พบกลุ่มสงสัยป่วยระดับ2, ระดับ 3

 

50 0

2. กิจกรรมที่ 1.จัดประชุมชี้แจงโครงการโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำรพ.สต. แก่อาสาสมัครชุมชน

วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เวลา 09:00 น.

กิจกรรมที่ทำ

1.จัดประชุมชี้แจ้งโครงการแก่อาสาสมัครสาธารณสุประจำหมู่บ้าน
2.ทบทวนการทำงานที่ผ่านมา ปัญหา/อุปสรรค 3.จัดทำแผนการออกปฏิบัติงานเชิงรุกคัดกรองเบาหวานและความดันสูงในชุมชน

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

1.มีแผนการออกปฏิบัติงานเชิงรุกคัดกรองเบาหวานและความดันสูงในชุมชนชัดเจน 2.อสม.มีการแบ่งหน้าที่ในการปฏิบัติงาน

 

50 0

3. กิจกรรมการเยี่ยมบ้านพร้อมติดตามตรวจสุขภาพกลุ่มประชาชนกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันโลหิตสูง และกลุ่มป่วยโรคเรื้อรังที่รับยาที่รพ.สต.ที่มีค่า BP >140/90mmHg

วันที่ 1 มิถุนายน 2567 เวลา 09:00 น.

กิจกรรมที่ทำ

เจ้าหน้าที่สาธารณสุและอสม.ออกลงเยี่ยมบ้านพร้อมติดตามตรวจสุขภาพกลุ่มประชาชนกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน และกลุ่มป่วยโรคเรื้อรังเบาหวาน/ความดัน

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

จากการเยี่ยมบ้านส่วนใหญ่ผู้ป่วยมีการรับประทานยาบริหารยาเอง ร้อยละ 85 และมีผู้ดูแลคอยช่วยเหลือบริหารการทานยา ร้อยละ 15 , กลุ่มป่วยโรคเรื้อรังมีหลงลืมทานยาประจำ ร้อยละ 25 และกลุ่มป่วยโรคเรื้อรังที่มาตามนัดทุกครั้งคิดเป็นร้อยละ 95 ปัญหาที่พบ 1.ผิดนัดเพราะไม่มีคนพามา 2.เมื่อมีการทานอาหารสแลงจะหยุดยาเบาหวาน/ความดันเพราะกลัวมึน

 

0 0

4. กิจกรรมอบรมให้ความรู้ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเกี่ยวกับโรค NCDs.และโรคไตเรื้อรัง โดยจัดอบรม 2 วัน โดยแบ่งกลุ่มตามกลุ่มเป้าหมาย

วันที่ 1 มิถุนายน 2567 เวลา 09:00 น.

กิจกรรมที่ทำ

  1. ผู้เข้าร่วมโครงการลงทะเบียนตรวจสุขภาพ ชั่งน้ำหนัก วัดรอบเอว วัดความดัน
    2.เปิดโครงการโดยผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองแรตกล่าวความเป็นมาและความสำคัญของโรคติดต่อไม่เรื้อรังNCDโรคไตเรื้อรัง
    3.ฟังการบรรยายความรู้เรื่องโภชนการอาหารแลกเปลี่ยนโดยนักโภชนการ
    4.ฟังการบรรยายความรู้เรื่องการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลเพื่อลดภาวะแทรกซ้อนโรคจากการใช้ยาเกินความจำเป็นโดยเภสัชจากโรงพยาบาล ซักถาม ตอบคำถามข้อสงสัย
  2. กิจกรรม อ.อารมณ์ ออกกำลังกาย หายใจ ผ่อนคลาย

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

1.ค่าลงพุง ก่อนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ชายจำนวน 13 คน ค่าลงพุงปกติจำนวน 3 คน ภาวะเสี่ยง 10 คน คิดเป็นร้อยละ 43.33 ผู้หญิงจำนวน 37 คน ค่าลงพุงปกติจำนวน 1 คน  ภาวะเสี่ยงจำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 32.43 อันตรายจำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 64.86
2.ค่าBMI ก่อนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันมีค่าน้ำหนักตัวน้อย/ผอมจำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 4 มากที่สุดน้ำหนักตัวปกติจำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ36 รองลงมาน้ำหนักเกินมีภาวะเสี่ยงจำนวน 11 ราย คิดเป็นร้อยละ 22 และมีภาวะอ้วนระดับ 1 จำนวน 10 คนคิดเป็นร้อยละ 20 มีภาวะอ้วนระดับ 2 จำนวน 9 คนคิดเป็นร้อยละ 18
3.ปิงปองจราจร 7 สี ก่อนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันมากสุดอยู่ในเกณฑ์เสี่ยงจำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 48 รองลงมากลุ่มสงสัยป่วยระดับ 1 จำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 32 เกณฑ์ปกติจำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 12และน้อยสุด กลุ่มสงสัยป่วยระดับ 2 จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 8
4.จำนวนประชากรสงสัยป่วยโรคเบาหวานได้รับการตรวจยืนยัน จำนวน 12 คน พบผู้ป่วยรายใหม่ 1 คน คิดเป็นร้อยละ 8.33
5.จำนวนประชากรสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูงได้รับการตรวจติดตามเพื่อวินิจฉัยจำนวน 37 คน พบผู้ป่วยรายใหม่ 1 คน คิดเป็นร้อยละ 2.70
6.ผู้ป่วยโรคเรื้อรังโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงที่รับยาที่รพ.สตจำนวน 30 คน สามารถควบคุมค่าความดัน 

 

80 0

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น


ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม

ผลการดำเนินโครงการ

สรุปผลการดำเนินโครงการ

ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

ผลการดำเนินงาน
ผลการตรวจสุภาพกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน/ความดันหลังการอบรมติดตาม 3 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน
1 ผลค่าลงพุง แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงมีภาวะความอ้วนและมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆได้ เช่น โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานได้มากที่สุด
1.1ก่อนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ชายจำนวน 13 คน ค่าลงพุงปกติจำนวน 3 คน ภาวะเสี่ยง 10 คน คิดเป็นร้อยละ 43.33 ผู้หญิงจำนวน 37 คน ค่าลงพุงปกติจำนวน 1 คน ภาวะเสี่ยงจำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 32.43 อันตราย จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 64.86
1.2ผลตรวจสุภาพหลังปรับเปลี่ยนครั้งที่ 1 ผู้ชายมีค่าลงพุงมากที่สุดมีภาวะเสี่ยงจำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 43.33 ผู้หญิงมีค่าลงพุงมากที่สุด อันตราย จำนวน 28 คนคิดเป็นร้อยละ 75.67 รองลงมามีความเสี่ยงจำนวน 8 คน คิดเป็น
ร้อยละ 21.62 และค่าลงพุงปกติ จำนวน 1 คน
1.3 ผลตรวจสุภาพหลังปรับเปลี่ยนครั้งที่ 2 ผู้ชายมีค่าลงพุงมากที่สุดมีภาวะเสี่ยงจำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 84.61 ผู้หญิงมีค่าลงพุงเพิ่มขึ้น มากที่สุด อันตราย จำนวน 29 คนคิดเป็นร้อยละ 78.37 รองลงมามีความเสี่ยง จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 18.91 และค่าลงพุงปกติ จำนวน 1 คน
1.4 ผลตรวจสุภาพหลังปรับเปลี่ยนครั้งที่ 3 ผู้ชายมีค่าลงพุงมากที่สุดมีภาวะเสี่ยงจำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 84.61 ผู้หญิงมีค่าลงพุงเพิ่มขึ้น มากที่สุด อันตราย จำนวน 29 คนคิดเป็นร้อยละ 78.37 รองลงมามีความเสี่ยง จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 18.91 และค่าลงพุงปกติ จำนวน 1 คน
2 ผลค่า BMI กลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันมีค่าน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติ เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 42 รองลง มามีความเสี่ยงภาวะอ้วนระดับ 1 คิดเป็นร้อยละ 30 มีความเสี่ยงน้ำหนักเกิน คิดเป็นร้อยละ 14 มีความเสี่ยงภาวะ อ้วนระดับ 2 คิดเป็นร้อยละ 10 และมีน้ำหนักน้อย/ผอม คิดเป็นร้อยละ 4
2.1ค่าBMI ก่อนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันมีค่าน้ำหนักตัวน้อย/ผอมจำนวน 2 คน คิด เป็นร้อยละ 4 มากที่สุดน้ำหนักตัวปกติจำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ36 รองลงมาน้ำหนักเกินมีภาวะเสี่ยงจำนวน 11 ราย คิด
เป็นร้อยละ 22 และมีภาวะอ้วนระดับ 1 จำนวน 10 คนคิดเป็นร้อยละ 20 มีภาวะอ้วนระดับ 2 จำนวน 9 คนคิดเป็นร้อยละ 18
2.2 ผลตรวจสุภาพหลังปรับเปลี่ยนครั้งที่1 กลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันมีค่าน้ำหนักตัวน้อย/ผอมจำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 6 มากที่สุดน้ำหนักตัวปกติจำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ36 รองลงมาน้ำหนักเกินมีภาวะเสี่ยง จำนวน 8 ราย คิดเป็นร้อยละ 16 และมีภาวะอ้วนระดับ 1 จำนวน 13 คนคิดเป็นร้อยละ 26 มีภาวะอ้วนระดับ 2 จำนวน 8 คนคิดเป็นร้อยละ 16
2.3 ผลตรวจสุภาพหลังปรับเปลี่ยนครั้งที่2 กลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันมีค่าน้ำหนักตัวน้อย/ผอมจำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 4 มากที่สุดน้ำหนักตัวปกติจำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 38 รองลงมาน้ำหนักเกินมีภาวะเสี่ยง จำนวน 8 ราย คิดเป็นร้อยละ 16 และมีภาวะอ้วนระดับ 1 จำนวน 16 คนคิดเป็นร้อยละ 35 มีภาวะอ้วนระดับ 2 จำนวน 5 คนคิดเป็นร้อยละ 10
2.4 ผลตรวจสุภาพหลังปรับเปลี่ยนครั้งที่3 กลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันมีค่าน้ำหนักตัวน้อย/ผอมจำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 4 มากที่สุดน้ำหนักตัวปกติจำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 42 รองลงมาน้ำหนักเกินมีภาวะเสี่ยง จำนวน 7 ราย คิดเป็นร้อยละ 14 และมีภาวะอ้วนระดับ 1 จำนวน 15 คนคิดเป็นร้อยละ 30 มีภาวะอ้วนระดับ 2 จำนวน 5 คนคิดเป็นร้อยละ 10
3. ผลค่า ปิงปอง 7 สี กลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันหลังปรับเปลี่ยนพฤติกรรม พบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ เพิ่มขึ้น จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 34 มีภาวะเสี่ยงเบาหวาน/ความดัน เท่าเดิม จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 48 และ กลุ่มป่วย ลดลง จากเดิม กลุ่มสงสัยป่วยระดับ 1 ( BP140/90-159/99mmHg., FBS 125-159 mm/dl) จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 18 และไม่พบกลุ่มสงสัยป่วยระดับ2, ระดับ 3
3.1 ผลปิงปองจราจร 7 สี ก่อนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันมากสุดอยู่ในเกณฑ์เสี่ยง จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 48 รองลงมากลุ่มสงสัยป่วยระดับ 1 จำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 32 เกณฑ์ปกติ จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 12และน้อยสุด กลุ่มสงสัยป่วยระดับ 2 จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 8
3.2 ผลตรวจสุภาพหลังปรับเปลี่ยนครั้งที่ 1 กลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันมากสุดอยู่ในเกณฑ์เสี่ยงจำนวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 40 รองลงมา เท่ากัน อยู่ในเกณฑ์ปกติจำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 26 กับกลุ่มสงสัยป่วย ระดับ 1 จำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 26 และกลุ่มสงสัยป่วยระดับ 2 จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 6 กลุ่มสงสัย ป่วยระดับ 3 จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 2
3.3 ผลตรวจสุภาพหลังปรับเปลี่ยนครั้งที่ 2 กลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดัน เท่าเดิม มากสุดอยู่ในเกณฑ์เสี่ยง จำนวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 46 รองลงมาเกณฑ์ปกติจำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 36 และน้อยสุดกลุ่มสงสัย ป่วยระดับ 1 จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 16
3.4 ผลตรวจสุภาพหลังปรับเปลี่ยนครั้งที่ 3 กลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดัน เพิ่มขึ้น มากสุดอยู่ในเกณฑ์เสี่ยง จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 48 เกณฑ์เสี่ยงจำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 34 และกลุ่มสงสัยป่วยระดับ 1 ลดลง จำนวน 9
คน คิดเป็นร้อยละ 18.36
4. การตรวจติดตามยืนยันวินิจฉัยกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวาน ผ่านเกณฑ์ คิดเป็นร้อยละ 92.31 ตารางแสดงจำนวนประชากรสงสัยป่วยโรคเบาหวานได้รับการตรวจยืนยัน จำนวน 12 คน พบผู้ป่วยรายใหม่ 1 คน คิดเป็นร้อยละ 8.33
5. การตรวจติดตามยืนยันวินิจฉัยกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง ผ่านเกณฑ์ คิดเป็นร้อยละ 100 ตารางแสดงจำนวนประชากรสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูงได้รับการตรวจติดตามเพื่อวินิจฉัยจำนวน 37 คน พบ ผู้ป่วยรายใหม่ 1 คน คิดเป็นร้อยละ 2.70
6. ผู้ป่วยโรคเรื้อรังโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงที่รับยาที่รพ.สตจำนวน 30 คน สามารถควบคุมค่าความดัน สามารถควบคุมค่าความดัน

ผลผลิตโครงการ

วัตถุประสงค์สถานการณ์เป้าหมายผลผลิตอธิบาย
1 เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันสูงมีความรู้ ความเข้าใจและมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปฏิบัติตนที่เหมาะสม เพื่อชะลอภาวการณ์เกิดโรค Ncds. และโรคไตเรื้อรัง
ตัวชี้วัด : 1.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันสูงมีความรู้ ความเข้าใจและมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปฏิบัติตนที่เหมาะสม เพื่อชะลอภาวการณ์เกิดโรค Ncds. และโรคไตเรื้อรัง ร้อยละ 80
40.00 80.00 95.00

 

2 เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสงสัยป่วยเบาหวานและความดันสูงได้รับการติดตาม และส่งต่อพบแพทย์เพื่อได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและได้รักษาทันท่วงที
ตัวชี้วัด : 1.การตรวจติดตามยืนยันวินิจฉัยกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวาน ร้อยละ 70 2.การตรวจติดตามยืนยันวินิจฉัยกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 85
30.00 80.00 100.00

1.ตรวจติดตามยืนยันวินิจฉัยกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวาน ผ่านเกณฑ์ คิดเป็นร้อยละ 92.3

2.การตรวจติดตามยืนยันวินิจฉัยกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง ผ่านเกณฑ์ คิดเป็นร้อยละ 100
3.ได้รับการส่งต่อพบแพทย์เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัย
3.1จำนวนประชากรสงสัยป่วยโรคเบาหวานได้รับการตรวจยืนยัน จำนวน 12 คน พบผู้ป่วยรายใหม่ 1 คน คิดเป็นร้อยละ 8.33
3.2จำนวนประชากรสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูงได้รับการตรวจติดตามเพื่อวินิจฉัยจำนวน 37 คน พบผู้ป่วยรายใหม่ 1 คน คิดเป็นร้อยละ 2.70

3 เพื่อให้กลุ่มป่วยโรคเรื้อรังมีความรู้ ความเข้าใจและมีพฤติกรรมการปฏิบัติตนที่เหมาะสมเพื่อป้องกันและชะลอการเพิ่มขึ้นของภาวะไตวายเรื้อรัง
ตัวชี้วัด : 3.1ผู้ป่วยโรคเรื้อรังโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงที่รับยาที่รพ.สต. สามารถควบคุมความดัน <140/90 mmHg. ร้อยละ 60 3.2.ผู้ป่วยโรคเรื้อรังโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงที่รับยาที่รพ.สต. ผลค่า CVD Risk ระดับความเสี่ยงสูง 20- <30% ลดลงน้อยกว่า ร้อยละ 60
40.00 60.00 83.33

3.1ผู้ป่วยโรคเรื้อรังโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงที่ รับยาที่รพ.สตจำนวน 30 คน สามารถควบคุมค่าความดัน

4 เพื่อให้กลุ่มป่วยโรคเรื้อรังได้รับการติดตามเยี่ยมบ้าน ครอบครัวมีส่วนรวมในการดูแลสุขภาพร่วมกัน
ตัวชี้วัด : 4.การเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยที่มีภาวะไตวายเรื้อรังในชุมชน ลดลง ร้อยละ 40
50.00 40.00 16.44

ร้อยละของผู้ป่วยDM,HT เป็นโรคไตเรื้อรังรายใหม่ จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 16.44 (สะสมในปีงบประมาณเดือน ตุลาคม พ.ศ.2566 – เดือนกันยายน พ.ศ.2567)

ผู้เข้าร่วมโครงการ

กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 80
กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน -
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน -
กลุ่มวัยทำงาน -
กลุ่มผู้สูงอายุ -
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด -
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 30 30
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ -
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง 50 50
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] -

บทคัดย่อ*

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันสูงมีความรู้ ความเข้าใจและมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปฏิบัติตนที่เหมาะสม เพื่อชะลอภาวการณ์เกิดโรค Ncds. และโรคไตเรื้อรัง (2) เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสงสัยป่วยเบาหวานและความดันสูงได้รับการติดตาม และส่งต่อพบแพทย์เพื่อได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและได้รักษาทันท่วงที (3) เพื่อให้กลุ่มป่วยโรคเรื้อรังมีความรู้ ความเข้าใจและมีพฤติกรรมการปฏิบัติตนที่เหมาะสมเพื่อป้องกันและชะลอการเพิ่มขึ้นของภาวะไตวายเรื้อรัง (4) เพื่อให้กลุ่มป่วยโรคเรื้อรังได้รับการติดตามเยี่ยมบ้าน ครอบครัวมีส่วนรวมในการดูแลสุขภาพร่วมกัน

ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่
(1) กิจกรรมที่ 3. กิจกรรมตรวจสุขภาพประชาชนกลุ่มเสี่ยงหลังเข้ารับการอบรบโครงการ ครั้งที่ 1

(2) กิจกรรมที่ 1.จัดประชุมชี้แจงโครงการโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำรพ.สต. แก่อาสาสมัครชุมชน
(3) กิจกรรมอบรมให้ความรู้ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเกี่ยวกับโรค NCDs.และโรคไตเรื้อรัง โดยจัดอบรม 2 วัน โดยแบ่งกลุ่มตามกลุ่มเป้าหมาย
(4) กิจกรรมการเยี่ยมบ้านพร้อมติดตามตรวจสุขภาพกลุ่มประชาชนกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันโลหิตสูง และกลุ่มป่วยโรคเรื้อรังที่รับยาที่รพ.สต.ที่มีค่า BP >140/90mmHg

ข้อเสนอแนะ ได้แก่ ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจยืนยันเพื่อเฝ้าระวังการเกิดโรค และได้รับการส่งต่อเพื่อป้องกันการเกิดโรคได้ทันท่วงที
2.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเกิดความตระหนักถึงความสำคัญของโรค และมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลตนเอง เพื่อป้องกันการเกิดโรคได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ลดโอกาสการเกิดโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง
3.ผู้ป่วยโรคเรื้อรังโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงเกิดความตระหนัก และมีความรู้เกี่ยวกับโรคที่เป็นสามารถปฏิบัติดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม และไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเพิ่มขึ้น

หมายเหตุ *

  • บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
  • หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh

ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ

ปัญหาและอุปสรรคสาเหตุข้อเสนอแนะ

 

 

 


โครงการ ลดโรคNCDs. ชะลอไตเสื่อม เพื่อลดผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังรายใหม่ ปีงบประมาณ 2567 จังหวัด

รหัสโครงการ 67-L3050-01-06

ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

................................
( นายกอดะ เจะมะ )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......

vertical_align_topไปบนสุด