โครงการสร้างเครือข่ายติดตามวัคซีนแบบยั่งยืนในเด็กอายุ 0-5 ปี
ชื่อโครงการ | โครงการสร้างเครือข่ายติดตามวัคซีนแบบยั่งยืนในเด็กอายุ 0-5 ปี |
รหัสโครงการ | 67-L4156-02-04 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกะรอ |
วันที่อนุมัติ | 29 กุมภาพันธ์ 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2566 - 30 กันยายน 2567 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2567 |
งบประมาณ | 21,950.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายรีฎวน มะเซ็ง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลเกะรอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.535,101.576place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 118 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากการเฝ้าระวังการดำเนินงานด้านการสาธารณสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่า ยังมีปัญหาสำคัญที่รอการแก้ไขอยู่ เช่น ปัญหาอนามัยแม่และเด็กที่กำลังเข้าขั้นวิกฤติ ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากความเชื่อและวิถีชีวิตของชาวไทยมุสลิมที่ไม่ชอบรับประทานอาหารมากและไม่นิยมรับประทานยาบำรุงเนื่องจากกลัวเด็กตัวโต คลอดลำบาก ความเชื่อที่ต้องการคลอดกับหมอตำแย นอกจากปัญหาอนามัยแม่และเด็กแล้ว ยังพบว่า ปัญหาการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยวัคซีนในเด็กอายุ 0-5 ปี ก็เป็นปัญหาที่สำคัญของจังหวัดชายแดนภาคใต้เช่นกัน โดยพบว่า พื้นที่นี้มีอุบัติการณ์ของโรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนหลายชนิดสูงที่สุดในประเทศไทย สถานการณ์โรคหัดในประเทศไทยปี พ.ศ. 2562 พบผู้ป่วยโรคหัดจำนวน 6,614 ราย หรือ 9.95 ต่อแสนประชากร เสียชีวิต 25 ราย ภาคใต้มีอัตราป่วยสูงสุด 27.79 ต่อแสนประชากร รองลงมาคือภาคกลาง 10.29 ต่อแสนประชากร เด็กอายุ 0-4 ปี มีอัตราป่วยสูงสุด 64.71 ต่อประชากรแสนคน รองลงมา คือ กลุ่มอายุ 15-24 ปี (17.66) 5-9 ปี (14.67) 25-34 ปี (14.30) และ 10-14 ปี (10.76) ส่วนมากมีสัญชาติไทย ร้อยละ 91.79 พม่า (6.37) กัมพูชา (0.80) และอื่น ๆ (0.62) ปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขและพัฒนาหารูปแบบแนวทางการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพอย่างเร่งด่วน ซึ่งจำเป็นต้องมีข้อมูลอย่างรอบด้าน ทั้งจากผู้ให้บริการและผู้รับบริการที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักและสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงให้มากที่สุดคือ รูปแบบการแก้ปัญหานั้นต้องเกิดจากการมีส่วนร่วมในชุมชนทุกภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เป็นรูปแบบที่เกิดจากความต้องการของผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ สอดคล้องกับบริบทและวัฒนธรรมของชาวไทยมุสลิมที่มีวิถีการดำเนินชีวิตที่เป็นรูปแบบเฉพาะ เพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของประชาชนในการปฏิบัติในกิจกรรมนั้นๆ จากการทบทวนวรรณกรรมพบว่า รูปแบบการดำเนินการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยวัคซีนขององค์กรสาธารณสุขที่เป็นอยู่ จะประกอบด้วย การจัดเป็นคลินิกเฉพาะ มีการจัดบริการที่เป็นสัดส่วน มีมุมนันทนาการ มีกิจกรรมที่บริการเพิ่ม คือ การตรวจพัฒนาการ การให้คำแนะนำในการเลี้ยงดูตามวัย การจัดบริการเชิงรุก การให้ความรู้แก่ผู้รับผิดชอบ เป็นต้นซึ่งรูปแบบดังกล่าวข้างต้น เป็นรูปแบบที่เกิดจากนโยบายการจัดบริการสาธารณสุขซึ่งเกือบทุกสถานที่บริการของรัฐจะดำเนินการคล้ายๆ กัน ดังนั้นผู้ดำเนินโครงการจึงมีแนวคิดในการแก้ไขปัญหาโดยการพัฒนารูปแบบที่เป็นรูปแบบเฉพาะซึ่งสอดคล้องกับวิถีการดำเนินชีวิต และวัฒนธรรมของชุมชน ภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนและภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องโดยคาดหวังถึงผลสำเร็จที่จะเกิดขึ้นต่อประสิทธิภาพ การเข้าถึงบริการ และความครอบคลุมของการได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยวัคซีน ซึ่งส่งผลต่อการลดอัตราป่วย ตายด้วยโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ในเด็กซึ่งจะเติบโตเป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไปในอนาคต
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้ความรู้เรื่องวัคซีนแก่ผู้ปกครอง ตัวชี้วัด : ผู้ปกครองเข้ารับการอบรมให้ความรู้เรื่องวัคซีน ร้อยละ 100 |
||
2 | 2. เพื่อให้เด็กอายุ 0-5 ปี มารับบริการฉีดวัคซีนตามนัด ตัวชี้วัด : เด็กอายุ 0-5 ปี มารับบริการฉีดวัคซีนตามนัดร้อยละ 90 |
ลำดับ | กิจกรรมหลัก | งบประมาณ | ต.ค. 66 | พ.ย. 66 | ธ.ค. 66 | ม.ค. 67 | ก.พ. 67 | มี.ค. 67 | เม.ย. 67 | พ.ค. 67 | มิ.ย. 67 | ก.ค. 67 | ส.ค. 67 | ก.ย. 67 | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | กิจกรรมเเลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผู้ที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ กิจกรรมระบบติดตามวัคซีนเชิงรุก(1 ต.ค. 2566-30 ก.ย. 2567) | 21,950.00 | |||||||||||||
รวม | 21,950.00 |
1 กิจกรรมเเลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผู้ที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ กิจกรรมระบบติดตามวัคซีนเชิงรุก | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 118 | 21,950.00 | 2 | 21,950.00 | |
1 ต.ค. 66 | กิจกรรมเเลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผู้ที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ กิจกรรมระบบติดตามวัคซีนเชิงรุก | 118 | 21,950.00 | ✔ | 21,950.00 | |
1 ต.ค. 66 - 30 ก.ย. 67 | กิจกรรมให้ความรู้ผู้ปกครองเด็กอายุ 0-5 ปี | 0 | 0.00 | ✔ | 0.00 | |
1.ผู้รับบริการมาฉีดวัคซีนตามนัด
2. ผู้รับบริการมีสุขภาพดี ไม่เกิดโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน
3.ผู้ปกครองมีทัศนคติที่ดี และทราบผลเสียของการได้รับวัคซีนล่าช้า
4. เพื่อให้ผู้ปกครองมีความรู้ในเรื่องของวัคซีน /เกณฑ์อายุ /ฤทธิ์ข้างเคียงของวัคซีน / การดูแล
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2567 15:04 น.