โครงการสุขภาพดีสร้างได้ด้วยวัคซีน ปี 2568
ชื่อโครงการ | โครงการสุขภาพดีสร้างได้ด้วยวัคซีน ปี 2568 |
รหัสโครงการ | 2568-L4135-02-06 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบุดี |
วันที่อนุมัติ | 5 กุมภาพันธ์ 2568 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 5 กุมภาพันธ์ 2568 - 31 สิงหาคม 2568 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 สิงหาคม 2568 |
งบประมาณ | 25,500.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายอะหมัดลุตฟี กามา |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบุดี อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
แผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ ฉบับที่สอง เป็นแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านวัคซีนในระยะ 5 ปี พ.ศ. 2560-2564 ต่อเนื่องจากนโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ ฉบับแรก มีเป้าหมายสำคัญ คือ การสร้างความมั่นคงและการพึ่งตนเองด้านวัคซีน ประชาชนมีวัคซีนใช้อย่างเพียงพอ สามารถเข้าถึงการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในเด็กอายุ 0-5 ปี นับเป็นพื้นฐานสำคัญของการ
ป้องกันโรคติดต่อที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน เพื่อให้เด็กห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ เจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งเป็นนโยบายหนึ่งของกระทรวงสาธารณสุขที่ว่าด้วย เด็กอายุ 0-5 ปี จะต้องได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคครบตามเกณฑ์อายุ ร้อยละ 100 และโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีนต้องหายไปจากประเทศไทย การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเป็นกลวิธีในการป้องกันควบคุมโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด
กระทรวงสาธารณสุขได้จัดให้มีการบริการวัคซีนขั้นพื้นฐานตามช่วงอายุที่เหมาะสม เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแก่เด็กกลุ่มเป้าหมายที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยทุกคน ตามสิทธิประโยชน์พื้นฐานในการบริการ สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ภายใต้คำแนะนำของคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งสำหรับโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนที่ให้บริการมีวัคซีน 11 ชนิด ได้แก่ วัคซีนป้องกันวัณโรค (BCG) วัคซีนป้องกันโรค ตับอักเสบบี(HB) วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี-ฮิบ (DTP-HB-Hib) วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน (OPV) วัคซีนโรต้า (Rota) วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด (IPV) วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (MMR) วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ (LAJE) วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน (DTP) วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกจาก
เชื้อเอชพีวี (HPV) และวัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก (dT) ซึ่งป้องกันทั้งหมด 13 โรค ได้แก่ โรคตับอักเสบบี วัณโรค
โรคคอตีบ โรคบาดทะยัก โรคไอกรน โรคฮิบ โรคโปลิโอ โรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า โรคหัด โรคหัดเยอรมัน โรคคางทูม
โรคไข้สมองอักเสบเจอี และมะเร็งปากมดลูกจากเชื้อเอชพีวี และกำหนดให้วัคซีนในผู้ใหญ่ ได้แก่ วัคซีนรวมป้องกันโรค
คอตีบ-บาดทะยัก (dT) วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) วัคซีนรวม ป้องกันโรคหัด-หัดเยอรมัน (MR) และวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี (HB)
ด้วยสภาพการณ์ปัจจุบัน การดำเนินงานในกิจกรรมงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในพื้นที่หมู่ที่ 1,2 และหมู่ที่ 8
ตำบลบุดี มีประชากรเด็กอายุ 0- 5 ปี ปีงบประมาณ 2567 จำนวน 280 คน และได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ จำนวน 245 คน คิดเป็น 87.5 % ซึ่งต้องติดตามเด็กอีกจำนวน7 คน ถึงจะทำได้มากกว่า 90%ซึ่งได้รับความร่วมมือจากชุมชนเป็นอย่างดี แต่ยังมีเด็กที่ฉีดวัคซีนล่าช้า ทำให้การดำเนินงานไม่บรรลุตามเป้าหมาย
การดำเนินงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค นอกจากกลุ่มเด็กอายุ 0-5 ปี แล้วยังมีกลุ่มหญิงที่มีอายุ 11-20 ปี ที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV เนื่องจาก โรคมะเร็งปากมดลูก เป็นโรคที่พบมากในหญิงไทยเป็นอันดับ 2
รองจากมะเร็งเต้านม ในแต่ละปี หญิงไทยป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกสูงถึงปีละเกือบหมื่นราย และมีอัตราเสียชีวิตเกิน 50% นับว่าเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญ การป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส HPV ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกจึงเป็นแนวทางการป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด โดยหลักการสำคัญคือ ควรฉีดตั้งแต่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้เด็ก 0-5 ปี ได้รับการวัคซีนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคตามเกณฑ์ที่กำหนด
|
0.00 | |
2 | 2. ผู้ปกครองเด็ก 0-5 ปี มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน
|
0.00 | |
3 | 3. เพื่อให้กลุ่มหญิงที่มีอายุ 11-20 ปี ให้ความสำคัญ ในการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
|
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 25,500.00 | 0 | 0.00 | |
5 ก.พ. 68 - 31 ส.ค. 68 | อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับวัคซีน ในเด็กอายุ 0-5 ปี | 0 | 12,750.00 | - | ||
5 ก.พ. 68 - 31 ส.ค. 68 | อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกHPV | 0 | 12,750.00 | - |
- ร้อยละ 90 เด็ก 0 – 5 ปี ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ร้อยละ 90
- ร้อยละ 80 ผู้ปกครองเด็กมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องวัคซีนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
- กลุ่มหญิงที่มีอายุ 11-20 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV ร้อยละ 80
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2568 00:00 น.