กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์

รายงานฉบับสมบูรณ์


โครงการ
“ โครงการเด็กปิใหญ่สดใส ใส่ใจรักสุขภาพ ”
โรงเรียนบ้านปิใหญ่ หมู่ที่ 5 ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล



หัวหน้าโครงการ
โรงเรียนบ้านปิใหญ่




ชื่อโครงการ โครงการเด็กปิใหญ่สดใส ใส่ใจรักสุขภาพ

ที่อยู่ โรงเรียนบ้านปิใหญ่ หมู่ที่ 5 ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล จังหวัด สตูล

รหัสโครงการ 2561– L8010 – 2 - 01 เลขที่ข้อตกลง

ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2560 ถึง 30 กันยายน 2561

กิตติกรรมประกาศ

"โครงการเด็กปิใหญ่สดใส ใส่ใจรักสุขภาพ จังหวัดสตูล" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน โรงเรียนบ้านปิใหญ่ หมู่ที่ 5 ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.กำแพง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการเด็กปิใหญ่สดใส ใส่ใจรักสุขภาพ



บทคัดย่อ

โครงการเด็กปิใหญ่สดใส ใส่ใจสุขภาพ ของโรงเรียนบ้านปิใหญ่ ปีการศึกษา 2561 ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1.)เพื่อเฝ้าระวังและติดตามโภชนาการในกลุ่มเด็ก 5 -13 ปี ที่เสี่ยงต่อการมีภาวะทุพโภชนาการ 2.) เพื่อให้ครู ผู้ปกครองเด็ก และแม่ครัวในโรงเรียนบ้านปิใหญ่ มีความรู้เรื่องภาวะโภชนาการในเด็ก และส่งเสริมให้เด็กรับประทานผักและผลไม้ 3.) เพื่อให้เด็ดที่มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ เกินเกณฑ์และกลุ่มเสี่ยง ได้รับการติดตาม และดูแลอย่างใกล้ชิดโดยภาคีเครือข่าย มีส่วนร่วมในการดูแลเด็กที่มีปัญหาด้านภาวะทุพโภชนาการ 4.) เพื่อส่งเสริม พัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาของเด็ก และส่งเสริมให้เด็กรักการออกกำลังกาย 5.) เพื่อส่งเสริมให้เด็กและผู้ปกครองในชุมชนมีสุขภาพที่สมบูรณ์ แข็งแรง ลดอัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้ และสร้างความรัก ความสามัคคีในชุมชน

สรุปลผลการดำเนินโครงการ ซึ่งผลการดำเนินโครงการเด็กปิใหญ่สดใส ใส่ใจรักสุขภาพ พบว่า มีค่าเฉลี่ยรวมทุกกิจกรรมอยู่ในระดับมากที่สุด

กิจกรรมที่ 1 เฝ้าระวังและติดตามภาวะทุพโภชนาการเด็ก โรงเรียนได้ดำเนินการจัดทำเอกสารสมุบันทึกสุขภาพนักเรียน โดยจัดให้มีการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ทุกเดือน และทำทะเบียนเด็กที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน และเด็กที่มีน้ำหนักน้อยหรือผอม และมีการออกเยี่ยมบ้านนักเรียนเพื่อติดตามเรื่องภาวะทุพโภชนาการและการได้รับประทานอาหารของเด็กขณะอยู่ที่บ้าน และจัดทำคู่มือเมนูอาหารสำหรับเด็กวัยเรียน แจกให้ผู้ปกครองเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการ ผลการติดตามพบว่า ก่อนดำเนินกิจกรรมนักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการทั้งหมด 47 คน คิดเป็นร้อยละ 38.52 หลังดำเนินกิจกรรมพบว่า นักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการ จำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 25.21

กิจกรรมที่ 2 อบรม/ให้ความรู้

กิจกรรมที่ 2.1 ให้ความรู้เรื่องภาวะโภชนาการในเด็ก 5-13 ปี แก่ครู ผู้ปกครอง แม่ครัวและคณะกรรมการสถานศึกษา พบว่า คะแนนความพึงพอใจในกิจกรรมมีค่าเฉลี่ย 81.04 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินรายข้อ พบว่า ทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรมและความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อความสำคัญของอาหาร มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.63 รองลงมาคือ ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อการดูแลสุขภาพอนามัยของเด็กวัยเรียน มีค่าเฉลี่ย 81.43 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรม มี่าเฉลี่ยต่ำสุด 77.05

กิจกรรมที่ 2.2 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "ไข่แปลงร่าง" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.14 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้และขั้นตอนการทำไข่แปลงร่าง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.32 รองลงมาคือ ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อความรู้ประโยชน์ของไข่แปลงร่าง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 81.47 ส่วนความรู้ที่ไ้รับจากหัวข้อ ไข่แปลงร่าง คืออะไร มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 79.58

กิจกรรมที่ 2.3 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "สลัดผัก/ผักโรล" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.30 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้และขั้นตอนการทำสลัดผัก/ผักโรล มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.32 รองลงมาคือ ทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.68 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรมและความเหมาะสมของอาหารว่างและเครื่องดื่ม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.63

กิจกรรมที่ 2.4 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "ผักกร๊อบกรอบ" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.43 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้และขั้นตอนการทำผักกร๊อบกรอบ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.74 รองลงมาคือ ทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรม ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อเมนูผักกร๊อบกรอบ คืออะไร และความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อประโยชน์ของผักกร๊อบกรอบ มีค่าเฉลี่ย 81.68 ส่วนความเหมาะสมของอาหารว่างและเครื่องดื่ม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.63

กิจกรรมที่ 2.5 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "ซูชิแฟนซี" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.96 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม และความรู้ ขั้นตอนการทำซูชิแฟนซี มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.74 รองลงมาคือ ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อประโยชน์ของซูชิแฟนซี มีค่าเฉลี่ย 82.36 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.84

กิจกรรมที่ 2.6 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "สมูทตี้ผัก-ผลไม้" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.85 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อ ประโยชน์ของสมูทตี้ผัก-ผลไม้ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 83.16 รองลงมาคือ ประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมและความรู้และขั้นตอนการทำสมูทตี้ผัก-ผลไม้ มีค่าเฉลี่ย 82.74 ส่วนความเหมาะสมของอาหารว่างและเครื่องดื่ม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.63

กิจกรรมที่ 3 ติดตามเด็กที่มีภาวะโภชนาการเกินและผอมโดยภาคีเครือข่าย มีส่วนร่วมในการดูแลเด็กที่มีปัญหาด้านภาวะทุพโภชนาการ โดยโรงเรียนจัดกิจกรรมออกเยี่ยมบ้าน ให้คำแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพและเรื่องการรับประทานอาหาร การออกกำลังกายและจัดให้มีการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูงเดือนละครั้ง ผลการติดตามพบว่า ก่อนดำเนินกิจกรรมนักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการทั้งหมด มีจำนวน 47 คน คิดเป็นร้อยละ 38.52 หลังดำเนินกิจกรรม พบว่า นักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการ มีจำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 25.21

กิจกรรมที่ 4 ส่งเสริมการออกกำลังกายและพัฒนาการ

4.1 สร้างลานตัวหนอนเพื่อการเรียนรู้ บริเวณ ถนนหน้าอาคารเรียน (สนาม BBL) โดยนักเรียนและผู้ปกครอง ผลการดำเนินงาน โรงเรียนมีลานตัวหนอนเพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายและส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 2 จุด คือ ถนนหน้าอาคารเรียน 1 และลานตัวหนอนหน้าอาคารเรียนอนุบาล โดยเด็กจะใช้ลานตัวหนอนในการเล่นออกกำลังกายในช่วงเวลาว่าง หรือตอนพักกลางวัน มาเล่นกิจกรรมการเรียนรู้บนลานตัวหนอนต่างๆ ส่งผลให้นักเรียนร้อยละ 80 มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา และรักการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น

4.2 กิจกรรมการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง โรงเรียนจัดตั้งชมรมกีฬาเพื่อสุขภาพ มีชมรมวอลเลย์บอล ชมรมแบตมินตัน ชมรมฟุตบอล และชมรมฮูลาฮูป เพื่อให้เด็กได้ใช้เวลาหลังเลิกเรียนหรือใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มาออกกำลังกายก่อนกลับบ้าน จัดเตรียมอุปกรณ์การออกกำลังกายให้กับนักเรียนทุกคนได้ใช้อย่างพอเพียง จากการดำเนินงานตามโครงการที่กล่าวมาแล้ว ส่งผลให้เด็กและผู้ปกครองร้อยละ 80 มีน้ำหนักและส่วนสูงตามวัย ลดปัญหาทุพโภชนาการ มีสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพของตน รู้จักหลีกเลี่ยงต่อสภาวะที่เสี่ยงต่อโรค อุบัติเหตุ ถัย และสิ่งเสพติด การได้ออกกำลังกายบ่อยๆ ส่งผลให้เด็กมีทักษะในการเลื่อนไหวตามวัย

4.3 กิจกรรมเต้นแอโรบิคเพื่อออกกำลังกายในตอนเย็น เพื่อให้นักเรียน ประชาชน มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ลดอัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้ และเพื่อสร้างความรักความสามัคคีในชุมชน ผลการดำเนินการ ทางโรงเรียนเชิญวิทยากรมาให้ความรู้เกี่ยวกับการเต้นแอโรบิคแบบง่ายๆ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ในช่วงตอนเย็น ส่งผลให้เด็กมีน้ำหนักและส่วนสูงตามวัย ลดปัญหาทุพโภชนาการ มีสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพของตนเอง การได้ออกกำลังกายบ่อยๆ ส่งผลให้เด็กมีทักษะในการเคลื่อนไหวตามวัย

4.4 กิจกรรมส่งเสริมทันตสุขภาพ ผลการดำเนินการเพื่อดูแลและแก้ปัญหาด้านสุขภาพของผู้เรียนดูแลให้ผู้เรียนรักษาความสะอาดอนามัยส่วนตัว จัดกิจกรรมแปรงฟังหลังอาหารกลางวัน โดยการประสานงานกับเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลละงู มาอบรมวิธีการดูแลสุขภาพในช่องปากและฟันของเด็กวัยเรียน สอนวิธีการแปรงฟัน การตรวจฟันเพื่อรักษาและตรวจสุขภาพฟัน พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรมมีค่าเฉลี่ย 83.80 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อ วิธีการใช้สีย้อมฟัน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 90.00 รองลงมา คือความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อ การสาธิตการแปรงฟันและฝึกการแปรงฟันที่ถูกวิธี มีค่าเฉลี่ย 84.14 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรมมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 81.61

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"


สารบัญ

กิตติกรรมประกาศ»
บทคัดย่อ»
   ความเป็นมา/หลักการเหตุผล»
   วัตถุประสงค์โครงการ»
   กิจกรรม/การดำเนินงาน»
   กลุ่มเป้าหมาย»
   ผลลัพธ์ที่ได้»
   การประเมินผล»
   ปัญหาและอุปสรรค»
   ข้อเสนอแนะ»
   เอกสารประกอบอื่นๆ»

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

อาหารและภาวะโภชนาการที่ดีเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาของเด็กวัยวัยเรียน ปัญหาทางโภชนาการที่พบบ่อยในเด็กวัยนี้ ได้แก่ ภาวะการณ์เจริญเติบโตไม่สมวัย มีพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสมเช่นการไม่รับประทานผักผลไม้ เด็กเบื่ออาหารเด็กชอบกินขนมกรุบกรอบ เป็นต้นซึ่งปัญหาเหล่านี้จะส่งผลให้เกิดภาวะทุพโภชนาการในเด็กวัยเรียนการส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและกีฬา จะทำให้ร่างกายแข็งแรงจิตใจสดชื่น ดังคำกล่าวที่ว่า "จิตใจที่งดงามย่อมอยู่ในร่างกายแข็งแรง" แสดงว่าร่างกายกับจิตใจมีความสัมพันธ์กันอย่างแยกไม่ออก ถ้าร่างกายแข็งแรงจิตใจก็จะเบิกบานหรือในทางกลับกัน ถ้ามีจิตใจเข้มแข็งจะเกิดพลังหรือกำลังใจ ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นซึ่งทางโรงเรียนบ้านปิใหญ่ได้จัดทำ “โครงการเด็กปิใหญ่สดใสใส่ใจรักษ์สุขภาพ”ซึ่งมีกิจกรรมการให้ความรู้ทางโภชนาการในเด็กวัยเรียนกิจกรรมการออกกำลังกายและเล่นกีฬาในโรงเรียน เพื่อให้เด็กนักเรียนและบุคคลากรภายในโรงเรียนได้มีการออกกำลังกายและเล่นกีฬากัน เป็นการส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจให้สมบูรณ์แข็งแรง ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการเด็กทั้งทางด้านร่างกายอารมณ์สังคมและสติปัญญา การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาวะ (Well-being) ทั้งมิติทางกาย ใจ สังคม ปัญญา (จิตวิญญาณ) และมิติของคน ครอบครัว สังคมมากขึ้น โดยเริ่มจากวัยต้นของชีวิต คือ เด็กปฐมวัยซึ่งเป็นวัยที่มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นวัยที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และเป็นวัยที่เริ่มต้นการรับรู้และเพื่อเป็นพื้นฐานของช่วงวัยต่อไป ปัญหาในการดำเนินส่งเสริมสุขภาพเด็กปฐมวัย พบว่า เด็กยังประสบปัญหาภาวะทุพโภชนาการเป็นจำนวนมาก จากรายงานการเฝ้าระวังภาวะโภชนาการเด็ก 5-13 ปี พ.ศ.2560 พบว่า เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านปิใหญ่มีปัญหาภาวะทุพโภชนาการ พบว่า เด็กที่น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์มีจำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 15.45เด็กที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มีจำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 13.82 , เด็กที่มีส่วนสูงต่ำกว่าเกณฑ์มีจำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 8.94 รวมจำนวนเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการจำนวน47คนคิดเป็นร้อยละ38.52นอกจากนี้ยังมีเด็กที่ไม่กินผัก จำนวน 39 คนคิดเป็นร้อยละ 31.71 มีนักเรียนชั้นปฐมวัยและเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการที่ไม่กินไข่จำนวน23คนคิดเป็นร้อยละ 18.70และเด็กที่มีปัญหาสุขภาพในช่องปาก จำนวน 40คน คิดเป็นร้อยละ 32.79ซึ่งจากปัญหาเหล่านี้จะส่งผลต่อพัฒนาการทางด้านร่างกายพัฒนาการทางด้านสติปัญญา อารมณ์ จิตใจ และสังคมของเด็กตามมา จำเป็นต้องมีการส่งเสริมและพัฒนาเด็กให้มีพัฒนาการที่สมวัยในทุกด้านของชีวิต การแก้ไขปัญหาโดยการมีมุมส่งเสริมโภชนากการและพัฒนาการเด็กในสถานศึกษา และการดำเนินงานแก้ไขปัญหาและส่งเสริมพัฒนาการเด็ก เจ้าหน้าที่เพียงฝ่ายเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาให้ลดน้อยหรือหมดไปได้ สิ่งสำคัญจะต้องมีการให้ความรู้แก่พ่อแม่ ผู้เลี้ยงดูเด็ก และส่งเสริมให้ครอบครัวและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก
จากสภาพปัญหาดังกล่าว โรงเรียนบ้านปิใหญ่จึงได้จัดทำโครงการ“เด็กปิใหญ่สดใสใส่ใจรักษ์สุขภาพ” เพื่อเฝ้าระวังและติดตามภาวะทุพโภชนาการเด็กและติดตามเด็กที่มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์, เกินเกณฑ์และกลุ่มเสี่ยงส่งเสริมเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย เป็นการเพิ่มทักษะให้เด็กในการประกอบอาหาร ส่งเสริมการออกกำลังกายและพัฒนาการ ทางด้านสติปัญญาด้วย สนาม BBL โดยการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชนในการแก้ไขปัญหาและพัฒนางานด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

  1. เพื่อเฝ้าระวังและติดตามโภชนาการในกลุ่มเด็ก 5-13 ปี ที่เสี่ยงต่อการมีภาวะทุพโภชนาการ
  2. เพื่อให้ครู ผู้ปกครองเด็ก แม่ครัวและคณะกรรมการสถานศึกษา มีความรู้เรื่องภาวะโภชนาการในเด็ก และส่งเสริมให้เด็กรับประทานผักและผลไม้
  3. เพื่อให้เด็กที่น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์เกินเกณฑ์และกลุ่มเสี่ยง ได้รับการติดตาม ดูแลอย่างใกล้ชิดโดยภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการดูแลเด็กที่มีปัญหาด้านภาวะทุพโภชนาการ
  4. เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญาของเด็กและส่งเสริมให้เด็กรักออกกำลังกาย
  5. เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญาของเด็กและส่งเสริมให้เด็กรักออกกำลังกาย
  6. เพื่อให้เด็กและผู้ปกครองในชุมชนมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงปัญหาโรคฟันผุลดลง และลดอัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้และสร้างความรักความสามัคคีในชุมชน

กิจกรรม/การดำเนินงาน

  1. กิจกรรมเฝ้าระวังและติดตามภาวะทุพโภชนาการเด็ก
  2. กิจกรรมติดตามเด็กที่มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์, เกินเกณฑ์และกลุ่มเสี่ยงโดยภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการดูแลเด็กที่มีปัญหาด้านภาวะทุพโภชนาการ
  3. กิจกรรมให้ความรู้เรื่องภาวะโภชนาการในเด็ก 5-13 ปี แก่ครู ผู้ปกครอง และแม่ครัว โรงเรียนบ้านปิใหญ่
  4. กิจกรรมที่ 4 ส่งเสริมการออกกำลังกายและพัฒนาการ
  5. กิจกรรมที่ 2.2 เสริมประสบการณ์ การประกอบอาหาร
  6. กิจกรรมสรุปผลการดำเนินงานกองทุนฯ

กลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน 122
กลุ่มวัยทำงาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

  1. เด็ก 5-13 ปี ได้รับการเฝ้าระวังและติดตามภาวะทุพโภชนาการอย่างครอบคลุม
  2. ครู ผู้ปกครอง และแม่ครัวมีความรู้และเข้าใจเรื่องภาวะโภชนาการในเด็ก
  3. เด็กที่มีปัญหาทุพโภชนาการมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมตามวัย
  4. เด็กมีภาวะโรคฟันผุลดลงและได้รับการรักษาที่ถูกวิธี
  5. เด็ก ครูผู้ปกครองมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงลดอัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้และลดปัญหาทุพโภชนาการในเด็กวัยเรียน

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ
ผลผลิต*
ผลผลิตที่ตั้งไว้ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง

1. กิจกรรมที่ 1 เฝ้าระวังและติดตามภาวะทุพโภชนาการเด็ก

วันที่ 22 พฤษภาคม 2561

กิจกรรมที่ทำ

1.1ดำเนินการชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงเด็กอายุ 5- 12 ปี

1.2 บันทึกผลในสมุดทะเบียนเด็กและสมุดบันทึกสุขภาพเด็ก  พร้อมแจ้งผู้ปกครองให้ทราบ

1.3 จัดทำทะเบียนเด็กที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน และเด็กที่มีน้ำหนักน้อยหรือผอม แยกเป็นรายเฉพาะ

1.4 จัดทำคู่มือเมนูอาหารแต่ละชนิด คุณประโยชน์ของอาหารแต่ละชนิดและโภชนาการสำหรับเด็ก

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

กิจกรรมที่ 1 เฝ้าระวังและติดตามภาวะทุพโภชนาการเด็ก

โรงเรียนได้ดำเนินการจัดทำเอกสารสมุบันทึกสุขภาพนักเรียน โดยจัดให้มีการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ทุกเดือน และทำทะเบียนเด็กที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน และเด็กที่มีน้ำหนักน้อยหรือผอม และมีการออกเยี่ยมบ้านนักเรียนเพื่อติดตามเรื่องภาวะทุพโภชนาการและการได้รับประทานอาหารของเด็กขณะอยู่ที่บ้าน และจัดทำคู่มือเมนูอาหารสำหรับเด็กวัยเรียน แจกให้ผู้ปกครองเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการ ผลการติดตามพบว่า ก่อนดำเนินกิจกรรมนักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการทั้งหมด 47 คน คิดเป็นร้อยละ 38.52 หลังดำเนินกิจกรรมพบว่า นักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการ จำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 25.21

 

122 0

2. กิจกรรมที่ 2.1 ให้ความรู้เรื่องภาวะโภชนาการในเด็ก 5-13 ปี แก่ครู ผู้ปกครอง และแม่ครัว โรงเรียนบ้านปิใหญ่

วันที่ 7 สิงหาคม 2561

กิจกรรมที่ทำ

อบรมให้ความรู้ เรื่อง

  • การดูแลสุขภาพอนามัยของเด็กวัยเรียน

  • ความสำคัญของอาหาร

  • วิธีการปรับพฤติกรรมและนิสัยการกินของเด็ก

  • โรคที่เกิดจากอาหารและน้ำเป็นสื่อ

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

กิจกรรมที่ 2.1 ให้ความรู้เรื่องภาวะโภชนาการในเด็ก 5-13 ปี แก่ครู ผู้ปกครอง แม่ครัวและคณะกรรมการสถานศึกษา พบว่า คะแนนความพึงพอใจในกิจกรรมมีค่าเฉลี่ย 81.04 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินรายข้อ พบว่า ทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรมและความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อความสำคัญของอาหาร มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.63 รองลงมาคือ ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อการดูแลสุขภาพอนามัยของเด็กวัยเรียน มีค่าเฉลี่ย 81.43 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรม มี่าเฉลี่ยต่ำสุด 77.05

 

95 0

3. กิจกรรมที่ 2.2 เสริมประสบการณ์ การประกอบอาหาร

วันที่ 15 สิงหาคม 2561

กิจกรรมที่ทำ

สอน/สาธิต การทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย เป็นการเพิ่มทักษะให้เด็กในการประกอบอาหาร ได้แก่

1.ไข่แปรงร่าง

2.สลัดผัก/ผักโรล

3.ผักกร๊อบกรอบ

4.ซูชิแฟนซี

5.สมู๊ทตี้ผัก-ผลไม้

โดยการทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างผู้ปกครอง เด็ก สำหรับกลุ่มเด็กที่มีปัญหาทุพโภชนาการ

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

กิจกรรมที่ 2.2 เสริมประสบการณ์ การประกอบอาหาร

กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "ไข่แปลงร่าง" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.14 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้และขั้นตอนการทำไข่แปลงร่าง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.32 รองลงมาคือ ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อความรู้ประโยชน์ของไข่แปลงร่าง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 81.47 ส่วนความรู้ที่ไ้รับจากหัวข้อ ไข่แปลงร่าง คืออะไร มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 79.58

กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "สลัดผัก/ผักโรล" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.30 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้และขั้นตอนการทำสลัดผัก/ผักโรล มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.32 รองลงมาคือ ทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.68 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรมและความเหมาะสมของอาหารว่างและเครื่องดื่ม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.63

กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "ผักกร๊อบกรอบ" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.43 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้และขั้นตอนการทำผักกร๊อบกรอบ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.74 รองลงมาคือ ทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรม ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อเมนูผักกร๊อบกรอบ คืออะไร และความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อประโยชน์ของผักกร๊อบกรอบ มีค่าเฉลี่ย 81.68 ส่วนความเหมาะสมของอาหารว่างและเครื่องดื่ม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.63

กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "ซูชิแฟนซี" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.96 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม และความรู้ ขั้นตอนการทำซูชิแฟนซี มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.74 รองลงมาคือ ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อประโยชน์ของซูชิแฟนซี มีค่าเฉลี่ย 82.36 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.84

กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "สมูทตี้ผัก-ผลไม้" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.85 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อ ประโยชน์ของสมูทตี้ผัก-ผลไม้ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 83.16 รองลงมาคือ ประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมและความรู้และขั้นตอนการทำสมูทตี้ผัก-ผลไม้ มีค่าเฉลี่ย 82.74 ส่วนความเหมาะสมของอาหารว่างและเครื่องดื่ม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.63

 

95 0

4. กิจกรรมที่ 4 ส่งเสริมการออกกำลังกายและพัฒนาการ

วันที่ 21 สิงหาคม 2561

กิจกรรมที่ทำ

4.1 สร้างลานตัวหนอนเพื่อการเรียนรู้ บริเวณ ถนนหน้าอาคารเรียน           - หนอนน้อยนับเลข           - หนอนน้อยเรียนรู้เลข           - ตารางกระโดด 9 ช่อง           - ตารางอีฉุด           - ตารางเรียนรู้ภาษาไทย           - ตารางเรียนรู้ภาษาอังกฤษ 4.2 ออกกำลังกายตามความสนใจ - ครูและเด็กนักเรียนร่วมกันออกกำลังกายเพื่อสุขภาพทุกวัน เวลา 15.00-16.00 น. ตามชมรมต่างๆ ดังนี้ 1. ชมรมวอลเล่ย์บอล 2. ชมรมแบตมินตัน 3. ชมรมฮูลาฮุป 4. ชมรมฟุตบอล - แกนนำนักเรียนบันทึกผลการออกกำลังกายของแต่ละชมรม รายงานครูผู้รับผิดชอบ - ครูผู้รับผิดชอบแต่ละชมรม ทดสอบสมรรถภาพร่างกายหรือประเมินความแข็งแรงของร่างกายของสมาชิกในชมรมทุก 3 เดือน 4.3เต้นแอโรบิกตอนเย็น - รับสมัครสมาชิกการออกกำลังกานโดยการเต้นแอโรบิค - อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายโดยการเต้นแอโรบิคจำนวน 5 วันๆละ 2 ชั่วโมง - ออกกำลังกายโดยการเต้นแอโรบิคทุกวัน โดยผู้ที่ผ่านการอบรมผลัดเปลี่ยนกันเป็นผู้นำในการเต้นแอโรบิค - วัดความดันโลหิตและน้ำหนัก ส่วนสูง ก่อนดำเนินกิจกรรมและหลังดำเนินกิจกรรม อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อเปรียบเทียบภาวะสุขภาพของสมาชิก - สมาชิกที่ร่วมออกกำลังกายมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ผู้ดูแลระบบเรียกมาเพื่อให้คำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม   4.4 ส่งเสริมทันตสุขภาพ - คัดเลือกแกนนำนักเรียนหรือสารวัตรนักเรียน เพื่อทำหน้าที่ตรวจสุขภาพในช่องปากของนักเรียนเบื้องต้น รายงานครูผู้รับผิดชอบ - อบรมให้ความรู้เรื่องทันตสุขภาพ สำหรับเด็กวัยเรียน หลักสูตร1 วัน - รณรงค์ให้นักเรียนทุกคน แปรงฟันหลังอาหารทุกวัน - บันทึกการแปรงฟันและตรวจสอบโดยแกนนำนักเรียน - กรณีเจอนักเรียนที่มีปัญหาสุขภาพในช่องปากไม่รุนแรง  ครูผู้ดูแลเชิญผู้ปกครองมาให้คำปรึกษา แนะนำ
- กรณีเจอนักเรียนที่มีปัญหาสุขภาพในช่องปากรุนแรง ครูผู้ดูแลเชิญผู้ปกครอง เพื่อส่งต่อไปรับการรักษา ณ โรงพยาบาลหรือคลินิคทันตแพทย์ต่อไป

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

กิจกรรมที่ 4 ส่งเสริมการออกกำลังกายและพัฒนาการ

4.1 สร้างลานตัวหนอนเพื่อการเรียนรู้ บริเวณ ถนนหน้าอาคารเรียน (สนาม BBL) โดยนักเรียนและผู้ปกครอง ผลการดำเนินงาน โรงเรียนมีลานตัวหนอนเพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายและส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 2 จุด คือ ถนนหน้าอาคารเรียน 1 และลานตัวหนอนหน้าอาคารเรียนอนุบาล โดยเด็กจะใช้ลานตัวหนอนในการเล่นออกกำลังกายในช่วงเวลาว่าง หรือตอนพักกลางวัน มาเล่นกิจกรรมการเรียนรู้บนลานตัวหนอนต่างๆ ส่งผลให้นักเรียนร้อยละ 80 มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา และรักการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น

4.2 กิจกรรมการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง โรงเรียนจัดตั้งชมรมกีฬาเพื่อสุขภาพ มีชมรมวอลเลย์บอล ชมรมแบตมินตัน ชมรมฟุตบอล และชมรมฮูลาฮูป เพื่อให้เด็กได้ใช้เวลาหลังเลิกเรียนหรือใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มาออกกำลังกายก่อนกลับบ้าน จัดเตรียมอุปกรณ์การออกกำลังกายให้กับนักเรียนทุกคนได้ใช้อย่างพอเพียง จากการดำเนินงานตามโครงการที่กล่าวมาแล้ว ส่งผลให้เด็กและผู้ปกครองร้อยละ 80 มีน้ำหนักและส่วนสูงตามวัย ลดปัญหาทุพโภชนาการ มีสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพของตน รู้จักหลีกเลี่ยงต่อสภาวะที่เสี่ยงต่อโรค อุบัติเหตุ ถัย และสิ่งเสพติด การได้ออกกำลังกายบ่อยๆ ส่งผลให้เด็กมีทักษะในการเลื่อนไหวตามวัย

4.3 กิจกรรมเต้นแอโรบิคเพื่อออกกำลังกายในตอนเย็น เพื่อให้นักเรียน ประชาชน มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ลดอัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้ และเพื่อสร้างความรักความสามัคคีในชุมชน ผลการดำเนินการ ทางโรงเรียนเชิญวิทยากรมาให้ความรู้เกี่ยวกับการเต้นแอโรบิคแบบง่ายๆ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ในช่วงตอนเย็น ส่งผลให้เด็กมีน้ำหนักและส่วนสูงตามวัย ลดปัญหาทุพโภชนาการ มีสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพของตนเอง การได้ออกกำลังกายบ่อยๆ ส่งผลให้เด็กมีทักษะในการเคลื่อนไหวตามวัย

4.4 กิจกรรมส่งเสริมทันตสุขภาพ ผลการดำเนินการเพื่อดูแลและแก้ปัญหาด้านสุขภาพของผู้เรียนดูแลให้ผู้เรียนรักษาความสะอาดอนามัยส่วนตัว จัดกิจกรรมแปรงฟังหลังอาหารกลางวัน โดยการประสานงานกับเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลละงู มาอบรมวิธีการดูแลสุขภาพในช่องปากและฟันของเด็กวัยเรียน สอนวิธีการแปรงฟัน การตรวจฟันเพื่อรักษาและตรวจสุขภาพฟัน พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรมมีค่าเฉลี่ย 83.80 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อ วิธีการใช้สีย้อมฟัน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 90.00 รองลงมา คือความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อ การสาธิตการแปรงฟันและฝึกการแปรงฟันที่ถูกวิธี มีค่าเฉลี่ย 84.14 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรมมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 81.61

 

172 0

5. กิจกรรมสรุปผลการดำเนินงานกองทุนฯ

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2561

กิจกรรมที่ทำ

จัดทำรูปเล่มรายงาน

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

ได้จัดทำรูปเล่มรายงาน

 

0 0

6. กิจกรรมที่ 3 ติดตามเด็กที่มีภาวะโภชนาการเกินและผอมโดยภาคีเครือข่าย มีส่วนร่วมในการดูแลเด็กที่มีปัญหาด้านภาวะทุพโภชนาการ

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2561

กิจกรรมที่ทำ

เยี่ยมบ้านและชั่งน้ำหนัก/วัดส่วนสูง เดือนละ 1 ครั้ง จำนวน 3 เดือน พร้อมทั้งแนะนำผู้ปกครองให้ดำเนินการต่อเนื่อง

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

กิจกรรมที่ 3 ติดตามเด็กที่มีภาวะโภชนาการเกินและผอมโดยภาคีเครือข่าย มีส่วนร่วมในการดูแลเด็กที่มีปัญหาด้านภาวะทุพโภชนาการ โดยโรงเรียนจัดกิจกรรมออกเยี่ยมบ้าน ให้คำแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพและเรื่องการรับประทานอาหาร การออกกำลังกายและจัดให้มีการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูงเดือนละครั้ง ผลการติดตามพบว่า ก่อนดำเนินกิจกรรมนักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการทั้งหมด มีจำนวน 47 คน คิดเป็นร้อยละ 38.52 หลังดำเนินกิจกรรม พบว่า นักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการ มีจำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 25.21

 

47 0

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น


ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม

ผลการดำเนินโครงการ

สรุปผลการดำเนินโครงการ

ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

กิจกรรมที่ 1 เฝ้าระวังและติดตามภาวะทุพโภชนาการเด็ก โรงเรียนได้ดำเนินการจัดทำเอกสารสมุบันทึกสุขภาพนักเรียน โดยจัดให้มีการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ทุกเดือน และทำทะเบียนเด็กที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน และเด็กที่มีน้ำหนักน้อยหรือผอม และมีการออกเยี่ยมบ้านนักเรียนเพื่อติดตามเรื่องภาวะทุพโภชนาการและการได้รับประทานอาหารของเด็กขณะอยู่ที่บ้าน และจัดทำคู่มือเมนูอาหารสำหรับเด็กวัยเรียน แจกให้ผู้ปกครองเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการ ผลการติดตามพบว่า ก่อนดำเนินกิจกรรมนักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการทั้งหมด 47 คน คิดเป็นร้อยละ 38.52 หลังดำเนินกิจกรรมพบว่า นักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการ จำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 25.21

กิจกรรมที่ 2 กิจกรรมเสริมประสบการณ์ การประกอบอาหาร

กิจกรรมที่ 2.1 ให้ความรู้เรื่องภาวะโภชนาการในเด็ก 5-13 ปี แก่ครู ผู้ปกครอง แม่ครัวและคณะกรรมการสถานศึกษา พบว่า คะแนนความพึงพอใจในกิจกรรมมีค่าเฉลี่ย 81.04 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินรายข้อ พบว่า ทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรมและความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อความสำคัญของอาหาร มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.63 รองลงมาคือ ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อการดูแลสุขภาพอนามัยของเด็กวัยเรียน มีค่าเฉลี่ย 81.43 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรม มี่าเฉลี่ยต่ำสุด 77.05

กิจกรรมที่ 2.2 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "ไข่แปลงร่าง" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.14 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้และขั้นตอนการทำไข่แปลงร่าง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.32 รองลงมาคือ ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อความรู้ประโยชน์ของไข่แปลงร่าง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 81.47 ส่วนความรู้ที่ไ้รับจากหัวข้อ ไข่แปลงร่าง คืออะไร มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 79.58

กิจกรรมที่ 2.3 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "สลัดผัก/ผักโรล" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.30 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้และขั้นตอนการทำสลัดผัก/ผักโรล มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.32 รองลงมาคือ ทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.68 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรมและความเหมาะสมของอาหารว่างและเครื่องดื่ม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.63

กิจกรรมที่ 2.4 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "ผักกร๊อบกรอบ" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.43 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้และขั้นตอนการทำผักกร๊อบกรอบ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.74 รองลงมาคือ ทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรม ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อเมนูผักกร๊อบกรอบ คืออะไร และความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อประโยชน์ของผักกร๊อบกรอบ มีค่าเฉลี่ย 81.68 ส่วนความเหมาะสมของอาหารว่างและเครื่องดื่ม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.63

กิจกรรมที่ 2.5 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "ซูชิแฟนซี" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.96 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม และความรู้ ขั้นตอนการทำซูชิแฟนซี มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.74 รองลงมาคือ ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อประโยชน์ของซูชิแฟนซี มีค่าเฉลี่ย 82.36 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.84

กิจกรรมที่ 2.6 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "สมูทตี้ผัก-ผลไม้" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.85 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อ ประโยชน์ของสมูทตี้ผัก-ผลไม้ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 83.16 รองลงมาคือ ประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมและความรู้และขั้นตอนการทำสมูทตี้ผัก-ผลไม้ มีค่าเฉลี่ย 82.74 ส่วนความเหมาะสมของอาหารว่างและเครื่องดื่ม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.63

กิจกรรมที่ 3 ติดตามเด็กที่มีภาวะโภชนาการเกินและผอมโดยภาคีเครือข่าย มีส่วนร่วมในการดูแลเด็กที่มีปัญหาด้านภาวะทุพโภชนาการ โดยโรงเรียนจัดกิจกรรมออกเยี่ยมบ้าน ให้คำแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพและเรื่องการรับประทานอาหาร การออกกำลังกายและจัดให้มีการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูงเดือนละครั้ง ผลการติดตามพบว่า ก่อนดำเนินกิจกรรมนักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการทั้งหมด มีจำนวน 47 คน คิดเป็นร้อยละ 38.52 หลังดำเนินกิจกรรม พบว่า นักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการ มีจำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 25.21

กิจกรรมที่ 4 ส่งเสริมการออกกำลังกายและพัฒนาการ

4.1 สร้างลานตัวหนอนเพื่อการเรียนรู้ บริเวณ ถนนหน้าอาคารเรียน (สนาม BBL) โดยนักเรียนและผู้ปกครอง ผลการดำเนินงาน โรงเรียนมีลานตัวหนอนเพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายและส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 2 จุด คือ ถนนหน้าอาคารเรียน 1 และลานตัวหนอนหน้าอาคารเรียนอนุบาล โดยเด็กจะใช้ลานตัวหนอนในการเล่นออกกำลังกายในช่วงเวลาว่าง หรือตอนพักกลางวัน มาเล่นกิจกรรมการเรียนรู้บนลานตัวหนอนต่างๆ ส่งผลให้นักเรียนร้อยละ 80 มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา และรักการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น

4.2 กิจกรรมการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง โรงเรียนจัดตั้งชมรมกีฬาเพื่อสุขภาพ มีชมรมวอลเลย์บอล ชมรมแบตมินตัน ชมรมฟุตบอล และชมรมฮูลาฮูป เพื่อให้เด็กได้ใช้เวลาหลังเลิกเรียนหรือใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มาออกกำลังกายก่อนกลับบ้าน จัดเตรียมอุปกรณ์การออกกำลังกายให้กับนักเรียนทุกคนได้ใช้อย่างพอเพียง จากการดำเนินงานตามโครงการที่กล่าวมาแล้ว ส่งผลให้เด็กและผู้ปกครองร้อยละ 80 มีน้ำหนักและส่วนสูงตามวัย ลดปัญหาทุพโภชนาการ มีสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพของตน รู้จักหลีกเลี่ยงต่อสภาวะที่เสี่ยงต่อโรค อุบัติเหตุ ถัย และสิ่งเสพติด การได้ออกกำลังกายบ่อยๆ ส่งผลให้เด็กมีทักษะในการเลื่อนไหวตามวัย

4.3 กิจกรรมเต้นแอโรบิคเพื่อออกกำลังกายในตอนเย็น เพื่อให้นักเรียน ประชาชน มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ลดอัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้ และเพื่อสร้างความรักความสามัคคีในชุมชน ผลการดำเนินการ ทางโรงเรียนเชิญวิทยากรมาให้ความรู้เกี่ยวกับการเต้นแอโรบิคแบบง่ายๆ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ในช่วงตอนเย็น ส่งผลให้เด็กมีน้ำหนักและส่วนสูงตามวัย ลดปัญหาทุพโภชนาการ มีสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพของตนเอง การได้ออกกำลังกายบ่อยๆ ส่งผลให้เด็กมีทักษะในการเคลื่อนไหวตามวัย

4.4 กิจกรรมส่งเสริมทันตสุขภาพ ผลการดำเนินการเพื่อดูแลและแก้ปัญหาด้านสุขภาพของผู้เรียนดูแลให้ผู้เรียนรักษาความสะอาดอนามัยส่วนตัว จัดกิจกรรมแปรงฟังหลังอาหารกลางวัน โดยการประสานงานกับเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลละงู มาอบรมวิธีการดูแลสุขภาพในช่องปากและฟันของเด็กวัยเรียน สอนวิธีการแปรงฟัน การตรวจฟันเพื่อรักษาและตรวจสุขภาพฟัน พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรมมีค่าเฉลี่ย 83.80 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อ วิธีการใช้สีย้อมฟัน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 90.00 รองลงมา คือความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อ การสาธิตการแปรงฟันและฝึกการแปรงฟันที่ถูกวิธี มีค่าเฉลี่ย 84.14 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรมมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 81.61

ผลผลิตโครงการ

วัตถุประสงค์สถานการณ์เป้าหมายผลผลิตอธิบาย
1 เพื่อเฝ้าระวังและติดตามโภชนาการในกลุ่มเด็ก 5-13 ปี ที่เสี่ยงต่อการมีภาวะทุพโภชนาการ
ตัวชี้วัด : ร้อยละ 100 มีการเฝ้าระวังและติดตามภาวะโภชนาการเด็กอายุ 5-13 ปี
100.00 100.00

 

2 เพื่อให้ครู ผู้ปกครองเด็ก แม่ครัวและคณะกรรมการสถานศึกษา มีความรู้เรื่องภาวะโภชนาการในเด็ก และส่งเสริมให้เด็กรับประทานผักและผลไม้
ตัวชี้วัด : 1. ร้อยละ 80 ของครู ผู้ปกครองเด็ก และแม่ครัวโรงเรียนบ้านปิใหญ่ มีความรู้เรื่องภาวะ โภชนาการในเด็ก 2. เด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการที่ไม่กินไข่ มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างน้อยร้อยละ 80 3. เด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการที่ไม่กินผัก มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างน้อยร้อยละ 80
80.00 82.63

 

3 เพื่อให้เด็กที่น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์เกินเกณฑ์และกลุ่มเสี่ยง ได้รับการติดตาม ดูแลอย่างใกล้ชิดโดยภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการดูแลเด็กที่มีปัญหาด้านภาวะทุพโภชนาการ
ตัวชี้วัด : 1. ร้อยละ 100เด็กที่น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์,เกินเกณฑ์และกลุ่มเสี่ยง ได้รับการติดตาม ดูแลอย่างใกล้ชิดโดยภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการดูแลเด็กที่มีปัญหาด้านภาวะทุพโภชนาการ 2. เด็กที่มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอยู่ในภาวะปกติ 3. เด็กที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ร้อยละ 80 มีน้ำหนักลดลงอยู่ในภาวะปกติ 4. เด็กที่มีความสูงไม่เป็นไปตามเกณฑ์ได้รับการแก้ไขร้อยละ 100
100.00 100.00

 

4 เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญาของเด็กและส่งเสริมให้เด็กรักออกกำลังกาย
ตัวชี้วัด : 1. เด็กร้อยละ 80 มีพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญาและรักการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น
80.00 80.00

 

5 เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญาของเด็กและส่งเสริมให้เด็กรักออกกำลังกาย
ตัวชี้วัด : 1. เด็กร้อยละ 80 มีพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญาและรักการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น
80.00 80.00

 

6 เพื่อให้เด็กและผู้ปกครองในชุมชนมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงปัญหาโรคฟันผุลดลง และลดอัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้และสร้างความรักความสามัคคีในชุมชน
ตัวชี้วัด : 1. เด็กและผู้ปกครองร้อยละ 80 มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง( ดูจากสถิติการเจ็บป่วยในรอบ 6 เดือน ) 2. เด็กนักเรียนร้อย 80 มีการออกกำลังหลังเลิกเรียนอย่างน้อย 30 นาที 3. เด็กนักเรียนร้อย 80 มีสมรรถภาพร่างกายเหมาะสมกับวัย 4. เด็กนักเรียนร้อยละ 80 รู้จักวิธีการแปรงฟันที่ถูกวิธีและโรคฟันผุลดลง 5. เด็กที่มีปัญหาสุขภาพในช่องปากได้รับการแก้ไข โดยทันตแพทย์หรือทันตสาธารณสุข ร้อยละ 100
80.00 80.00

 

ผู้เข้าร่วมโครงการ

กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 122
กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน -
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน 122
กลุ่มวัยทำงาน -
กลุ่มผู้สูงอายุ -
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด -
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง -
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ -
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง -
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] -

บทคัดย่อ*

โครงการเด็กปิใหญ่สดใส ใส่ใจสุขภาพ ของโรงเรียนบ้านปิใหญ่ ปีการศึกษา 2561 ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1.)เพื่อเฝ้าระวังและติดตามโภชนาการในกลุ่มเด็ก 5 -13 ปี ที่เสี่ยงต่อการมีภาวะทุพโภชนาการ 2.) เพื่อให้ครู ผู้ปกครองเด็ก และแม่ครัวในโรงเรียนบ้านปิใหญ่ มีความรู้เรื่องภาวะโภชนาการในเด็ก และส่งเสริมให้เด็กรับประทานผักและผลไม้ 3.) เพื่อให้เด็ดที่มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ เกินเกณฑ์และกลุ่มเสี่ยง ได้รับการติดตาม และดูแลอย่างใกล้ชิดโดยภาคีเครือข่าย มีส่วนร่วมในการดูแลเด็กที่มีปัญหาด้านภาวะทุพโภชนาการ 4.) เพื่อส่งเสริม พัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาของเด็ก และส่งเสริมให้เด็กรักการออกกำลังกาย 5.) เพื่อส่งเสริมให้เด็กและผู้ปกครองในชุมชนมีสุขภาพที่สมบูรณ์ แข็งแรง ลดอัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้ และสร้างความรัก ความสามัคคีในชุมชน

สรุปลผลการดำเนินโครงการ ซึ่งผลการดำเนินโครงการเด็กปิใหญ่สดใส ใส่ใจรักสุขภาพ พบว่า มีค่าเฉลี่ยรวมทุกกิจกรรมอยู่ในระดับมากที่สุด

กิจกรรมที่ 1 เฝ้าระวังและติดตามภาวะทุพโภชนาการเด็ก โรงเรียนได้ดำเนินการจัดทำเอกสารสมุบันทึกสุขภาพนักเรียน โดยจัดให้มีการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ทุกเดือน และทำทะเบียนเด็กที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน และเด็กที่มีน้ำหนักน้อยหรือผอม และมีการออกเยี่ยมบ้านนักเรียนเพื่อติดตามเรื่องภาวะทุพโภชนาการและการได้รับประทานอาหารของเด็กขณะอยู่ที่บ้าน และจัดทำคู่มือเมนูอาหารสำหรับเด็กวัยเรียน แจกให้ผู้ปกครองเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการ ผลการติดตามพบว่า ก่อนดำเนินกิจกรรมนักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการทั้งหมด 47 คน คิดเป็นร้อยละ 38.52 หลังดำเนินกิจกรรมพบว่า นักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการ จำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 25.21

กิจกรรมที่ 2 อบรม/ให้ความรู้

กิจกรรมที่ 2.1 ให้ความรู้เรื่องภาวะโภชนาการในเด็ก 5-13 ปี แก่ครู ผู้ปกครอง แม่ครัวและคณะกรรมการสถานศึกษา พบว่า คะแนนความพึงพอใจในกิจกรรมมีค่าเฉลี่ย 81.04 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินรายข้อ พบว่า ทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรมและความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อความสำคัญของอาหาร มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.63 รองลงมาคือ ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อการดูแลสุขภาพอนามัยของเด็กวัยเรียน มีค่าเฉลี่ย 81.43 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรม มี่าเฉลี่ยต่ำสุด 77.05

กิจกรรมที่ 2.2 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "ไข่แปลงร่าง" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.14 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้และขั้นตอนการทำไข่แปลงร่าง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.32 รองลงมาคือ ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อความรู้ประโยชน์ของไข่แปลงร่าง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 81.47 ส่วนความรู้ที่ไ้รับจากหัวข้อ ไข่แปลงร่าง คืออะไร มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 79.58

กิจกรรมที่ 2.3 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "สลัดผัก/ผักโรล" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.30 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้และขั้นตอนการทำสลัดผัก/ผักโรล มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.32 รองลงมาคือ ทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.68 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรมและความเหมาะสมของอาหารว่างและเครื่องดื่ม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.63

กิจกรรมที่ 2.4 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "ผักกร๊อบกรอบ" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.43 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้และขั้นตอนการทำผักกร๊อบกรอบ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.74 รองลงมาคือ ทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรม ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อเมนูผักกร๊อบกรอบ คืออะไร และความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อประโยชน์ของผักกร๊อบกรอบ มีค่าเฉลี่ย 81.68 ส่วนความเหมาะสมของอาหารว่างและเครื่องดื่ม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.63

กิจกรรมที่ 2.5 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "ซูชิแฟนซี" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.96 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม และความรู้ ขั้นตอนการทำซูชิแฟนซี มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.74 รองลงมาคือ ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อประโยชน์ของซูชิแฟนซี มีค่าเฉลี่ย 82.36 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.84

กิจกรรมที่ 2.6 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "สมูทตี้ผัก-ผลไม้" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.85 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อ ประโยชน์ของสมูทตี้ผัก-ผลไม้ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 83.16 รองลงมาคือ ประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมและความรู้และขั้นตอนการทำสมูทตี้ผัก-ผลไม้ มีค่าเฉลี่ย 82.74 ส่วนความเหมาะสมของอาหารว่างและเครื่องดื่ม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.63

กิจกรรมที่ 3 ติดตามเด็กที่มีภาวะโภชนาการเกินและผอมโดยภาคีเครือข่าย มีส่วนร่วมในการดูแลเด็กที่มีปัญหาด้านภาวะทุพโภชนาการ โดยโรงเรียนจัดกิจกรรมออกเยี่ยมบ้าน ให้คำแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพและเรื่องการรับประทานอาหาร การออกกำลังกายและจัดให้มีการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูงเดือนละครั้ง ผลการติดตามพบว่า ก่อนดำเนินกิจกรรมนักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการทั้งหมด มีจำนวน 47 คน คิดเป็นร้อยละ 38.52 หลังดำเนินกิจกรรม พบว่า นักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการ มีจำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 25.21

กิจกรรมที่ 4 ส่งเสริมการออกกำลังกายและพัฒนาการ

4.1 สร้างลานตัวหนอนเพื่อการเรียนรู้ บริเวณ ถนนหน้าอาคารเรียน (สนาม BBL) โดยนักเรียนและผู้ปกครอง ผลการดำเนินงาน โรงเรียนมีลานตัวหนอนเพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายและส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 2 จุด คือ ถนนหน้าอาคารเรียน 1 และลานตัวหนอนหน้าอาคารเรียนอนุบาล โดยเด็กจะใช้ลานตัวหนอนในการเล่นออกกำลังกายในช่วงเวลาว่าง หรือตอนพักกลางวัน มาเล่นกิจกรรมการเรียนรู้บนลานตัวหนอนต่างๆ ส่งผลให้นักเรียนร้อยละ 80 มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา และรักการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น

4.2 กิจกรรมการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง โรงเรียนจัดตั้งชมรมกีฬาเพื่อสุขภาพ มีชมรมวอลเลย์บอล ชมรมแบตมินตัน ชมรมฟุตบอล และชมรมฮูลาฮูป เพื่อให้เด็กได้ใช้เวลาหลังเลิกเรียนหรือใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มาออกกำลังกายก่อนกลับบ้าน จัดเตรียมอุปกรณ์การออกกำลังกายให้กับนักเรียนทุกคนได้ใช้อย่างพอเพียง จากการดำเนินงานตามโครงการที่กล่าวมาแล้ว ส่งผลให้เด็กและผู้ปกครองร้อยละ 80 มีน้ำหนักและส่วนสูงตามวัย ลดปัญหาทุพโภชนาการ มีสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพของตน รู้จักหลีกเลี่ยงต่อสภาวะที่เสี่ยงต่อโรค อุบัติเหตุ ถัย และสิ่งเสพติด การได้ออกกำลังกายบ่อยๆ ส่งผลให้เด็กมีทักษะในการเลื่อนไหวตามวัย

4.3 กิจกรรมเต้นแอโรบิคเพื่อออกกำลังกายในตอนเย็น เพื่อให้นักเรียน ประชาชน มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ลดอัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้ และเพื่อสร้างความรักความสามัคคีในชุมชน ผลการดำเนินการ ทางโรงเรียนเชิญวิทยากรมาให้ความรู้เกี่ยวกับการเต้นแอโรบิคแบบง่ายๆ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ในช่วงตอนเย็น ส่งผลให้เด็กมีน้ำหนักและส่วนสูงตามวัย ลดปัญหาทุพโภชนาการ มีสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพของตนเอง การได้ออกกำลังกายบ่อยๆ ส่งผลให้เด็กมีทักษะในการเคลื่อนไหวตามวัย

4.4 กิจกรรมส่งเสริมทันตสุขภาพ ผลการดำเนินการเพื่อดูแลและแก้ปัญหาด้านสุขภาพของผู้เรียนดูแลให้ผู้เรียนรักษาความสะอาดอนามัยส่วนตัว จัดกิจกรรมแปรงฟังหลังอาหารกลางวัน โดยการประสานงานกับเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลละงู มาอบรมวิธีการดูแลสุขภาพในช่องปากและฟันของเด็กวัยเรียน สอนวิธีการแปรงฟัน การตรวจฟันเพื่อรักษาและตรวจสุขภาพฟัน พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรมมีค่าเฉลี่ย 83.80 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อ วิธีการใช้สีย้อมฟัน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 90.00 รองลงมา คือความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อ การสาธิตการแปรงฟันและฝึกการแปรงฟันที่ถูกวิธี มีค่าเฉลี่ย 84.14 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรมมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 81.61

หมายเหตุ *

  • บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
  • หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh

ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ

ปัญหาและอุปสรรคสาเหตุข้อเสนอแนะ

 

 

 


โครงการเด็กปิใหญ่สดใส ใส่ใจรักสุขภาพ จังหวัด สตูล

รหัสโครงการ 2561– L8010 – 2 - 01

ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

................................
( โรงเรียนบ้านปิใหญ่ )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......

vertical_align_topไปบนสุด