โครงการสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันเด็กจมน้ำ เทศบาลตำบลฉลุงอำเภอเมือง จังหวัดสตูล ปีงบประมาณ 2561 (รุ่นที่ 2)
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการทั้งหมด จำนวน 50 คนแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.เด็กและเยาวชน จำนวน 30 คน 2.แกนนำจิตอาสา 20 คน คิดเป็นร้อยละ 100
1.1 วัตถุประสงค์ข้อที่ 1เพื่อให้เด็กและเยาวชน และแกนนำจิตอาสาในชุมชนมีความรู้เรื่องความปลอดภัยทางน้ำและพื้นฐานในการช่วยเหลือผู้จมน้ำและการปฐมพยาบาลให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นได้
จากการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรมให้ความรู้เรื่องความปลอดภัยทางน้ำและพื้นฐานในการช่วยเหลือผู้จมน้ำและการปฐมพยาบาลให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นได้มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ
โดยใช้เกณฑ์แปลผล ดังนี้
1. ระดับคะแนน 9-10 แปลผลว่า มีความรู้อยู่ในระดับมากที่สุด
2.ระดับคะแนน 7-8 แปลผลว่า มีความรู้อยู่ในระดับมาก
3.ระดับคะแนน 5-6 แปลผลว่า มีความรู้อยู่ในระดับปานกลาง
4.ระดับคะแนน 3-4 แปลผลว่า มีความรู้อยู่ในระดับน้อย
5.ระดับคะแนน 1-2 แปลผลว่า มีความรู้อยู่ในระดับน้อยที่สุด
ตารางประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม
กลุ่มเป้าหมาย จำนวน เกณฑ์แปลผล ทดสอบความรู้ ก่อนการอบรม คิดเป็นร้อยละ หลังการอบรม คิดเป็นร้อยละ 1.เด็กและเยาวชน 30 มากที่สุด 0 0 20 66.67 มาก 9 30 7 23.33 ปานกลาง 17 56.7 3 10 น้อย 4 13.3 0 0 น้อยที่สุด 0 0 0 0 รวม 30 100 30 100 2.แกนนำจิตอาสา 20 มากที่สุด 0 0 16 80 มาก 11 55 4 20 ปานกลาง 9 45 0 0 น้อย 0 0 0 0 น้อยที่สุด 0 0 0 0 รวม 20 100 30 100
จากตารางประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม พบว่า ก่อนการอบรมกลุ่มเป้าหมาย 1. เด็กและเยาวชนมีความรู้อยู่ในระดับมาก จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 30 ระดับปานกลาง จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 56.7 และระดับน้อย จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 13.3กลุ่มเป้าหมาย2.แกนนำจิตอาสา มีความรู้อยู่ในระดับมาก จำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 55 และระดับปานกลาง จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 45 หลังการอบรมกลุ่มเป้าหมาย 1. เด็กและเยาวชน มีความรู้อยู่ในระดับมากที่สุด จำนวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 66.67 ระดับมาก จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 23.33 และระดับปานกลาง จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 10 กลุ่มเป้าหมาย 2.แกนนำจิตอาสามีความรู้อยู่ในระดับมากที่สุด จำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 80 และระดับมาก จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 20
ตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม
กลุ่มเป้าหมาย 1. เด็กและเยาวชน
ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
8 3 10 10 15 50
7 6 20 9 5 16.7
6 9 30 8 6 20
5 8 26.7 7 1 3.3
4 3 10 6 3 10
3 1 3.3 - - -
รวม 30 100 รวม 30 100
จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม พบว่า กลุ่มเป้าหมาย 1. เด็กและเยาวชนก่อนการอบรมได้คะแนนสูงสุดที่ 8 คะแนน จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 10 รองลงมา 7 คะแนน จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 20คะแนนน้อยที่สุดที่ 3 คะแนน จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 3.3และความถี่ที่ได้มากที่สุด คือ 6 คะแนน จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 30หลังการอบรมได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 50 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 16.7คะแนนน้อยที่สุดที่ 6 คะแนน จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 10และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 10 คะแนน จำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 50เมื่อนำมาเปรียบเทียบการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม เด็กและเยาวชน มีความรู้เพิ่มขึ้นจำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 100
กลุ่มเป้าหมาย 2.แกนนำจิตอาสา
ก่อนการอบรม หลังการอบรม คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ 8 5 25 10 12 60 7 6 30 9 4 20 6 3 15 8 2 10 5 6 30 7 2 10 รวม 20 100 รวม 20 100 จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม พบว่า กลุ่มเป้าหมาย 2.แกนนำจิตอาสาก่อนการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 8 คะแนน จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 25 รองลงมา 7 คะแนน จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 30 คะแนนน้อยที่สุดที่ 5 คะแนน จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 30 และความถี่ที่ได้มากที่สุด คือ 5 และ 7 คะแนน จำนวนละ 6 คน คิดเป็นร้อยละ 30 หลังการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 60 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 20 คะแนนน้อยที่สุดที่ 7 คะแนน จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 10และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 10 คะแนน จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 60 เมื่อนำมาเปรียบเทียบการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม 2.แกนนำจิตอาสา มีความรู้เพิ่มขึ้นจำนวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 100 สรุปได้ว่าจาการทำแบบทดสอบทั้ง 2 กลุ่มเป้าหมายมีความรู้เพิ่มขึ้นทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100บรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 1
1.2 วัตถุประสงค์ข้อที่ 2เพื่อให้เด็กและเยาวชน และแกนนำจิตอาสาในชุมชน มีทักษะในการช่วยเหลือคนจมน้ำและทักษะการเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำได้อย่างต่อเนื่อง
จากการฝึกปฏิบัติทักษะในการช่วยเหลือคนจมน้ำและทักษะการเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำ ซึ่งทดสอบเป็นรายกลุ่มพบว่า ทุกคนสามารถทำได้ทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100 บรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 3 โดยมีเนื้อหาการอบรม ดังนี้
(1) การช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR)
การช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) หรือ การกู้ชีวิต หรือการกู้ชีพ หมายถึง การปฏิบัติการเพื่อช่วยฟื้นการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด ที่หยุดทำงานอย่างกะทันหัน เพื่อให้หัวใจกลับมาเต้นเองได้ตามปกติ โดยไม่เกิดความพิการของสมอง
ซึ่งเมื่อเราพบคนหมดสติ สิ่งแรกที่ควรมี คือ สติ และสิ่งที่สำคัญ คือ ความปลอดภัยของผู้ให้การช่วยเหลือและผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือแล้วจะประเมินสถานการณ์หรือประเมินสภาพผู้ป่วย
การประเมินสภาพผู้ป่วยเจ็บเบื้องต้น
๑. ตรวจระดับความรู้สึกตัว โดยการเรียกผู้ป่วยเจ็บและตีที่ไหล่เบา ๆ
๒. ร้องขอความช่วยเหลือ
๓. ตรวจทางเดินหายใจ นำสิ่งแปลกปลอมและฟันปลอมออกจากปาก แล้วเปิดทางเดินหายใจ โดยใช้สันมือกดหน้าผาก ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลาง ของมืออีกข้างหนึ่งเชยคางให้แหงนหน้าขึ้น
๔. ตรวจการหายใจ โดยสังเกตการเคลื่อนไหวของหน้าอก และ ลมหายใจ ใช้หลักตาดู หูฟัง แก้มสัมผัส
๕. ตรวจหาการบาดเจ็บ โดยตรวจตั้งแต่ศีรษะ จรดปลายเท้า
ขั้นตอนการกู้ฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานในผู้ใหญ่
๑. ตรวจระดับความรู้สึกตัวโดยการเรียกผู้ป่วยเจ็บ และตีที่ไหล่เบา ๆ
๒. ร้องขอความช่วยเหลือ และพลิกผู้ป่วยเจ็บให้นอนหงายราบบนพื้นเรียบแข็ง
๓. ถ้าผู้ป่วยเจ็บไม่ตอบสนอง ให้ช่วยการไหลเวียนโลหิตโดยการกดหน้าอก 30 ครั้ง ด้วยอัตราเร็วมากกว่า ๑๐๐ ครั้งต่อนาที กดลึก ๒ นิ้ว หรือ ๕ เซนติเมตร (ใช้มือข้างหนึ่งวางและใช้มืออีกข้างวางทับ แล้วใช้ส้นมือกดที่กึ่งกลางหน้าอก )
๔. เปิดทางเดินหายใจ โดยใช้สันมือกดหน้าผาก ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางของมืออีกข้างหนึ่งเชยคางให้หน้าแหงนขึ้น และช่วยหายใจ โดยการเป่าปาก ๒ ครั้ง ครั้งละ ๑ วินาที
๕. หลังจากนั้นให้กดหน้าอกสลับกับการเป่าปาก ด้วยอัตรา ๓๐ ต่อ ๒ (นับเป็น ๑ รอบ) ประเมินผลการกู้ชีพทุก ๕ รอบ (ใช้เวลา ๒ นาที)
ในกรณีที่มีผู้ปฏิบัติการกู้ชีพมาช่วยเหลือเพิ่มขึ้น ควรสลับหน้าที่ของผู้ที่กดหน้าอก กับผู้ที่เป่าปากทุก ๒ นาที หรือทุก ๕ รอบ
หมายเหตุ: ในกรณีไม่สามารถช่วยเป่าปากได้ สามารถใช้การกดหน้าอกอย่างต่อเนื่อง ด้วยอัตราเร็วมากกว่า ๑๐๐ ครั้งต่อนาที
(2) ทักษะในการช่วยเหลือตนเองในท่าต่างๆ เช่น
* ท่าลอยตัว มี 4 ท่า ได้แก่ ท่าปลาดาวหงาย ท่าปลาดาวคว่ำ ท่าแมงกะพรุน และท่าเต่า
* ท่าว่ายน้ำเอาชีวิตรอด มี 2 ท่า ได้แก่ ท่าหมาตกน้ำ และท่ากรรเชียงหงาย
ซึ่งก่อนที่จะทำท่าต่างๆ แกนนำด้านสุขภาพ ได้ฝึกการกำหนดลมหายใจใต้น้ำ และฝึกการเป่าลมใต้น้ำ ถึงแม้บางคนอาจจะทำได้ช้าแต่ทุกคนก็สามารถทำได้ทุกคน
ทักษะในการช่วยเหลือผู้อื่นจากการจมน้ำ โดยมีขั้นตอน ดังนี้
1. ตะโกนขอความช่วยเหลือ ว่า “ช่วยด้วยๆมีคนตกน้ำ”
2. โยนอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อให้คนตกน้ำเกาะจับพยุงตัว เช่น เชือก ถังแกนลอนพลาสติก ขวดพลาสติก หรือวัสดุที่ลอยน้ำได้
3. ยื่นสิ่งของยาวๆที่อยู่ใกล้ตัวให้คนตกน้ำจับ เช่น ท่อนไม้ เข็มขัด ผ้าขาวม้า ยื่นอุปกรณ์ไปข้างใดข้างหนึ่ง แล้วจึงกวาดเข้าหาตัวคนที่ตกน้ำและดึงขึ้นฝั่ง
(3) ทักษะการใช้อุปกรณ์ต่างๆเพื่อช่วยเหลือคนตกน้ำ ดังนี้
(3.1) การโยนได้แก่
(3.1.1) การโยนเชือก
* ท่ายืน โดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี ใช้มือที่ข้างเท้าที่ถนัดจับปลายเชือกไว้ มืออีกด้านถือเชือกไว้พร้อมที่จะโยน การโยนเชือกให้โยนเลยเหนือศีรษะคนตกน้ำระหว่างช่วงไหล่ขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง ขาหน้าตึงขาหลังงอ
(3.1.2) การโยนห่วงชูชีพ
* ท่าโยนเหนือศีรษะโดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี แล้วใช้มือทั้งสองข้างจับห่วงชูชีพยกขึ้นเหนือศีรษะ พร้อมทั้งโยนไปด้านหน้าของคนตกน้ำ ขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง ขาหน้าตึง
ขาหลังงอ
* ท่าโยนใต้ขาโดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี ใช้มือทั้งสองข้างจับห่วงชูชีพถือไว้ระหว่างขาแล้วโยนไปด้านหน้าของคนตกน้ำ ขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง ขาหน้าตึงขาหลังงอ
- ท่าโยนมือเดียว โดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี ใช้มือที่ถนัดจับห่วงชูชีพ แล้วกางแขนออกประมาณ 45 องศา โยนห่วงชูชีพไปด้านหน้าของคนตกน้ำขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง
ขาหน้าตึงขาหลังงอ
(3.1.3) การโยน Rescue Tube *ท่ายืน โดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี ใช้มือทั้งสองข้างจับ Rescue Tube แล้วโยน Rescue Tube ไปด้านหน้าของคนตกน้ำขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง ขาหน้าตึง ขาหลังงอ (3.2) การยื่น ได้แก่ (3.2.1) การยื่นไม้ - ท่ายืนโดยนำขาที่ถนัดก้าวไปข้างหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง ใช้มือทั้งสองข้างจับปลายไม้ไว้ในท่าที่ถนัด แล้วย่อขาด้านหน้าลง ขาหลังตึง พร้อมทั้งก้มตัวและยื่นไม้ไปด้านข้างแล้วกวาดเข้าหาตัวคนตกน้ำเมื่อคนตกน้ำจับไม้ได้ ให้สาวไม้นำคนตกน้ำขึ้นมา ขณะสาวไม้ให้เอนตัวไปด้านหลัง ขาหน้าตึง ขาหลังงอ
- ท่านั่งโดยนั่งคุกเข่า 1 ข้าง ส่วนอีกข้างขาที่ถนัดให้ตั้งตรง ใช้มือทั้งสองข้างปลายไม้ไว้แนบข้างลำตัวข้างที่คุกเข่า พร้อมทั้งก้มตัวและยื่นไม้ไปด้านข้างแล้วกวาดเข้าหาตัวคนตกน้ำเมื่อคนตกน้ำจับไม้ได้ ให้สาวไม้นำคนตกน้ำขึ้นมา ขณะสาวไม้ให้เอนตัวไปด้านหลัง ขาหน้าตึง และวางก้นไว้บนขาหลัง
- ท่านอนโดยให้นอนคว่ำ แล้วใช้มือทั้งสองข้างจับปลายไม้ไว้ยื่นไปยังคนจมน้ำ เมื่อคนตกน้ำจับไม้ได้ ให้คนช่วยพลิกตัวตะแคงและสาวไม้ดึงคนตกน้ำขึ้นมา (3.2.2) การยื่น Rescue Tube
- ท่ายืนโดยนำขาที่ถนัดก้าวไปข้างหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง ใช้มือทั้งสองข้างจับ Rescue Tube แล้วย่อขาด้านหน้าลงพร้อมทั้งยื่น Rescue Tube ไปยังคนจมน้ำ เมื่อคนตกน้ำจับ Rescue Tube ได้ ให้สาว Rescue Tube นำคนตกน้ำขึ้นมา ขณะสาว Rescue Tube ให้เอนตัวไปด้านหลัง ขาหน้าตึง ขาหลังงอ
ท่านั่ง โดยนั่งคุกเข่า 1 ข้าง ส่วนอีกข้างขาที่ถนัดให้ตั้งตรง ใช้มือทั้งสองข้างปลายไม้ไว้แนบข้างลำตัวข้างที่คุกเข่า พร้อมทั้งก้มตัวและยื่นไม้ไปหน้าคนตกน้ำเมื่อคนตกน้ำจับ Rescue Tube ได้ ให้สาว Rescue Tube นำคนตกน้ำขึ้นมา ขณะสาวไม้ให้เอนตัวไปด้านหลัง ขาหน้าตึง และวางก้นไว้บนขาหลัง
1.3 วัตถุประสงค์ข้อที่ 3เพื่อให้เด็กและเยาวชน และแกนนำจิตอาสาในชุมชน มีส่วนร่วมในการป้องกันเหตุการณ์จมน้ำในเขตพื้นที่ชุมชน กลุ่มเป้าหมายทุกคนมีส่วนร่วมในการป้องกันเหตุการณ์จมน้ำในเขตพื้นที่ชุมชนของตนเอง โดยกลุ่มเป้าหมายได้มีการจัดตั้งเป็นกลุ่มจิตอาสาป้องกันการจมน้ำในชุมชนขึ้น โดยมีรายชื่อ ดังนี้
1. ด.ญ.พริมพิมาธังดิน 3. ด.ช.อภิสิทธิ์ ศรีอินทรสุทธิ์ 5. ด.ช.ภูวเนตร แซ่ตัน
7. ด.ญ.ณัฐธิมา ดวงรัตน์ 9. ด.ญ.ชูฮาดา หมาดมานัง 11. ด.ญ.นัจมี ระสุโสะ
13.ด.ญ.นัซรีน่า หลงสลำ 15.ด.ช.กล้าณรงค์ สมากัส
- ด.ช.ธนพัทธ์ สมากัส
- ด.ช.วุฒิพงศ์ จิระกุล
- น.ส.ณัฏฐธิดา รอดแก้ว
- ด.ญ.ลาตีฟะ หมัดสา
- ด.ช.ภูเบศฎ์พูลสวัสดิ์ ๑0. ด.ญ.อัยญรินทร์ หอมนิยม
- ด.ญ.ดาริน แก้วหนูนวล ๑4. ด.ช.วันชนะ เขียนงาม
- นาย คณิน แซ่ลิ่ม
- ด.ญ.ไพลิน กองงาม
- ด.ญ.พชณัน แซ่ลิ่ม ๒1. ด.ญ.สิรินดา โกบปุเลา ๒3. ด.ช.ณัชดิศรณ์ทิคามี ๒5. ด.ญ.ธัญญรัตน์ ทิคามี ๒7. ด.ญ.วิลาสินี สุวรรณรัตน์
- ด.ช.วีรภัทร สุวรรณรัตน์
- ด.ช.พชร ศรีนิ่ม
- ด.ช.ธนภัทร ธรรมโชติ
- ด.ช.อธิภัทร กั่วพานิช
- ด.ช.ณัฐภัทรรอดแก้ว
- ด.ช.นิติธร กั่วพานิช 41. ด.ช.อนัตตา เจริญวิกกัย
- นางแสงจันทร์ แซ่ลิ่ม 45.นางชญาณ์นินท์สุวรรณรัตน์
- นางพิมพ์ชนก ทิคามี
- นางบุญเอื้อ อังสุธรรม
- นางสาวจงกล ยี่สุ่นศรี
- นางจิต กั่วพานิช
- นางฉอ้อน อังสุธรรม
- นางจินดา กั่วพานิช
- นางจุฑารัตน์ แก้วหนูนวล 30.นางสาวมาริสา อับดุล 32.นางเพ็ญนภา ชาตะพันธ์
- นายชัยยุทธศิริขันตยกุล
- นางสาวสะน๊ะ หมาดเต๊ะ
- นางรัชนีวรรณ เขียนงาม
- นางผุสดี จันทร์มี
- นางสาวสุนีย์ จบศรี
- นายนัน หมาดมานัง
- นายอุเส็น ระสุโสะ
- นางสาวยุพดี พลประสิทธิ์
- นางอาจ์ลดา จงเปาหยิน
มีหน้าที่ ดังนี้ - เฝ้าระวังป้องกันการจมน้ำในชุมชน
- สำรวจพื้นที่เสี่ยงต่อการจมน้ำในชุมชน
- ประชาสัมพันธ์ เตือนภัยสถานการณ์น้ำ
แก้ปัญหาเบื้องต้นพร้อมประสานงานเมื่อพบผู้ประสบเหตุ
1.4 วัตถุประสงค์ข้อที่ 4เพื่อให้เด็กและเยาวชน และแกนนำจิตอาสาในชุมชน เพิ่มศักยภาพในการช่วยเหลือคนจมน้ำและทักษะการเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำได้ จากการฝึกปฏิบัติทักษะในการช่วยเหลือคนจมน้ำและทักษะการเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำพบว่า ทุกคนสามารถทำได้ทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100 บรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 4 โดยมีเนื้อหาการอบรม ดังนี้ (1) ทักษะการลอยตัว
(1.1) ทักษะการลอยตัวกับขวดพลาสติก วิธีการฝึก ให้นักเรียนยืนอยู่ในน้ำจับขวดน้ำดื่มพลาสติกเอนตัวไปข้างหลังยกขาทั้ง 2 ข้างขึ้นพยายามให้ลำตัวขนานกับน้ำหูจมน้ำหน้าเงยแอ่นหน้าอก (1.2) ทักษะการลอยตัวกับถุงพลาสติก วิธีการฝึก ให้นักเรียนยืนอยู่ในน้ำใส่มือทั้งสองข้างไว้ในถุงพลาสติกโดยชูมือขึ้นแล้วนำมือลงน้ำ เมื่อในถุงมีอากาศถุงก็จะพองออกให้ใช้มือรวบปิดปากถุงไว้ให้แน่น จับถังไว้ที่หน้าอกของตนเอง แล้วเอนตัวไปข้างหลังยกขาทั้ง 2 ข้างขึ้นพยายามให้ลำตัวขนานกับน้ำหูจมน้ำหน้าเงยแอ่นหน้าอก โดยจากการประเมินทักษะการลอยตัวทุกคนสามารถทำได้ทุกคน บางคนทำได้เร็ง บางคนทำได้ช้า แต่ทุกคนก็สามารถทำได้
(2) จำลองสถานการณ์การช่วยเหลือคนจมน้ำ จากการจำลองสถานการณ์จมน้ำ พบว่า กลุ่มเป้าหมาย ทั้ง 2 กลุ่ม ได้ทำการจำลองเหตุการณ์การจมน้ำเป็นรายกลุ่ม โดยในแต่ละกลุ่ม สามารถปฏิบัติได้ถูกต้องตามลำดับขั้นตอน ตั้งแต่การตั้งสติ มีผู้ควบคุมสถานการณ์ ความปลอดภัยของผู้ประสบเหตุ การประเมินสถานการณ์ การขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ การแบ่งภาระหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ การจัดลำดับการช่วยเหลือ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายได้ผ่านการประเมินทุกคน
1.4 วัตถุประสงค์ข้อที่ 5เพื่อให้เด็กและเยาวชน และแกนนำจิตอาสาในชุมชนสร้างความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน จากการเข้าร่วมกิจกรรมสันทนาการสร้างความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน พบว่า กลุ่มเป้าหมายมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ให้ความร่วมมือที่ดีในการทำกิจกรรม มีการแสดงความคิดเห็นร่วมกันทุกคน ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นอย่างเต็มใจ รู้จักการเสียสละแบ่งปัน ให้อภัยซึ่งกันและกัน รู้จักการแก้ปัญหาร่วมกัน รวมทั้งเกิดความสนุกสนาน เกิดรอยยิ้มที่จริงใจในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ | สถานการณ์ | เป้าหมาย | ผลผลิต | อธิบาย | |
---|---|---|---|---|---|
1 | เพื่อให้เด็ก เยาวชน คณะกรรมการสภาเด็กเยาวชนเทศบาลตำบลฉลุงและแกนนำจิตอาสาในชุมชนมีความรู้เรื่องความปลอดภัยทางน้ำ และพื้นฐานในการช่วยเหลือผู้จมน้ำและการปฐมพยาบาลให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นได้ ตัวชี้วัด : เด็ก เยาวชน คณะกรรมการสภาเด็กเยาวชนเทศบาลตำบลฉลุงและแกนนำจิตอาสาในชุมชนมีความรู้เรื่องความปลอดภัยทางน้ำ และพื้นฐานในการช่วยเหลือผู้จมน้ำและการปฐมพยาบาลให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นได้ ร้อยละ 80 |
0.00 |
|
||
2 | เพื่อให้เด็ก เยาวชน คณะกรรมการสภาเด็กเยาวชนเทศบาลตำบลฉลุงและแกนนำจิตอาสาในชุมชน มีทักษะในการช่วยเหลือคนจมน้ำและทักษะการเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำได้อย่างต่อเนื่อง ตัวชี้วัด : เด็ก เยาวชน คณะกรรมการสภาเด็กเยาวชนเทศบาลตำบลฉลุงและแกนนำจิตอาสาในชุมชน มีทักษะในการช่วยเหลือคนจมน้ำและทักษะการเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำได้อย่างต่อเนื่อง ร้อยละ 80 |
0.00 |
|
||
3 | เพื่อให้เด็ก เยาวชน คณะกรรมการสภาเด็กเยาวชนเทศบาลตำบลฉลุงและแกนนำจิตอาสาในชุมชน มีส่วนร่วมในการป้องกันเหตุการณ์จมน้ำในเขตพื้นที่ชุมชน ตัวชี้วัด : เด็ก เยาวชน คณะกรรมการสภาเด็กเยาวชนเทศบาลตำบลฉลุงและแกนนำจิตอาสาในชุมชน มีส่วนร่วมในการป้องกันเหตุการณ์จมน้ำในเขตพื้นที่ชุมชน ร้อยละ 100 |
0.00 |
|
||
4 | เพื่อให้แกนนำจิตอาสาในชุมชน เพิ่มศักยภาพในการช่วยเหลือคนจมน้ำและทักษะการเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำได้ ตัวชี้วัด : แกนนำจิตอาสาในชุมชน เพิ่มศักยภาพในการช่วยเหลือคนจมน้ำและทักษะการเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำได้ ร้อยละ 80 |
0.00 |
|
||
5 | เพื่อให้เด็ก เยาวชน คณะกรรมการสภาเด็กเยาวชนเทศบาลตำบลฉลุงและแกนนำจิตอาสาในชุมชนสร้างความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ตัวชี้วัด : เด็ก เยาวชน คณะกรรมการสภาเด็กเยาวชนเทศบาลตำบลฉลุงและแกนนำจิตอาสาในชุมชนมีการสร้างความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันได้ ร้อยละ 80 |
0.00 |
|
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
---|---|---|---|
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด | 50 | 50 | |
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | |||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | - | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 30 | 30 | |
กลุ่มวัยทำงาน | 20 | 20 | |
กลุ่มผู้สูงอายุ | - | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | |||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | - | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | - | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | - | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | - | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] | - |
บทคัดย่อ*
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อให้เด็ก เยาวชน คณะกรรมการสภาเด็กเยาวชนเทศบาลตำบลฉลุงและแกนนำจิตอาสาในชุมชนมีความรู้เรื่องความปลอดภัยทางน้ำ และพื้นฐานในการช่วยเหลือผู้จมน้ำและการปฐมพยาบาลให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นได้ (2) เพื่อให้เด็ก เยาวชน คณะกรรมการสภาเด็กเยาวชนเทศบาลตำบลฉลุงและแกนนำจิตอาสาในชุมชน มีทักษะในการช่วยเหลือคนจมน้ำและทักษะการเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำได้อย่างต่อเนื่อง (3) เพื่อให้เด็ก เยาวชน คณะกรรมการสภาเด็กเยาวชนเทศบาลตำบลฉลุงและแกนนำจิตอาสาในชุมชน มีส่วนร่วมในการป้องกันเหตุการณ์จมน้ำในเขตพื้นที่ชุมชน (4) เพื่อให้แกนนำจิตอาสาในชุมชน เพิ่มศักยภาพในการช่วยเหลือคนจมน้ำและทักษะการเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำได้ (5) เพื่อให้เด็ก เยาวชน คณะกรรมการสภาเด็กเยาวชนเทศบาลตำบลฉลุงและแกนนำจิตอาสาในชุมชนสร้างความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) อบรมให้ความรู้เรื่องสถานการณ์เด็กจมน้ำและปัจจัยเสี่ยงในการเกิด การจมน้ำ (2) อบรมให้ความรู้เชิงปฏิบัติการเรื่องการฟื้นคืนชีพ (CPR) พร้อมฝึกปฏิบัติ (3) อบรมให้ความรู้เชิงปฏิบัติการ โดยฝึกทักษะการลอยตัวในน้ำ พร้อมประเมินทักษะเป็นรายกลุ่ม(ลงสระว่ายน้ำ) (4) อบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้เรื่องวิธีช่วยเหลือคนตกน้ำ/จมน้ำ (ตะโกน โยน ยื่น) ทักษะการช่วยเหลือคนจมน้ำพร้อมฝึกปฏิบัติกับอุปกรณ์ช่วยชีวิต (5) กิจกรรมสันทนาการสร้างความสัมพันธ์ (6) อบรมเชิงปฏิบัติการ โดยฝึกทักษะการลอยตัวในน้ำและประเมินทักษะเป็นรายกลุ่ม และอบรมเชิงปฏิบัติการวิธีช่วยเหลือคนตกน้ำ/จมน้ำ(จมน้ำ ตะโกน โยน ยื่น)ทักษะการช่วยเหลือคนจมน้ำพร้อมประเมินและทดสอบโดยการจำลองสถานการณ์เป็นรายกลุ่ม
ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...
หมายเหตุ *