แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์
รายงานฉบับสมบูรณ์
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลพะตง
“ โครงการรู้ทันไขมันทรานส์ ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ประจำปี 2562 ”
ตำบลพะตง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
หัวหน้าโครงการ
นางดรุณี วิเชียร
ชื่อโครงการ โครงการรู้ทันไขมันทรานส์ ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ประจำปี 2562
ที่อยู่ ตำบลพะตง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จังหวัด สงขลา
รหัสโครงการ 62-L7890-001-01 เลขที่ข้อตกลง
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2561 ถึง 31 มกราคม 2562
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการรู้ทันไขมันทรานส์ ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ประจำปี 2562 จังหวัดสงขลา" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลพะตง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลพะตง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการรู้ทันไขมันทรานส์ ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ประจำปี 2562
บทคัดย่อ
.1 ได้ดำเนินการจัดอบรม/เสวนา เรื่องไขมันทรานส์ โดยมีนายชัยณรงค์ ศรประสิทธิ์ นายกเทศมนตรีตำบลพะตง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ ณ อาคารอเนกประสงค์เทศบาลตำบลพะตง (หลังเก่า) เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 โดยมีผู้เข้ารับฟังการอบรม/เสวนาตามโครงการ จำนวน 100 คน รายละเอียดในการจัดอบรม/เสวนา โดยมีเนื้อหาพอสังเขปต่างๆ ได้แก่
ไขมันทรานส์ (Trans Fat) คือ
ไขมันทรานส์ (Trans Fat) เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่บริเวณพันธะคู่มีการจัดเรียงตัวของไฮโดรเจนอะตอมอยู่ตรงข้ามกัน สามารถพบได้ทั้งในธรรมชาติ และจากกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนลงในน้ำมัน
ไขมันทรานส์จากธรรมชาติ พบได้ในเนื้อวัว ควาย ซึ่งเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้อง และผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ดังกล่าว เช่น นม เนย ชีส แต่พบในปริมาณเพียงเล็กน้อย
ไขมันทรานส์จากกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partial Hydrogenation) ลงไปในน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ซึ่งน้ำมันที่ผ่านกระบวนการดังกล่าวจะเรียกว่า Partially Hydrogenated Oil ทำให้น้ำมันที่อยู่ในสภาพของเหลวเปลี่ยนเป็นไขมันที่มีสภาพแข็งขึ้นหรือเป็นของกึ่งเหลว พบในอุตสาหกรรมเนยเทียม (margarine) หรือเนยขาว (shortening) ซึ่งไขมันดังกล่าวจะหืนช้า และมีอายุการเก็บรักษานานขึ้น
อันตรายจากไขมันทรานส์
ไขมันทรานส์ให้ผลร้ายกว่ากรดไขมันอิ่มตัว คือ ทำให้ระดับโคเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol) ไขมันชนิดเลว (LDL-Cholesterol) และไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) เพิ่มขึ้น และมีผลทำให้ระดับไขมันชนิดดี (HDL-Cholesterol) ลดลง ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
หากรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของไขมันทรานส์มากๆ หรือติดต่อกันนานๆ อาจส่งผลเพิ่มความเสี่ยงอันตรายต่อร่างกาย ดังนี้
- โรคอ้วน
- หัวใจ และหลอดเลือด เช่น หัวใจขาดเลือด หลอดเลือดหัวใจตีบ/ตัน
- หลอดเลือดสมองตีบ/ตัน
- ไขมันในเลือดสูง
- โรคเบาหวาน
- ความดันโลหิตสูง
- โรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์
- จอประสาทตาเสื่อม
- นิ่วในถุงน้ำดี
ซึ่งโรคเหล่านี้อันตราย และหากมีอาการรุนแรงจะส่งผลต่อชีวิตได้ภายในเวลาไม่กี่นาที หากเราทานอาหารที่มีไขมันทรานส์ค่อนข้างมาก และไม่เคยตรวจสุขภาพหาค่าไขมันในเลือดมาก่อน
. ปริมาณที่สามารถบริโภคได้ต่อวัน
องค์การเกษตรและอาหารแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization, FAO) แนะนำปริมาณสูงสุดในการบริโภคไขมันทรานส์ต้องไม่เกิน 1% ของค่าพลังงานต่อวัน (หรือประมาณ 2 กรัมต่อวัน หรือประมาณ 0.5 กรัมต่อหน่วยบริโภค) อย่างไรก็ตาม FAO ยังแนะนำปริมาณสูงสุดในการบริโภคไขมันอิ่มตัวที่ไม่เกิน 10% ของค่าพลังงาน (หรือประมาณ 20 กรัมต่อวัน หรือประมาณ 5 กรัมต่อมื้อ) ไว้ด้วย เนื่องจากตระหนักว่าไขมันทั้งสองประเภทยังเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้น จึงต้องควบคุมปริมาณการบริโภคร่วมกัน
อาหาร หรือส่วนประกอบของอาหารที่มีไขมันทรานส์ ได้แก่
เนยขาว มาร์การีน ครีมเทียม ครีมเทียมข้นหวาน (ที่นิยมนำมาใช้ทำขนม ผสมเครื่องดื่มต่างๆ แทนเนยสด ครีมจริง หรือนมข้นหวานล้วน) ดังนั้นเราถึงพบอาหารที่มีไขมันทรานส์สูงในอาหารตระกูลขนมหวานฝรั่งอย่าง คุกกี้ เค้ก โดนัท วิปครีม พาย ขนมกรุบกรอบต่างๆ อาหารฟาสต์ฟู้ดต่างๆ เครื่องดื่มต่างๆ และอาหารที่มีส่วนประกอบที่กล่าวไว้ข้างต้นทั้งหมด
ขอบเขตของประกาศกระทรวงสาธารณสุขและการบังคับใช้
ประกาศฯ ฉบับนี้ มีขอบเขตการบังคับใช้กับน้ำมันและไขมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially hydrogenation) และอาหารที่มีน้ำมันและไขมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนเป็นส่วนประกอบเท่านั้น มิได้หมายรวมถึงน้ำมันและไขมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนแบบสมบูรณ์ (Fully hydrogenation) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่ทำให้เกิดไขมันทรานส์
ประกาศฯ ฉบับนี้ ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนและอาหารที่มีน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนเป็นส่วนประกอบ แต่มิได้ห้ามตรวจพบไขมันทรานส์ในผลิตภัณฑ์อาหาร
วันที่ประกาศฯ มีผลใช้บังคับ
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 388 พ.ศ.2561 เรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2562 เป็นต้นไป
1.2 ได้จัดทำแบบประเมินองค์ความรู้ สำหรับผู้เข้ารับฟังการอบรม/เสวนา ความรู้เรื่องไขมันทรานส์ จำนวน 100 คน ซึ่งพบว่าผู้เข้าร่วมรับฟังสามารถทำแบบประเมินองค์ความรู้ สรุปดังตารางดังต่อไปนี้
ช่วงคะแนน จำนวน คิดเป็นร้อยละ
0 - 4 14 14.00
5 - 7 35 35.00
8 - 10 51 51.00
จากตารางข้างต้น พบว่าผู้เข้ารับฟังสามารถที่จะทำแบบประเมินองค์ความรู้ อยู่ในช่วงคะแนน 8 – 10 คะแนน จำนวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 51.00 รองลงมาอยู่ในช่วงคะแนน 5 – 7 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 35.00 ซึ่งผู้เข้ารับฟังสามารถที่จะนำองค์ความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ในการดูแลสุขภาพของตนเองและบุคคลในครอบครัว ชุมชน เพื่อให้ลดอัตราการเกิดโรคที่จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันต่อไป
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ
บทคัดย่อ
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
วัตถุประสงค์โครงการ
กิจกรรม/การดำเนินงาน
กลุ่มเป้าหมาย
ผลลัพธ์ที่ได้
การประเมินผล
ปัญหาและอุปสรรค
ข้อเสนอแนะ
เอกสารประกอบอื่นๆ
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
ไขมันทรานส์ คือไขมันที่เป็นตัวร้ายที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายสารพัด ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นจนเกินมาตรฐาน รอบเอวที่หนาขึ้น ไขมันที่เกาะอยู่ภายในหลอดเลือดต่างๆ จนเป็นสาเหตุของโรคอันตรายมากมาย เช่น หลอดเลือดหัวใจตีบ หลอดเลือดสมองตีบ จนเป็นอัมพฤกต์ อัมพาต หรือโรคหัวใจวายเฉียบพลันได้ ดังนั้น การระมัดระวังปริมาณไขมันทรานส์ในอาหาร จึงเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อจำกัดพลังงานที่เราได้รับจากอาหาร และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอันตรายเหล่านี้ ศ.วันทนีย์ เกรียงสินยศ อาจารย์สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เราไม่ควรทานอาหารที่มีปริมาณไขมันทรานส์มากกว่า 0.5 กรัม หรือ 500 มิลลิกรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค และใน 1 วันไม่ควรทานไขมันทรานส์เกิน 2.2 กรัม หรือ 2,200 มิลลิกรัม จากการทดสอบโดยสอบถามทางวาจาเกี่ยวกับเรื่องไขมัน ทรานส์จากประชนและอสม. ปรากฏว่าประชาชนและอสม.ส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับไขมันทรานส์ ดังนั้น เพื่อให้เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับไขมันทรานส์ สามารถป้องกันการอันตรายที่มาจากการบริโภคไขมันทรานส์เกินอัตราที่กำหนด จึงได้จัดทำโครงการรู้ทันไขมันทรานส์ ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ประจำปี 2562ขึ้น
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อให้ประชาชนและอสม.มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับไขมันทรานส์
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- จัดอบรมให้ความรู้
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
100
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
ประชาชนและอสม.มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับไขมันทรานส์ ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ ผลผลิต* ผลผลิตที่ตั้งไว้ ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง
1. จัดอบรมให้ความรู้
วันที่ 14 ธันวาคม 2561กิจกรรมที่ทำ
ได้จัดอบรมเสวนาเรื่องไขมันทราน
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
ผู้เข้ารับฟังมีความรู้เรื่องไขมันทรานส์
100
0
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ สถานการณ์ เป้าหมาย ผลผลิต อธิบาย
1
เพื่อให้ประชาชนและอสม.มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับไขมันทรานส์
ตัวชี้วัด : จากการทำแบบทดสอบหลังการอบรม ประชาชนสามารถตอบคำถามได้ถูกต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
70.00
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
100
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
-
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
-
กลุ่มวัยทำงาน
100
กลุ่มผู้สูงอายุ
-
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
-
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
-
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
-
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
-
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
-
บทคัดย่อ*
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค สาเหตุ ข้อเสนอแนะ
ส่วนที่ 3 ประเมินคุณค่าโครงการ
โครงการรู้ทันไขมันทรานส์ ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ประจำปี 2562 จังหวัด สงขลา
รหัสโครงการ 62-L7890-001-01
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
................................
( นางดรุณี วิเชียร )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลพะตง
“ โครงการรู้ทันไขมันทรานส์ ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ประจำปี 2562 ”
ตำบลพะตง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาหัวหน้าโครงการ
นางดรุณี วิเชียร
ชื่อโครงการ โครงการรู้ทันไขมันทรานส์ ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ประจำปี 2562
ที่อยู่ ตำบลพะตง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จังหวัด สงขลา
รหัสโครงการ 62-L7890-001-01 เลขที่ข้อตกลง
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2561 ถึง 31 มกราคม 2562
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการรู้ทันไขมันทรานส์ ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ประจำปี 2562 จังหวัดสงขลา" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลพะตง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลพะตง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการรู้ทันไขมันทรานส์ ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ประจำปี 2562
บทคัดย่อ
.1 ได้ดำเนินการจัดอบรม/เสวนา เรื่องไขมันทรานส์ โดยมีนายชัยณรงค์ ศรประสิทธิ์ นายกเทศมนตรีตำบลพะตง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ ณ อาคารอเนกประสงค์เทศบาลตำบลพะตง (หลังเก่า) เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 โดยมีผู้เข้ารับฟังการอบรม/เสวนาตามโครงการ จำนวน 100 คน รายละเอียดในการจัดอบรม/เสวนา โดยมีเนื้อหาพอสังเขปต่างๆ ได้แก่
ไขมันทรานส์ (Trans Fat) คือ
ไขมันทรานส์ (Trans Fat) เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่บริเวณพันธะคู่มีการจัดเรียงตัวของไฮโดรเจนอะตอมอยู่ตรงข้ามกัน สามารถพบได้ทั้งในธรรมชาติ และจากกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนลงในน้ำมัน
ไขมันทรานส์จากธรรมชาติ พบได้ในเนื้อวัว ควาย ซึ่งเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้อง และผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ดังกล่าว เช่น นม เนย ชีส แต่พบในปริมาณเพียงเล็กน้อย
ไขมันทรานส์จากกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partial Hydrogenation) ลงไปในน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ซึ่งน้ำมันที่ผ่านกระบวนการดังกล่าวจะเรียกว่า Partially Hydrogenated Oil ทำให้น้ำมันที่อยู่ในสภาพของเหลวเปลี่ยนเป็นไขมันที่มีสภาพแข็งขึ้นหรือเป็นของกึ่งเหลว พบในอุตสาหกรรมเนยเทียม (margarine) หรือเนยขาว (shortening) ซึ่งไขมันดังกล่าวจะหืนช้า และมีอายุการเก็บรักษานานขึ้น
อันตรายจากไขมันทรานส์
ไขมันทรานส์ให้ผลร้ายกว่ากรดไขมันอิ่มตัว คือ ทำให้ระดับโคเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol) ไขมันชนิดเลว (LDL-Cholesterol) และไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) เพิ่มขึ้น และมีผลทำให้ระดับไขมันชนิดดี (HDL-Cholesterol) ลดลง ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
หากรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของไขมันทรานส์มากๆ หรือติดต่อกันนานๆ อาจส่งผลเพิ่มความเสี่ยงอันตรายต่อร่างกาย ดังนี้
- โรคอ้วน
- หัวใจ และหลอดเลือด เช่น หัวใจขาดเลือด หลอดเลือดหัวใจตีบ/ตัน
- หลอดเลือดสมองตีบ/ตัน
- ไขมันในเลือดสูง
- โรคเบาหวาน
- ความดันโลหิตสูง
- โรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์
- จอประสาทตาเสื่อม
- นิ่วในถุงน้ำดี
ซึ่งโรคเหล่านี้อันตราย และหากมีอาการรุนแรงจะส่งผลต่อชีวิตได้ภายในเวลาไม่กี่นาที หากเราทานอาหารที่มีไขมันทรานส์ค่อนข้างมาก และไม่เคยตรวจสุขภาพหาค่าไขมันในเลือดมาก่อน
. ปริมาณที่สามารถบริโภคได้ต่อวัน
องค์การเกษตรและอาหารแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization, FAO) แนะนำปริมาณสูงสุดในการบริโภคไขมันทรานส์ต้องไม่เกิน 1% ของค่าพลังงานต่อวัน (หรือประมาณ 2 กรัมต่อวัน หรือประมาณ 0.5 กรัมต่อหน่วยบริโภค) อย่างไรก็ตาม FAO ยังแนะนำปริมาณสูงสุดในการบริโภคไขมันอิ่มตัวที่ไม่เกิน 10% ของค่าพลังงาน (หรือประมาณ 20 กรัมต่อวัน หรือประมาณ 5 กรัมต่อมื้อ) ไว้ด้วย เนื่องจากตระหนักว่าไขมันทั้งสองประเภทยังเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้น จึงต้องควบคุมปริมาณการบริโภคร่วมกัน
อาหาร หรือส่วนประกอบของอาหารที่มีไขมันทรานส์ ได้แก่ เนยขาว มาร์การีน ครีมเทียม ครีมเทียมข้นหวาน (ที่นิยมนำมาใช้ทำขนม ผสมเครื่องดื่มต่างๆ แทนเนยสด ครีมจริง หรือนมข้นหวานล้วน) ดังนั้นเราถึงพบอาหารที่มีไขมันทรานส์สูงในอาหารตระกูลขนมหวานฝรั่งอย่าง คุกกี้ เค้ก โดนัท วิปครีม พาย ขนมกรุบกรอบต่างๆ อาหารฟาสต์ฟู้ดต่างๆ เครื่องดื่มต่างๆ และอาหารที่มีส่วนประกอบที่กล่าวไว้ข้างต้นทั้งหมด
ขอบเขตของประกาศกระทรวงสาธารณสุขและการบังคับใช้ ประกาศฯ ฉบับนี้ มีขอบเขตการบังคับใช้กับน้ำมันและไขมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially hydrogenation) และอาหารที่มีน้ำมันและไขมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนเป็นส่วนประกอบเท่านั้น มิได้หมายรวมถึงน้ำมันและไขมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนแบบสมบูรณ์ (Fully hydrogenation) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่ทำให้เกิดไขมันทรานส์ ประกาศฯ ฉบับนี้ ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนและอาหารที่มีน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนเป็นส่วนประกอบ แต่มิได้ห้ามตรวจพบไขมันทรานส์ในผลิตภัณฑ์อาหาร
วันที่ประกาศฯ มีผลใช้บังคับ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 388 พ.ศ.2561 เรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2562 เป็นต้นไป
1.2 ได้จัดทำแบบประเมินองค์ความรู้ สำหรับผู้เข้ารับฟังการอบรม/เสวนา ความรู้เรื่องไขมันทรานส์ จำนวน 100 คน ซึ่งพบว่าผู้เข้าร่วมรับฟังสามารถทำแบบประเมินองค์ความรู้ สรุปดังตารางดังต่อไปนี้
ช่วงคะแนน จำนวน คิดเป็นร้อยละ 0 - 4 14 14.00 5 - 7 35 35.00 8 - 10 51 51.00
จากตารางข้างต้น พบว่าผู้เข้ารับฟังสามารถที่จะทำแบบประเมินองค์ความรู้ อยู่ในช่วงคะแนน 8 – 10 คะแนน จำนวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 51.00 รองลงมาอยู่ในช่วงคะแนน 5 – 7 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 35.00 ซึ่งผู้เข้ารับฟังสามารถที่จะนำองค์ความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ในการดูแลสุขภาพของตนเองและบุคคลในครอบครัว ชุมชน เพื่อให้ลดอัตราการเกิดโรคที่จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันต่อไป
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ | |
บทคัดย่อ | |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล | |
วัตถุประสงค์โครงการ | |
กิจกรรม/การดำเนินงาน | |
กลุ่มเป้าหมาย | |
ผลลัพธ์ที่ได้ | |
การประเมินผล | |
ปัญหาและอุปสรรค | |
ข้อเสนอแนะ | |
เอกสารประกอบอื่นๆ |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
ไขมันทรานส์ คือไขมันที่เป็นตัวร้ายที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายสารพัด ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นจนเกินมาตรฐาน รอบเอวที่หนาขึ้น ไขมันที่เกาะอยู่ภายในหลอดเลือดต่างๆ จนเป็นสาเหตุของโรคอันตรายมากมาย เช่น หลอดเลือดหัวใจตีบ หลอดเลือดสมองตีบ จนเป็นอัมพฤกต์ อัมพาต หรือโรคหัวใจวายเฉียบพลันได้ ดังนั้น การระมัดระวังปริมาณไขมันทรานส์ในอาหาร จึงเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อจำกัดพลังงานที่เราได้รับจากอาหาร และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอันตรายเหล่านี้ ศ.วันทนีย์ เกรียงสินยศ อาจารย์สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เราไม่ควรทานอาหารที่มีปริมาณไขมันทรานส์มากกว่า 0.5 กรัม หรือ 500 มิลลิกรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค และใน 1 วันไม่ควรทานไขมันทรานส์เกิน 2.2 กรัม หรือ 2,200 มิลลิกรัม จากการทดสอบโดยสอบถามทางวาจาเกี่ยวกับเรื่องไขมัน ทรานส์จากประชนและอสม. ปรากฏว่าประชาชนและอสม.ส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับไขมันทรานส์ ดังนั้น เพื่อให้เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับไขมันทรานส์ สามารถป้องกันการอันตรายที่มาจากการบริโภคไขมันทรานส์เกินอัตราที่กำหนด จึงได้จัดทำโครงการรู้ทันไขมันทรานส์ ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ประจำปี 2562ขึ้น
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อให้ประชาชนและอสม.มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับไขมันทรานส์
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- จัดอบรมให้ความรู้
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้ | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 100 | |
กลุ่มผู้สูงอายุ | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
ประชาชนและอสม.มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับไขมันทรานส์ ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์** กิจกรรมของโครงการ | ผลผลิต* | |
---|---|---|
ผลผลิตที่ตั้งไว้ | ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง | |
1. จัดอบรมให้ความรู้ |
||
วันที่ 14 ธันวาคม 2561กิจกรรมที่ทำได้จัดอบรมเสวนาเรื่องไขมันทราน ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นผู้เข้ารับฟังมีความรู้เรื่องไขมันทรานส์
|
100 | 0 |
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ | สถานการณ์ | เป้าหมาย | ผลผลิต | อธิบาย | |
---|---|---|---|---|---|
1 | เพื่อให้ประชาชนและอสม.มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับไขมันทรานส์ ตัวชี้วัด : จากการทำแบบทดสอบหลังการอบรม ประชาชนสามารถตอบคำถามได้ถูกต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 |
70.00 |
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
---|---|---|---|
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด | 100 | ||
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | |||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | - | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | - | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 100 | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | - | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | |||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | - | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | - | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | - | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | - | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] | - |
บทคัดย่อ*
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค | สาเหตุ | ข้อเสนอแนะ |
---|---|---|
ส่วนที่ 3 ประเมินคุณค่าโครงการ
โครงการรู้ทันไขมันทรานส์ ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ประจำปี 2562 จังหวัด สงขลา
รหัสโครงการ 62-L7890-001-01
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
( นางดรุณี วิเชียร )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......