กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

1.จัดทำโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ 2.ประชุมชี้แจงโครงการแก่เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยงข้อง 3.จัดตั้งคณะกรรมการทำข้อมูลผู้ป่วย นำเสนอข้อมูลหาแนวทางแก้ไขปัญหา 4.จัดทำกลุ่มไลน์เป็นศุนย์กลางในการดูแลผู้ป่วยที่ต้องเยี่ยมบ้านให้ได้รับการดูแลและสนับสนุนอย่างทั่วถึง กลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน การดูแลจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและผู้นำชุมชน 5.จัดทำเบาะลมพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 3 ชุดๆละ 5000 บาท เป็นเงิน 15000 บาท (ใช้หมุนเวียนในผู้ป่วยติดเตียงที่บ้าน)เพื่อป้องกันแผลกดทับโดย รพ.สต.เป็นศูนย์กลางในการเก็บรักษาอุปกรณ์) 6.จัดซื้อเครื่องดูดเสมหะจำนวน 1 เครื่องๆละ3500 บาท  (ใช้หมุนเวียนในผู้ป่วยติดเตียงที่บ้านที่ไม่สามารถขับเสมหะออกได้เอง เพื่อป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ โดย รพ.สต.เป็นศูนย์กลางในการเก็บรักษาอุปกรณ์) 7.จัดซื้อเครื่องวัดความดันโลหิตแบบอัตโนมัติ จำนวน 1 เครื่องๆละ 2950 บาท เป็นเงิน 2950 บาท(ใช้หมุนเวียนในผู้ป่วยติดเตียงที่บ้าน ใช้วัดความดันโลหิตเพื่อประเมินสัญญาณชีพ โดย รพ.สต.เป็นศูนย์กลางในการเก็บรักษาอุปกรณ์ 8.จัดซื้อเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว  จำนวน 1 เครื่องๆละ 1900 บาท เป็นเงิน 1900 บาท (ใช้หมุนเวียนในผู้ป่วยติดเตียงที่บ้าน เพื่อประเมินระดับออกซิเจนในร่างกาย ในผู้ป่วยที่มีปัญหาระบบทางทางเดินหายใจ โดย รพ.สต.เป็นศูนย์กลางในการเก็บรัษาอุปกรณ์)อุปกรณ์ที่จัดซื้อใช้ในการทำงานเชิงรุกในชุมชน

1.ซื้อเบาะลมพร้อมอุปกรณ์  จำนวน 3 ชุด 2.ซื้อเครื่องดูดเสมหะ          จำนวน 1 เครื่อง 3.ซื้อเครื่องวัดความดัน        จำนวน 1 เครื่อง 4.ซื้อเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว จำนวน 1 เครื่อง

ออกเยี่ยมบ้านผู้ป่วยตามเกณฑ์(เกณฑ์ระดับความรุนแรงของผู้ป่วยและความต้องการการช่วยเหลือ) โดยเจ้าหน้าที่,แกนนำ อสม.และทีมสหวิชาชีพดังนี้ - ความรุนแรงระดับที่1 ผู้ป่วยที่เริ่มป่วยระยะแรกจากการเป็นโรค แต่ขาดความรู้ความเข้าใจและทักษะในการดูแลสุขภาพ เยี่ยมครั้งแรกภายใน 1 เดือน ติดตามทุก 6 เดือน ความรุนแรงระดับ 2 ผู้ป่วยที่โรคส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตปกติ  ต้องการผู้ดูแลช่วยเหลือการทำกิจวัตรประจำวันให้เยี่ยมครั้งแรก  ภายใน2-3 สัปดาห์ ติดตามทุก 3 เดือนหรือตามสภาพปัญหา ความรุนแรงระดับ 3 ผู้ป่วยมีพยาธิสภาพของโรคทำให้เกิดความพิการ/จำกัดความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน ต้องมีผู้ดูแลช่วยเหลือ(ความรุนแรงมาก)เยี่ยมครั้งแรกภายใน 1-2 สัปดาห์ ติดตามทุกเดือนหรือตามสภาพปัญหา ให้คำแนะนำดูแลช่วยเหลือตามสภาพความรุนแรงของผู้ป่วย

1.ร้อยละ100 ของผู้ป่วยที่โรงพยาบาลส่งต่อให้ติดตามเยี่ยมบ้านได้รับการเยี่ยมบ้าน 2.ร้อยละ 100 ของผู้ป่วยติดเตียง/ญาติผู้พิการติดเตียงได้รับการเยี่ยมบ้านอย่างต่อเนื่อง 3.ร้อยละ 85.71 ของผู้ป่วยและญาติสามารถพึ่งตนเองในการดูแลสุขภาพที่บ้านได้

1.จัดอบรมให้ความรู้ในการดูแลผู้ป่วยและการใช้อุกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆญาติผู้ดูแลแกนนำอาสาสมัคร ผู้นำชุมชน
- ค่าอาหารกลางวัน จำนวน 25 คน ๆละ 75 บาท เป็นเงิน 1875 บาท
- ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม จำนวน 25 คนไละ 25 บาทเป็นเงิน 625 บาท

ญาติและผู้ที่เกี่ยวข้องมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลผู้ป่วยมากขึ้นและสามารถใช้อุปกรณ์ได้อย่างถูกต้องจากการซักถาม