แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์
รายงานฉบับสมบูรณ์
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลฉลุง
“ โครงการไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ”
ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล
หัวหน้าโครงการ
นางสาวศิริรัตน์ แซ่จิ้ว
ชื่อโครงการ โครงการไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
ที่อยู่ ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 62-L7580-2-02 เลขที่ข้อตกลง
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 5 มีนาคม 2562 ถึง 15 มีนาคม 2562
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง จังหวัดสตูล" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลฉลุง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล รหัสโครงการ 62-L7580-2-02 ระยะเวลาการดำเนินงาน 5 มีนาคม 2562 - 15 มีนาคม 2562 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 40,600.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลฉลุง เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกในชุมชนจำนวน 0 คน หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ
บทคัดย่อ
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
วัตถุประสงค์โครงการ
กิจกรรม/การดำเนินงาน
กลุ่มเป้าหมาย
ผลลัพธ์ที่ได้
การประเมินผล
ปัญหาและอุปสรรค
ข้อเสนอแนะ
เอกสารประกอบอื่นๆ
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
การจะพัฒนาประเทศชาติให้เจริญได้นั้น ประชากรในประเทศต้องมีสุขภาพที่ดี มีความสมบูรณ์ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงจะสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญได้ สิ่งสำคัญประการหนึ่งในการส่งเสริมสุขภาพของประชากรก็คือ การออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬาทุกชนิด ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดี และต้องปฏิบัติโดยสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง การออกกำลังกายแบบไท้เก๊กก็เป็นการออกกำลังกายประเภทหนึ่งที่มีผู้คนนิยมทั่วโลก เพราะเป็นการออกกำลังกายแบบยืดหยุ่นร่างกายทุกส่วนทั้งแขนและขา ท่าทางการเคลื่อนไหวเป็นท่าที่มีการยืดและหดกล้ามเนื้อส่วนต่างๆมีจังหวะ
ที่ผสมผสานกลมกลืน มีลักษณะนุ่มนวล โอนอ่อนผ่อนคลาย การเคลื่อนไหวลื่นไหลต่อเนื่อง การหายใจสอดประสานไปกับการเคลื่อนไหว พร้อมต้องตั้งจิตติดตามการเคลื่อนไหวของร่างกายไปตลอด ทำให้เกิดสมาธิ เนื่องจากไม่มีการเกร็งกล้ามเนื้อ หรือการออกแรงกระแทก จึงมีโอกาสเกิดการบาดเจ็บร่างกายได้น้อย เมื่อเทียบกับกีฬาที่ใช้แรงชนิดอื่นๆทำให้เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย แม้แก่ชรา อายุ 90-100 กว่าปีก็ยังฝึกฝนได้ ประโยชน์ที่ได้รับนอกจากสุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว การเกิดสมาธิเป็นการจัดการด้านอารมณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดจากกลยุทธ์ 3 อ.(อารมณ์,อาหาร,ออกกำลังกาย) อ.อารมณ์มีความสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อทุกๆอ. หากบริหารจัดการอารมณ์ได้แล้วสภาวะสุขภาพก็จะดีตามไปด้วย และยังเพิ่มอัตราการไหลเวียนโลหิตทั้งร่างกาย ปอด หัวใจแข็งแรง และช่วยให้เกิดการเผาผลาญพลังงานส่วนเกินในร่างกาย
เทศบาลตำบลฉลุง ได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของการออกกำลังกายแบบไท้เก๊กจึงได้ส่งเสริมให้ประชาชนรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นชมรม และมีการออกกำลังกายแบบไท้เก๊กขึ้น ในวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 05.00-06.00 น. ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาเทศบาลตำบลฉลุง มาเป็นระยะเวลา 13 ปี ปัจจุบันมีสมาชิกชมรม จำนวน 55 คน สมาชิกชมรมมีทั้งคนในเขตเทศบาลตำบลฉลุงและพื้นที่ใกล้เคียง จากการดำเนินงานของชมรม พบว่า สมาชิกชมรมส่วนใหญ่มาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และจากการสำรวจข้อมูลสมาชิกชมรม มีสมาชิกป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง จำนวน 20 คน โรคความดันเบาหวาน จำนวน 6 คน โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด จำนวน 3 คน และไม่พบผู้ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดสมองแตก/ตีบ และพบว่า ถึงแม้สมาชิกส่วนใหญ่จะมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ด้วยศาสตร์การออกกำลังกายแบบไท้เก๊กจะต้องมีใช้ทักษะสูงในด้านการใช้ปราณ การฝึกหายใจ การเคลื่อนไหว อย่างมีสมาธิ สมาชิกบางคนยังไม่มีทักษะเท่าที่ควร อีกทั้งพฤติกรรมในการดำรงชีวิตประจำวันของสมาชิก เช่น พฤติกรรมการรับประทานอาหาร การนอน การจัดการอารมณ์ และสภาพแวดล้อมของที่อยู่อาศัย ไม่เหมาะกับสุขภาพของ ช่วงวัย และโรคที่เป็น ส่งผลให้การออกกำลังกาย ไม่สามารถควบคุมโรคที่เป็นให้อยู่ในระดับปกติได้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ จึงจำเป็นต้องส่งเสริม สร้างเสริมพฤติกรรมสุขภาพ พร้อมๆกับการออกกำลังกายอย่างจริงจัง จึงจะส่งผลต่อร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ
จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุง จึงได้จัดทำโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ควบคู่ไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ปี 2562 ขึ้น เพื่อให้สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุง มีทักษะมีความรู้นำไปซึ่งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง อนึ่งการดำเนินงานดังกล่าวจะส่งผลให้สมาชิกมีสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง และสามารถใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- 1.เพื่อให้สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุงที่เข้ารับการอบรม มีความรู้ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง
- 2.เพื่อเพิ่มศักยภาพสมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุงที่เข้ารับการอบรม ให้มีทักษะ ไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น อย่างถูกต้อง
- 3.เพื่อให้สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุงที่เข้ารับการอบรม นำความรู้ ทักษะ ที่ได้รับไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพได้อย่างถูกต้อง
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- อบรมความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
- อบรมให้ความรู้เรื่องการรับประธานอาหาร อาหารสุขภาพ
- อบรมให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค สาธิตเมนูสุขภาพ
- อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น
- กิจกรรมย่อย อบรมให้ความรู้เรื่องการจัดการอารมณ์
- กิจกรรมย่อย อบรมให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค การนอน นาฬิกาชีวิต ชีวจิตสร้างสุข
- กิจกรรมนันทนาการเตรียมความพร้อม
- อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น
- อบรมให้ความรู้เรื่องอนามัยสิ่งแวดล้อม
- กิจกรรมอบรมให้ความรู้เรื่องการจัดบ้านให้เหมาะสมกับโรคกับวัยและถูกคุณลักษณะ
- อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น
- กิจกรรมนันทนาการ
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
10
กลุ่มผู้สูงอายุ
30
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุง ที่เข้ารับการอบรมมีความรู้ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพได้อย่างถูกต้อง
2.สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุง ที่เข้ารับการอบรมมีทักษะ ไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ได้อย่างถูกต้อง
3.สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุง ที่เข้ารับการอบรมนำความรู้ ทักษะ ที่ได้รับไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพได้อย่างถูกต้อง
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ ผลผลิต* ผลผลิตที่ตั้งไว้ ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง
1. อบรมความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
วันที่ 13 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
อบรมให้ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคเรื้อรัง
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้คะแนน ดังนี้
ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
7 21 48.84 8 14 32.56
8 12 27.91 9 17 39.53
9 6 13.95 10 12 27.91
10 4 9.30
รวม 43 100 รวม 40 100
จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม พบว่า กลุ่มเป้าหมาย ก่อนการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 9.30 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 13.95 คะแนนน้อยที่สุดที่ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 และความถี่ที่ได้มากที่สุด คือ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 หลังการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 27.91 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 คะแนนน้อยที่สุดที่ 8 คะแนน จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 32.56 และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 เมื่อนำมาเปรียบเทียบการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม กลุ่มเป้าหมายมีความรู้เพิ่มขึ้นจำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 83.72 และมีความรู้เท่าเดิม จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 16.28
40
0
2. อบรมให้ความรู้เรื่องการรับประทานอาหาร อาหารสุขภาพ
วันที่ 13 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
อบรมให้ความรู้เรื่องการรับประทานอาหาร อาหารสุขภาพ
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้คะแนน ดังนี้
ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
7 21 48.84 8 14 32.56
8 12 27.91 9 17 39.53
9 6 13.95 10 12 27.91
10 4 9.30
รวม 43 100 รวม 40 100
จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม พบว่า กลุ่มเป้าหมาย ก่อนการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 9.30 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 13.95 คะแนนน้อยที่สุดที่ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 และความถี่ที่ได้มากที่สุด คือ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 หลังการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 27.91 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 คะแนนน้อยที่สุดที่ 8 คะแนน จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 32.56 และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 เมื่อนำมาเปรียบเทียบการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม กลุ่มเป้าหมายมีความรู้เพิ่มขึ้นจำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 83.72 และมีความรู้เท่าเดิม จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 16.28
40
0
3. อบรมให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค สาธิตเมนูสุขภาพ
วันที่ 13 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
อบรมให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค สาธิตเมนูสุขภาพ
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้คะแนน ดังนี้
ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
7 21 48.84 8 14 32.56
8 12 27.91 9 17 39.53
9 6 13.95 10 12 27.91
10 4 9.30
รวม 43 100 รวม 40 100
จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม พบว่า กลุ่มเป้าหมาย ก่อนการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 9.30 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 13.95 คะแนนน้อยที่สุดที่ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 และความถี่ที่ได้มากที่สุด คือ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 หลังการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 27.91 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 คะแนนน้อยที่สุดที่ 8 คะแนน จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 32.56 และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 เมื่อนำมาเปรียบเทียบการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม กลุ่มเป้าหมายมีความรู้เพิ่มขึ้นจำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 83.72 และมีความรู้เท่าเดิม จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 16.28
40
0
4. อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น
วันที่ 13 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จากการสังเกตกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 43 คน พบว่า กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือในการอบรมฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น โดยได้ปฏิบัติตามวิทยากรอย่างถูกต้อง แต่เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สูงวัยค่อนข้างมาก ทำให้การทำท่างทางในบางท่าที่มีการใช้ข้อเข่า อาจจะปฏิบัติได้ไม่สวยเหมือนดังวิทยากร ซึ่งในการฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น วิทยากรได้สอนรำ 24 ท่า ซึ่งกลุ่มเป้าหมายก็มีความรู้อยู่บ้างแล้ว แต่ก็มีกลุ่มเป้าหมายบางรายที่ไม่ได้ออกไปรำไท้เกีกอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ลทำท่าทางได้ไม่สวย และเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ฝึกทักษะได้ถูกต้อง วิทยากรได้ฝึกสอนทักษะแต่ละท่าทางไปอย่างช้า หากกลุ่มเป้าหมายทำไม่ได้ก็จะทวนท่าซ้ำๆไปอย่างช้าๆจนกลุ่มเป้าหมายทำได้ดี ซึ่งในระหว่างฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ก็ได้มีการหยุดพักระหว่างทำกิจกรรม เพราะในการฝึกทักษะไท้เก๊กนี้ใช้พลังงานเยอะทำให้กลุ่มเป้าหมายบางคนเหนื่อยและมีเหงื่อออกจำนวนมาก แต่กลุ่มเป้าหมายก็สามารถปฏิบัติทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็นได้ถูกต้อง
40
0
5. กิจกรรมย่อย อบรมให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค การนอน นาฬิกาชีวิต ชีวจิตสร้างสุข
วันที่ 14 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
อบรมให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค การนอน นาฬิกาชีวิต ชีวจิตสร้างสุข
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จากการประเมินตนเองในเรื่องพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย และอารมณ์ มีจำนวนคำถามทั้งหมด 20 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมาย จำนวน 43 คน ได้คะแนน ดังนี้
พฤติกรรมที่ปฏิบัติ ความถี่การปฏิบัติ
ประจำ ครั้งคราว ไม่เคยเลย
(จำนวนคน) (จำนวนคน) (จำนวนคน)
1. กินอาหารครบ 5 หมู่ (ข้าว ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ นม ) 43 0 0
2. กินอาหารหลากหลาย ไม่ซ้ำซาก 30 13 0
3. กินผักมากกว่าวันละ 3 ทัพพี 30 13 0
4. กินผลไม้วันละ 2-3 ส่วน (หนึ่งส่วนเท่ากับ 6-8 คำ) 25 10 8
5. กินปลา อย่างน้อยวันละ 1 มื้อ 11 31 2
6. กินเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน สัปดาห์ละ 2-3 มื้อ 13 27 3
7. ดื่มนมขาดมันเนย วันละ 1-2 แก้ว 10 28 5
8. กินอาหารมื้อเย็นห่างจากเวลานอนไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง 18 19 6
9. กินอาหารประเภทต้ม นึ่ง ลวก อบ 18 19 6
10. หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง 40 3 0
11. หลีกเลี่ยงของหวาน และขนมที่มีแป้งและน้ำตาลมาก 37 3 3
13. เลือกดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลมหรือน้ำหวาน 43 0 0
14. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 43 0 0
15. อารมณ์ดี ไม่เครียด 40 3 0
16. นอนหลับไม่น้อยกว่าวันละ 7-8 ชั่วโมง 43 0 0
17. ออกกำลังสัปดาห์ละ 5 วัน 39 4 0
18. ออกกำลังวันละ 30 นาที 39 4 0
19. ขณะออกกำลังหายใจเร็วขึ้นกว่าปกติและเหงื่อซึม 37 6 0
20. ทุกครั้งวัดรอบเอวได้ไม่เกินเกณฑ์อ้วนลงพุง คือ
เพศหญิงไม่เกิน 80 ซม. และเพศชายไม่เกิน 90 ซม. 12 13 18
จากตารางการประเมินตนเอง พบว่า กลุ่มเป้าหมายได้ปฏิบัติเป็นประจำทุกคน คือ พฤติกรรมการกินอาหารครบ 5 หมู่ (ข้าว ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ นม ) การเลือกดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลมหรือน้ำหวาน และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ปฏิบัติเป็นประจำรองลงมา จำนวน 40 คน คือ พฤติกรรมอารมณ์ดี ไม่เครียด และปฏิบัติเป็นประจำน้อยที่สุด จำนวน 10 คน คือ พฤติกรรมการดื่มนมขาดมันเนย วันละ 1-2 แก้ว กลุ่มเป้าหมายได้ปฏิบัติเป็นครั้งคราวมากที่สุด จำนวน 31 คน คือ พฤติกรรมการกินปลา อย่างน้อยวันละ 1 มื้อ กลุ่มเป้าหมายได้ปฏิบัติเป็นครั้งคราวรองลงมา จำนวน 28 คน คือ พฤติกรรมการดื่มนมขาดมันเนย วันละ 1-2 แก้ว และไม่มีการปฏิบัติเป็นครั้งคราวเลย คือ พฤติกรรมการกินอาหารครบ 5 หมู่ (ข้าว ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ นม ) การเลือกดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลมหรือน้ำหวาน หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และการนอนหลับไม่น้อยกว่าวันละ 7-8 ชั่วโมง กลุ่มเป้าหมายไม่เคยปฏิบัติเลยมากที่สุด จำนวน 18 คน คือ ทุกครั้งวัดรอบเอวได้ไม่เกินเกณฑ์อ้วนลงพุง คือ เพศหญิงไม่เกิน 80 ซม. และเพศชายไม่เกิน 90 ซม. ไม่เคยปฏิบัติเลยรองลงมา จำนวน 8 คน คือ พฤติกรรมการกินผลไม้วันละ 2-3 ส่วน (หนึ่งส่วนเท่ากับ 6-8 คำ)และไม่มีการไม่เคยปฏิบัติเลย คือ พฤติกรรมการกินอาหารครบ 5 หมู่ (ข้าว ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ นม ) กินอาหารหลากหลาย ไม่ซ้ำซาก กินผักมากกว่าวันละ 3 ทัพพี หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง เลือกดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลมหรือน้ำหวาน หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อารมณ์ดี ไม่เครียด นอนหลับไม่น้อยกว่าวันละ 7-8 ชั่วโมง ออกกำลังสัปดาห์ละ 5 วัน ออกกำลังวันละ 30 นาที และขณะออกกำลังหายใจเร็วขึ้นกว่าปกติและเหงื่อซึม
40
0
6. กิจกรรมนันทนาการเตรียมความพร้อม
วันที่ 14 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
ทำกิจกรรมนันทนาการเตรียมความพร้อม
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
ช่วยสร้างความผ่อนคลาย เสียงหัวเราะ ได้ขยับร่างกาย สร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม
40
0
7. อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น
วันที่ 14 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จากการสังเกตกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 43 คน พบว่า กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือในการอบรมฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น โดยได้ปฏิบัติตามวิทยากรอย่างถูกต้อง แต่เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สูงวัยค่อนข้างมาก ทำให้การทำท่างทางในบางท่าที่มีการใช้ข้อเข่า อาจจะปฏิบัติได้ไม่สวยเหมือนดังวิทยากร ซึ่งในการฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น วิทยากรได้สอนรำ 24 ท่า ซึ่งกลุ่มเป้าหมายก็มีความรู้อยู่บ้างแล้ว แต่ก็มีกลุ่มเป้าหมายบางรายที่ไม่ได้ออกไปรำไท้เกีกอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ลทำท่าทางได้ไม่สวย และเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ฝึกทักษะได้ถูกต้อง วิทยากรได้ฝึกสอนทักษะแต่ละท่าทางไปอย่างช้า หากกลุ่มเป้าหมายทำไม่ได้ก็จะทวนท่าซ้ำๆไปอย่างช้าๆจนกลุ่มเป้าหมายทำได้ดี ซึ่งในระหว่างฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ก็ได้มีการหยุดพักระหว่างทำกิจกรรม เพราะในการฝึกทักษะไท้เก๊กนี้ใช้พลังงานเยอะทำให้กลุ่มเป้าหมายบางคนเหนื่อยและมีเหงื่อออกจำนวนมาก แต่กลุ่มเป้าหมายก็สามารถปฏิบัติทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็นได้ถูกต้อง
40
0
8. กิจกรรมย่อย อบรมให้ความรู้เรื่องการจัดการอารมณ์
วันที่ 14 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
อบรมให้ความรู้เรื่องการจัดการอารมณ์
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้คะแนน ดังนี้
ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
7 21 48.84 8 14 32.56
8 12 27.91 9 17 39.53
9 6 13.95 10 12 27.91
10 4 9.30
รวม 43 100 รวม 40 100
จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม พบว่า กลุ่มเป้าหมาย ก่อนการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 9.30 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 13.95 คะแนนน้อยที่สุดที่ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 และความถี่ที่ได้มากที่สุด คือ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 หลังการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 27.91 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 คะแนนน้อยที่สุดที่ 8 คะแนน จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 32.56 และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 เมื่อนำมาเปรียบเทียบการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม กลุ่มเป้าหมายมีความรู้เพิ่มขึ้นจำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 83.72 และมีความรู้เท่าเดิม จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 16.28
40
0
9. กิจกรรมนันทนาการ
วันที่ 15 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
ทำกิจกรรมนันทนาการเตรียมความพร้อม
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
ช่วยสร้างความผ่อนคลาย เสียงหัวเราะ ได้ขยับร่างกาย สร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม
40
0
10. อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น
วันที่ 15 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จากการสังเกตกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 43 คน พบว่า กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือในการอบรมฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น โดยได้ปฏิบัติตามวิทยากรอย่างถูกต้อง แต่เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สูงวัยค่อนข้างมาก ทำให้การทำท่างทางในบางท่าที่มีการใช้ข้อเข่า อาจจะปฏิบัติได้ไม่สวยเหมือนดังวิทยากร ซึ่งในการฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น วิทยากรได้สอนรำ 24 ท่า ซึ่งกลุ่มเป้าหมายก็มีความรู้อยู่บ้างแล้ว แต่ก็มีกลุ่มเป้าหมายบางรายที่ไม่ได้ออกไปรำไท้เกีกอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ลทำท่าทางได้ไม่สวย และเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ฝึกทักษะได้ถูกต้อง วิทยากรได้ฝึกสอนทักษะแต่ละท่าทางไปอย่างช้า หากกลุ่มเป้าหมายทำไม่ได้ก็จะทวนท่าซ้ำๆไปอย่างช้าๆจนกลุ่มเป้าหมายทำได้ดี ซึ่งในระหว่างฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ก็ได้มีการหยุดพักระหว่างทำกิจกรรม เพราะในการฝึกทักษะไท้เก๊กนี้ใช้พลังงานเยอะทำให้กลุ่มเป้าหมายบางคนเหนื่อยและมีเหงื่อออกจำนวนมาก แต่กลุ่มเป้าหมายก็สามารถปฏิบัติทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็นได้ถูกต้อง
40
0
11. อบรมให้ความรู้เรื่องอนามัยสิ่งแวดล้อม
วันที่ 15 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
อบรมให้ความรู้เรื่องอนามัยสิ่งแวดล้อม
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้คะแนน ดังนี้
ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
7 21 48.84 8 14 32.56
8 12 27.91 9 17 39.53
9 6 13.95 10 12 27.91
10 4 9.30
รวม 43 100 รวม 40 100
จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม พบว่า กลุ่มเป้าหมาย ก่อนการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 9.30 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 13.95 คะแนนน้อยที่สุดที่ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 และความถี่ที่ได้มากที่สุด คือ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 หลังการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 27.91 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 คะแนนน้อยที่สุดที่ 8 คะแนน จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 32.56 และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 เมื่อนำมาเปรียบเทียบการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม กลุ่มเป้าหมายมีความรู้เพิ่มขึ้นจำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 83.72 และมีความรู้เท่าเดิม จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 16.28
40
0
12. กิจกรรมอบรมให้ความรู้เรื่องการจัดบ้านให้เหมาะสมกับโรคกับวัยและถูกคุณลักษณะ
วันที่ 15 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
กิจกรรมอบรมให้ความรู้เรื่องการจัดบ้านให้เหมาะสมกับโรคกับวัยและถูกคุณลักษณะ
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้คะแนน ดังนี้
ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
7 21 48.84 8 14 32.56
8 12 27.91 9 17 39.53
9 6 13.95 10 12 27.91
10 4 9.30
รวม 43 100 รวม 40 100
จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม พบว่า กลุ่มเป้าหมาย ก่อนการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 9.30 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 13.95 คะแนนน้อยที่สุดที่ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 และความถี่ที่ได้มากที่สุด คือ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 หลังการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 27.91 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 คะแนนน้อยที่สุดที่ 8 คะแนน จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 32.56 และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 เมื่อนำมาเปรียบเทียบการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม กลุ่มเป้าหมายมีความรู้เพิ่มขึ้นจำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 83.72 และมีความรู้เท่าเดิม จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 16.28
40
0
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ สถานการณ์ เป้าหมาย ผลผลิต อธิบาย
1
1.เพื่อให้สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุงที่เข้ารับการอบรม มีความรู้ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง
ตัวชี้วัด : ตัวชี้วัดความสำเร็จ
ผู้สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุง มีความรู้ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง ร้อยละ 80
-ประเมินโดยใช้แบบประเมินความรู้
80.00
2
2.เพื่อเพิ่มศักยภาพสมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุงที่เข้ารับการอบรม ให้มีทักษะ ไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น อย่างถูกต้อง
ตัวชี้วัด : สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุง มีทักษะ ไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น อย่างถูกต้องร้อยละ 80
-ประเมินจากการสังเกต
80.00
3
3.เพื่อให้สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุงที่เข้ารับการอบรม นำความรู้ ทักษะ ที่ได้รับไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพได้อย่างถูกต้อง
ตัวชี้วัด : สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุง นำความรู้ ทักษะ ที่ได้รับไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพได้อย่างถูกต้อง ร้อยละ 80
-ประเมินจากแบบประเมินพฤติกรรมสุขภาพ
80.00
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
40
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
-
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
-
กลุ่มวัยทำงาน
10
กลุ่มผู้สูงอายุ
30
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
-
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
-
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
-
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
-
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
-
บทคัดย่อ*
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค สาเหตุ ข้อเสนอแนะ
ส่วนที่ 3 ประเมินคุณค่าโครงการ
โครงการไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 62-L7580-2-02
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
................................
( นางสาวศิริรัตน์ แซ่จิ้ว )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลฉลุง
“ โครงการไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ”
ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูลหัวหน้าโครงการ
นางสาวศิริรัตน์ แซ่จิ้ว
ชื่อโครงการ โครงการไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
ที่อยู่ ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 62-L7580-2-02 เลขที่ข้อตกลง
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 5 มีนาคม 2562 ถึง 15 มีนาคม 2562
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง จังหวัดสตูล" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลฉลุง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล รหัสโครงการ 62-L7580-2-02 ระยะเวลาการดำเนินงาน 5 มีนาคม 2562 - 15 มีนาคม 2562 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 40,600.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลฉลุง เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกในชุมชนจำนวน 0 คน หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ | |
บทคัดย่อ | |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล | |
วัตถุประสงค์โครงการ | |
กิจกรรม/การดำเนินงาน | |
กลุ่มเป้าหมาย | |
ผลลัพธ์ที่ได้ | |
การประเมินผล | |
ปัญหาและอุปสรรค | |
ข้อเสนอแนะ | |
เอกสารประกอบอื่นๆ |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
การจะพัฒนาประเทศชาติให้เจริญได้นั้น ประชากรในประเทศต้องมีสุขภาพที่ดี มีความสมบูรณ์ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงจะสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญได้ สิ่งสำคัญประการหนึ่งในการส่งเสริมสุขภาพของประชากรก็คือ การออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬาทุกชนิด ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดี และต้องปฏิบัติโดยสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง การออกกำลังกายแบบไท้เก๊กก็เป็นการออกกำลังกายประเภทหนึ่งที่มีผู้คนนิยมทั่วโลก เพราะเป็นการออกกำลังกายแบบยืดหยุ่นร่างกายทุกส่วนทั้งแขนและขา ท่าทางการเคลื่อนไหวเป็นท่าที่มีการยืดและหดกล้ามเนื้อส่วนต่างๆมีจังหวะ ที่ผสมผสานกลมกลืน มีลักษณะนุ่มนวล โอนอ่อนผ่อนคลาย การเคลื่อนไหวลื่นไหลต่อเนื่อง การหายใจสอดประสานไปกับการเคลื่อนไหว พร้อมต้องตั้งจิตติดตามการเคลื่อนไหวของร่างกายไปตลอด ทำให้เกิดสมาธิ เนื่องจากไม่มีการเกร็งกล้ามเนื้อ หรือการออกแรงกระแทก จึงมีโอกาสเกิดการบาดเจ็บร่างกายได้น้อย เมื่อเทียบกับกีฬาที่ใช้แรงชนิดอื่นๆทำให้เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย แม้แก่ชรา อายุ 90-100 กว่าปีก็ยังฝึกฝนได้ ประโยชน์ที่ได้รับนอกจากสุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว การเกิดสมาธิเป็นการจัดการด้านอารมณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดจากกลยุทธ์ 3 อ.(อารมณ์,อาหาร,ออกกำลังกาย) อ.อารมณ์มีความสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อทุกๆอ. หากบริหารจัดการอารมณ์ได้แล้วสภาวะสุขภาพก็จะดีตามไปด้วย และยังเพิ่มอัตราการไหลเวียนโลหิตทั้งร่างกาย ปอด หัวใจแข็งแรง และช่วยให้เกิดการเผาผลาญพลังงานส่วนเกินในร่างกาย เทศบาลตำบลฉลุง ได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของการออกกำลังกายแบบไท้เก๊กจึงได้ส่งเสริมให้ประชาชนรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นชมรม และมีการออกกำลังกายแบบไท้เก๊กขึ้น ในวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 05.00-06.00 น. ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาเทศบาลตำบลฉลุง มาเป็นระยะเวลา 13 ปี ปัจจุบันมีสมาชิกชมรม จำนวน 55 คน สมาชิกชมรมมีทั้งคนในเขตเทศบาลตำบลฉลุงและพื้นที่ใกล้เคียง จากการดำเนินงานของชมรม พบว่า สมาชิกชมรมส่วนใหญ่มาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และจากการสำรวจข้อมูลสมาชิกชมรม มีสมาชิกป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง จำนวน 20 คน โรคความดันเบาหวาน จำนวน 6 คน โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด จำนวน 3 คน และไม่พบผู้ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดสมองแตก/ตีบ และพบว่า ถึงแม้สมาชิกส่วนใหญ่จะมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ด้วยศาสตร์การออกกำลังกายแบบไท้เก๊กจะต้องมีใช้ทักษะสูงในด้านการใช้ปราณ การฝึกหายใจ การเคลื่อนไหว อย่างมีสมาธิ สมาชิกบางคนยังไม่มีทักษะเท่าที่ควร อีกทั้งพฤติกรรมในการดำรงชีวิตประจำวันของสมาชิก เช่น พฤติกรรมการรับประทานอาหาร การนอน การจัดการอารมณ์ และสภาพแวดล้อมของที่อยู่อาศัย ไม่เหมาะกับสุขภาพของ ช่วงวัย และโรคที่เป็น ส่งผลให้การออกกำลังกาย ไม่สามารถควบคุมโรคที่เป็นให้อยู่ในระดับปกติได้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ จึงจำเป็นต้องส่งเสริม สร้างเสริมพฤติกรรมสุขภาพ พร้อมๆกับการออกกำลังกายอย่างจริงจัง จึงจะส่งผลต่อร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุง จึงได้จัดทำโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ควบคู่ไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ปี 2562 ขึ้น เพื่อให้สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุง มีทักษะมีความรู้นำไปซึ่งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง อนึ่งการดำเนินงานดังกล่าวจะส่งผลให้สมาชิกมีสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง และสามารถใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- 1.เพื่อให้สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุงที่เข้ารับการอบรม มีความรู้ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง
- 2.เพื่อเพิ่มศักยภาพสมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุงที่เข้ารับการอบรม ให้มีทักษะ ไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น อย่างถูกต้อง
- 3.เพื่อให้สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุงที่เข้ารับการอบรม นำความรู้ ทักษะ ที่ได้รับไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพได้อย่างถูกต้อง
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- อบรมความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
- อบรมให้ความรู้เรื่องการรับประธานอาหาร อาหารสุขภาพ
- อบรมให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค สาธิตเมนูสุขภาพ
- อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น
- กิจกรรมย่อย อบรมให้ความรู้เรื่องการจัดการอารมณ์
- กิจกรรมย่อย อบรมให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค การนอน นาฬิกาชีวิต ชีวจิตสร้างสุข
- กิจกรรมนันทนาการเตรียมความพร้อม
- อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น
- อบรมให้ความรู้เรื่องอนามัยสิ่งแวดล้อม
- กิจกรรมอบรมให้ความรู้เรื่องการจัดบ้านให้เหมาะสมกับโรคกับวัยและถูกคุณลักษณะ
- อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น
- กิจกรรมนันทนาการ
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้ | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 10 | |
กลุ่มผู้สูงอายุ | 30 | |
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุง ที่เข้ารับการอบรมมีความรู้ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพได้อย่างถูกต้อง
2.สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุง ที่เข้ารับการอบรมมีทักษะ ไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ได้อย่างถูกต้อง
3.สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุง ที่เข้ารับการอบรมนำความรู้ ทักษะ ที่ได้รับไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพได้อย่างถูกต้อง
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์** กิจกรรมของโครงการ | ผลผลิต* | |
---|---|---|
ผลผลิตที่ตั้งไว้ | ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง | |
1. อบรมความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง |
||
วันที่ 13 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำอบรมให้ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคเรื้อรัง ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้คะแนน ดังนี้ ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
7 21 48.84 8 14 32.56
8 12 27.91 9 17 39.53
9 6 13.95 10 12 27.91
10 4 9.30
|
40 | 0 |
2. อบรมให้ความรู้เรื่องการรับประทานอาหาร อาหารสุขภาพ |
||
วันที่ 13 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำอบรมให้ความรู้เรื่องการรับประทานอาหาร อาหารสุขภาพ ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้คะแนน ดังนี้ ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
7 21 48.84 8 14 32.56
8 12 27.91 9 17 39.53
9 6 13.95 10 12 27.91
10 4 9.30
|
40 | 0 |
3. อบรมให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค สาธิตเมนูสุขภาพ |
||
วันที่ 13 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำอบรมให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค สาธิตเมนูสุขภาพ ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้คะแนน ดังนี้ ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
7 21 48.84 8 14 32.56
8 12 27.91 9 17 39.53
9 6 13.95 10 12 27.91
10 4 9.30
|
40 | 0 |
4. อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น |
||
วันที่ 13 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำอบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการสังเกตกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 43 คน พบว่า กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือในการอบรมฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น โดยได้ปฏิบัติตามวิทยากรอย่างถูกต้อง แต่เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สูงวัยค่อนข้างมาก ทำให้การทำท่างทางในบางท่าที่มีการใช้ข้อเข่า อาจจะปฏิบัติได้ไม่สวยเหมือนดังวิทยากร ซึ่งในการฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น วิทยากรได้สอนรำ 24 ท่า ซึ่งกลุ่มเป้าหมายก็มีความรู้อยู่บ้างแล้ว แต่ก็มีกลุ่มเป้าหมายบางรายที่ไม่ได้ออกไปรำไท้เกีกอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ลทำท่าทางได้ไม่สวย และเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ฝึกทักษะได้ถูกต้อง วิทยากรได้ฝึกสอนทักษะแต่ละท่าทางไปอย่างช้า หากกลุ่มเป้าหมายทำไม่ได้ก็จะทวนท่าซ้ำๆไปอย่างช้าๆจนกลุ่มเป้าหมายทำได้ดี ซึ่งในระหว่างฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ก็ได้มีการหยุดพักระหว่างทำกิจกรรม เพราะในการฝึกทักษะไท้เก๊กนี้ใช้พลังงานเยอะทำให้กลุ่มเป้าหมายบางคนเหนื่อยและมีเหงื่อออกจำนวนมาก แต่กลุ่มเป้าหมายก็สามารถปฏิบัติทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็นได้ถูกต้อง
|
40 | 0 |
5. กิจกรรมย่อย อบรมให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค การนอน นาฬิกาชีวิต ชีวจิตสร้างสุข |
||
วันที่ 14 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำอบรมให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค การนอน นาฬิกาชีวิต ชีวจิตสร้างสุข ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการประเมินตนเองในเรื่องพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย และอารมณ์ มีจำนวนคำถามทั้งหมด 20 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมาย จำนวน 43 คน ได้คะแนน ดังนี้ พฤติกรรมที่ปฏิบัติ ความถี่การปฏิบัติ
ประจำ ครั้งคราว ไม่เคยเลย จากตารางการประเมินตนเอง พบว่า กลุ่มเป้าหมายได้ปฏิบัติเป็นประจำทุกคน คือ พฤติกรรมการกินอาหารครบ 5 หมู่ (ข้าว ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ นม ) การเลือกดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลมหรือน้ำหวาน และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ปฏิบัติเป็นประจำรองลงมา จำนวน 40 คน คือ พฤติกรรมอารมณ์ดี ไม่เครียด และปฏิบัติเป็นประจำน้อยที่สุด จำนวน 10 คน คือ พฤติกรรมการดื่มนมขาดมันเนย วันละ 1-2 แก้ว กลุ่มเป้าหมายได้ปฏิบัติเป็นครั้งคราวมากที่สุด จำนวน 31 คน คือ พฤติกรรมการกินปลา อย่างน้อยวันละ 1 มื้อ กลุ่มเป้าหมายได้ปฏิบัติเป็นครั้งคราวรองลงมา จำนวน 28 คน คือ พฤติกรรมการดื่มนมขาดมันเนย วันละ 1-2 แก้ว และไม่มีการปฏิบัติเป็นครั้งคราวเลย คือ พฤติกรรมการกินอาหารครบ 5 หมู่ (ข้าว ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ นม ) การเลือกดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลมหรือน้ำหวาน หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และการนอนหลับไม่น้อยกว่าวันละ 7-8 ชั่วโมง กลุ่มเป้าหมายไม่เคยปฏิบัติเลยมากที่สุด จำนวน 18 คน คือ ทุกครั้งวัดรอบเอวได้ไม่เกินเกณฑ์อ้วนลงพุง คือ เพศหญิงไม่เกิน 80 ซม. และเพศชายไม่เกิน 90 ซม. ไม่เคยปฏิบัติเลยรองลงมา จำนวน 8 คน คือ พฤติกรรมการกินผลไม้วันละ 2-3 ส่วน (หนึ่งส่วนเท่ากับ 6-8 คำ)และไม่มีการไม่เคยปฏิบัติเลย คือ พฤติกรรมการกินอาหารครบ 5 หมู่ (ข้าว ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ นม ) กินอาหารหลากหลาย ไม่ซ้ำซาก กินผักมากกว่าวันละ 3 ทัพพี หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง เลือกดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลมหรือน้ำหวาน หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อารมณ์ดี ไม่เครียด นอนหลับไม่น้อยกว่าวันละ 7-8 ชั่วโมง ออกกำลังสัปดาห์ละ 5 วัน ออกกำลังวันละ 30 นาที และขณะออกกำลังหายใจเร็วขึ้นกว่าปกติและเหงื่อซึม
|
40 | 0 |
6. กิจกรรมนันทนาการเตรียมความพร้อม |
||
วันที่ 14 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำทำกิจกรรมนันทนาการเตรียมความพร้อม ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นช่วยสร้างความผ่อนคลาย เสียงหัวเราะ ได้ขยับร่างกาย สร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม
|
40 | 0 |
7. อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น |
||
วันที่ 14 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำอบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการสังเกตกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 43 คน พบว่า กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือในการอบรมฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น โดยได้ปฏิบัติตามวิทยากรอย่างถูกต้อง แต่เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สูงวัยค่อนข้างมาก ทำให้การทำท่างทางในบางท่าที่มีการใช้ข้อเข่า อาจจะปฏิบัติได้ไม่สวยเหมือนดังวิทยากร ซึ่งในการฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น วิทยากรได้สอนรำ 24 ท่า ซึ่งกลุ่มเป้าหมายก็มีความรู้อยู่บ้างแล้ว แต่ก็มีกลุ่มเป้าหมายบางรายที่ไม่ได้ออกไปรำไท้เกีกอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ลทำท่าทางได้ไม่สวย และเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ฝึกทักษะได้ถูกต้อง วิทยากรได้ฝึกสอนทักษะแต่ละท่าทางไปอย่างช้า หากกลุ่มเป้าหมายทำไม่ได้ก็จะทวนท่าซ้ำๆไปอย่างช้าๆจนกลุ่มเป้าหมายทำได้ดี ซึ่งในระหว่างฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ก็ได้มีการหยุดพักระหว่างทำกิจกรรม เพราะในการฝึกทักษะไท้เก๊กนี้ใช้พลังงานเยอะทำให้กลุ่มเป้าหมายบางคนเหนื่อยและมีเหงื่อออกจำนวนมาก แต่กลุ่มเป้าหมายก็สามารถปฏิบัติทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็นได้ถูกต้อง
|
40 | 0 |
8. กิจกรรมย่อย อบรมให้ความรู้เรื่องการจัดการอารมณ์ |
||
วันที่ 14 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำอบรมให้ความรู้เรื่องการจัดการอารมณ์ ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้คะแนน ดังนี้ ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
7 21 48.84 8 14 32.56
8 12 27.91 9 17 39.53
9 6 13.95 10 12 27.91
10 4 9.30
|
40 | 0 |
9. กิจกรรมนันทนาการ |
||
วันที่ 15 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำทำกิจกรรมนันทนาการเตรียมความพร้อม ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นช่วยสร้างความผ่อนคลาย เสียงหัวเราะ ได้ขยับร่างกาย สร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม
|
40 | 0 |
10. อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น |
||
วันที่ 15 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำอบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการสังเกตกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 43 คน พบว่า กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือในการอบรมฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น โดยได้ปฏิบัติตามวิทยากรอย่างถูกต้อง แต่เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สูงวัยค่อนข้างมาก ทำให้การทำท่างทางในบางท่าที่มีการใช้ข้อเข่า อาจจะปฏิบัติได้ไม่สวยเหมือนดังวิทยากร ซึ่งในการฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น วิทยากรได้สอนรำ 24 ท่า ซึ่งกลุ่มเป้าหมายก็มีความรู้อยู่บ้างแล้ว แต่ก็มีกลุ่มเป้าหมายบางรายที่ไม่ได้ออกไปรำไท้เกีกอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ลทำท่าทางได้ไม่สวย และเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ฝึกทักษะได้ถูกต้อง วิทยากรได้ฝึกสอนทักษะแต่ละท่าทางไปอย่างช้า หากกลุ่มเป้าหมายทำไม่ได้ก็จะทวนท่าซ้ำๆไปอย่างช้าๆจนกลุ่มเป้าหมายทำได้ดี ซึ่งในระหว่างฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ก็ได้มีการหยุดพักระหว่างทำกิจกรรม เพราะในการฝึกทักษะไท้เก๊กนี้ใช้พลังงานเยอะทำให้กลุ่มเป้าหมายบางคนเหนื่อยและมีเหงื่อออกจำนวนมาก แต่กลุ่มเป้าหมายก็สามารถปฏิบัติทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็นได้ถูกต้อง
|
40 | 0 |
11. อบรมให้ความรู้เรื่องอนามัยสิ่งแวดล้อม |
||
วันที่ 15 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำอบรมให้ความรู้เรื่องอนามัยสิ่งแวดล้อม ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้คะแนน ดังนี้ ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
7 21 48.84 8 14 32.56
8 12 27.91 9 17 39.53
9 6 13.95 10 12 27.91
10 4 9.30
|
40 | 0 |
12. กิจกรรมอบรมให้ความรู้เรื่องการจัดบ้านให้เหมาะสมกับโรคกับวัยและถูกคุณลักษณะ |
||
วันที่ 15 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำกิจกรรมอบรมให้ความรู้เรื่องการจัดบ้านให้เหมาะสมกับโรคกับวัยและถูกคุณลักษณะ ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้คะแนน ดังนี้ ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
7 21 48.84 8 14 32.56
8 12 27.91 9 17 39.53
9 6 13.95 10 12 27.91
10 4 9.30
|
40 | 0 |
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ | สถานการณ์ | เป้าหมาย | ผลผลิต | อธิบาย | |
---|---|---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อให้สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุงที่เข้ารับการอบรม มีความรู้ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง ตัวชี้วัด : ตัวชี้วัดความสำเร็จ ผู้สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุง มีความรู้ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง ร้อยละ 80 -ประเมินโดยใช้แบบประเมินความรู้ |
80.00 | |||
2 | 2.เพื่อเพิ่มศักยภาพสมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุงที่เข้ารับการอบรม ให้มีทักษะ ไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น อย่างถูกต้อง ตัวชี้วัด : สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุง มีทักษะ ไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น อย่างถูกต้องร้อยละ 80 -ประเมินจากการสังเกต |
80.00 | |||
3 | 3.เพื่อให้สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุงที่เข้ารับการอบรม นำความรู้ ทักษะ ที่ได้รับไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพได้อย่างถูกต้อง ตัวชี้วัด : สมาชิกชมรมไท้เก๊ก เทศบาลตำบลฉลุง นำความรู้ ทักษะ ที่ได้รับไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพได้อย่างถูกต้อง ร้อยละ 80 -ประเมินจากแบบประเมินพฤติกรรมสุขภาพ |
80.00 |
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
---|---|---|---|
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด | 40 | ||
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | |||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | - | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | - | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 10 | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 30 | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | |||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | - | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | - | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | - | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | - | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] | - |
บทคัดย่อ*
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค | สาเหตุ | ข้อเสนอแนะ |
---|---|---|
ส่วนที่ 3 ประเมินคุณค่าโครงการ
โครงการไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 62-L7580-2-02
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
( นางสาวศิริรัตน์ แซ่จิ้ว )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......