แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์
รายงานฉบับสมบูรณ์
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลฉลุง
“ โครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(โรงเรียนพ่อ แม่) ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์ ”
ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล
หัวหน้าโครงการ
นางสาวรอรำล๊ะ หมาดสา
ชื่อโครงการ โครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(โรงเรียนพ่อ แม่) ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์
ที่อยู่ ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 62-L7580-3-02 เลขที่ข้อตกลง
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 15 กรกฎาคม 2562 ถึง 15 สิงหาคม 2562
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(โรงเรียนพ่อ แม่) ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์ จังหวัดสตูล" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลฉลุง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(โรงเรียนพ่อ แม่) ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(โรงเรียนพ่อ แม่) ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์ " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล รหัสโครงการ 62-L7580-3-02 ระยะเวลาการดำเนินงาน 15 กรกฎาคม 2562 - 15 สิงหาคม 2562 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 21,100.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลฉลุง เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกในชุมชนจำนวน 0 คน หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ
บทคัดย่อ
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
วัตถุประสงค์โครงการ
กิจกรรม/การดำเนินงาน
กลุ่มเป้าหมาย
ผลลัพธ์ที่ได้
การประเมินผล
ปัญหาและอุปสรรค
ข้อเสนอแนะ
เอกสารประกอบอื่นๆ
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
ในแต่ละปีประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่กว่า 7 แสนคน ทำให้มีเด็กก่อนวัยเรียนที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี เกือบ 4 ล้านคน จำนวนนี้ครึ่งหนึ่งเป็นเด็กอายุระหว่าง 2 ปีถึง 3 ปี ร่วมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบัน ทำให้สภาพครอบครัวเป็นครอบครัวเป็นครอบครัวเดี่ยว พ่อแม่หรือผู้ปกครองเด็กต้องทำงานนอกบ้านไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรหลานของตนเองในช่วงเวลากลางวัน เด็กกลุ่มนี้จึงถูกนำไปฝากเลี้ยงในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาลจำนวนมาก ซึ่งเป็นสถานที่ๆอยู่ร่วมกับเด็กจำนวนมาก ผลที่ตามมาคือศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาลจึงเป็นสถานที่ๆเด้กจำนวนมากอาศัยอยู่ร่วมกัน เมื่อเด็กคนใดเจ็บป่วยด้วยโรคติดต่อ ซึ่งการเจ็บป่วยด้วยดรคติดต่อนี้จะแพร่กระจ่ายไปสู่เด็กคนอื่นๆได้ง่ายและรวดเร็วทำให้เด็กต้องหยุดเรียนจำนวนมาก ติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายวันหรือแม้กระทั่งปิดโรงเรียนชั่วคราว เพื่อทำความสะอาดและเพื่อลดปัจจัยที่นำไปสู่การระบาดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเด็กปฐมวัย เป็นวัยที่ อยากรู้ อยากเห็น อยากลอง ชอบเลียนแบบ ช่างจดจำ และเป็นวัยที่เริ่ม ช่วยเหลือตนเองได้ ความต้านทานโรคต่ำ ซึ่งสามารถที่จะติดเชื้อต่างๆได้ง่าย
จากสถานการณ์ดังกล่าวศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์ได้ตระหนักและมองเห็นความสำคัญของปัญหาข้างต้นดังกล่าวข้างต้นหากไม่ดำเนินการป้องกันและแก้ไขเร่งด่วน จะส่งผลต่อพัฒนาการทั้งในด้านสมอง ร่างกายและจิตใจของเด็กปฐมวัย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์จึงได้ร่วมมือกับผู้ปกครองจัดทำโครงการเฝ้าระวังส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(โรงเรียน พ่อ แม่) เพื่อเป็นการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง ในการป้องกัน เฝ้าระวังรักษาสุขภาพบุตรหลานของตนเองได้อย่างถูกต้อง อนึ่งการดำเนินงานโครงการดังกล่าวจะส่งผลให้นักเรียนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์ประจำปีการศึกษา 2561 มีคุณภาพทางด้านร่างกาย ด้านจิตใจ-อารมณ์ ด้านสังคม และด้านสติปัญญาที่ดี สมวัยต่อไป ซึ่งผลจากการจัดโครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(โรงเรียน พ่อ แม่) ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์ในปีการศึกษา 2561 ที่ผ่านมาผู้ปกครองเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์มีความรู้ความเข้าใจในการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยเพิ่มมากขึ้นอัตราการเจ็บป่วยลดลงและเด็กนักเรียนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์มีภาวะโภชนาการที่ดีขึ้น
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์จึงได้จัดทำโครงการเฝ้าระวังส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(โรงเรียน พ่อ แม่ )เพื่อเป็นผู้ดูแลนักเรียนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์ประจำปีการศึกษา 2561 อย่างต่อเนื่องและเพื่อรองรับนักเรียนใหม่ในปีการศึกษา 2562 โดยจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการในการให้ความรู้และเพิ่มทักษะในการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการปฐมวัย มีความรู้ในการคัดเลือกอาหารและเตรียมอาหารให้กับเด็กถูกต้องตามหลักโภชนาการในการกระตุ้นพัมนาการเด็กปฐมวัยและผู้ปกครองเด็กปฐมวัยรู้จักสังเกตอาการเบื้องต้นของโรคติดต่อชนิดต่างๆ และสามารถป้องกันการเกิดโรคได้อย่างทันท่วงที รวมไปถึงการดูแลสุขภาพทางช่องปากการแปรงฟันที่ถุกวิธี อนึ่งการจัดโครงการดังกล่าวจะส่งผลให้เด็กเจริญเติบโตเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ และมีพัฒนาการที่เหมาะสมกับช่วงวัยทั้งในด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา มีความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรมและจิตสำนึกที่พึ่งประสงค์และอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุขต่อไป
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- ข้อที่ 1เพื่อให้ผู้ปกครองของเด้กปฐมวัยมีความรู้ความเข้าใจในด้านการดูแลสุขภาพของเด็กในช่วงปฐมวัยในเรื่องพัฒนาการเด็ก โภชนาการโรคติดต่อและสุขภาพทางช่องปาก
- ข้อที่ 2 เพื่อให้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
- ข้อที่ 3 เพื่อให้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในการคัดเลือกอาหารและเตรียมอาหารให้กับเด็กถูกต้องตามหลักโภชนาการในการกระตุ้นพัฒนาการเด็กปฐมวัยได้
- ข้อที่ 4 เพื่อให้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยรู้จักสังเกตอาการเบื้องต้นของโรคติดต่อชนิดต่างๆและสามารถป้องกันการเกิดโรค สำหรับพัฒนาการที่ดีในเด็กปฐมวัยได้
- ข้อที่ 5 เพื่อให้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพทางช่องปากการแปลงฟันที่ถูกวิธี
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- กิจกรรมอบรมให้ความรู้
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
70
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.ผู้ปกรองมีความรู้ความเข้าใจในด้านการดุแลสุขภาพ ของเด็กในช่วงปฐมวัย ในเรื่องสุขภาพทางช่องปาก การแปลงฟันที่ถูกวิธี พัฒนาการเด็ก โภชนาการและโรคติดต่อ
2.ผู้ปกครองเด็กปบมวัยมีคววามรู้ในการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
3.ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในการคัดเลือกอาหารและเตรียมอาหารให้กับเด็กถูกต้องตามหลักโภชนาการในการกระตุ้นพัฒนาการเด็กปฐมวัยได้
4.ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยรู้จักสังเกตอาการเบื้องต้นของโรคติดต่อชนิดต่างๆและสามารถป้องกันการเกิดโรคสำหรับพัฒนาการที่ดีในเด็กปฐมวัยได้
5.ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพทางช่องปากการแปรงฟันที่ถูกวิธี
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ ผลผลิต* ผลผลิตที่ตั้งไว้ ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง
1. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ 4 ฐาน 1)ฐานโรคติดต่อ 2)ฐานโภชนาการ 3)ฐานพัฒนาการ 4)ฐานสุขภาพทางช่องปาก
วันที่ 25 กรกฎาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
อบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ 4 ฐาน 1)ฐานโรคติดต่อ 2)ฐานโภชนาการ 3)ฐานพัฒนาการ 4)ฐานสุขภาพทางช่องปาก
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
ผู้ปกครองนักเรียนเข้าร่วมโครงการทั้งหมด จำนวน 70 คน คิดเป็นร้อยละ 100
1.1 วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 ผู้ปกครองของเด็กปฐมวัยมีความรู้ความเข้าใจในด้านการดูแลสุขภาพของเด็กในช่วงปฐมวัยในเรื่องพัฒนาการเด็ก โภชนาการโรคติดต่อ และสุขภาพทางช่องปาก มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อโดยใช้เกณฑ์แปลผลดังนี้
1.ระดับคะแนน 9-10 แปลผลว่า มากที่สุด
2.ระดับคะแนน 7-8 แปลผลว่า มาก
3.ระดับคะแนน 5-6 แปลผลว่า ปานกลาง
4.ระดับคะแนน 3-4 แปลผลว่า น้อย
5.ระดับคะแนน 1-2 แปลผลว่า น้อยที่สุด
ตารางการประเมินความรู้ก่อน - หลังการอบรม
การแปรผล ทดสอบความรู้
การแปรผล ก่อนการอบรม คิดเป็นร้อยละ หลังการอบรม คิดเป็นร้อยละ
มากที่สุด 0 0 48 68.57
มาก 8 11.42 15 21.42
ปานกลาง 29 41.42 7 10
น้อย 30 42.85 0 0
น้อยที่สุด 3 4.28 0 0
รวม 70 100 70 100
จากตารางการประเมินความรู้ก่อน –หลังการอบรม พบว่า ก่อนการอบรม ผู้ปกครองนักเรียนมีความรู้อยู่ในระดับมาก 8 คน คิดเป็นร้อยละ 11.42 ระดับปานกลางจำนวน 29 คน คิดเป็นร้อยละ41.42 ระดับน้อยจำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 42.85 และระดับน้อยที่สุดจำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 4.28 หลังการอบรม ผู้ปกครองนักเรียนมีความรู้อยู่ในระดับมากที่สุดจำนวน 48 คน คิดเป็นร้อยละ 68.57 อยู่ในระดับมาก 15 คน คิดเป็นร้อยละ 21.42 ระดับปานกลางจำนวน
7 คน คิดเป็นร้อยละ 10
ตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน -หลังการอบรม
ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
8 5 7.14 10 22 31.42
7 3 4.28 9 26 37.14
6 15 21.42 8 11 15.71
5 14 20.00 7 4 5.71
4 17 24.28 6 6 8.57
3 13 18.57 5 1 1.42
2 2 2.85 4 0 0
1 1 1.42 3 0 0
จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน –หลังอบรม พบว่า ก่อนการอบรม ผู้ปกครองนักเรียนได้คะแนนสูงสุดที่ 8 คะแนน จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 7.14 รองลงมา 7 คะแนน จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ4.28 คะแนนน้อยที่สุด 1 จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 1.42 และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 4 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 24.28 หลังการอบรม ผู้ปกครองนักเรียนได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 31.25 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 37.14คะแนนน้อยที่สุด 5 จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 1.42 และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 9 คะแนน จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 37.14
นอกจาการประเมินก่อน –หลังการอบรมแล้วผู้ปกครองนักเรียนได้แบ่งกลุ่มลงมือปฏิบัติ ในเรื่องสุขภาพทางช่องปาก พัฒนาการเด็ก โภชนาการและโรคติดต่อ เช่น การแปรงฟันให้ถูกวิธี การย้อมสีฟัน การประเมินพัฒนาการเด็กตามแบบประเมินคู่มือเฝ้าระวัง การสาธิตเมนูอาหารบำรุงสมองเด็กปฐมวัย และการสังเกตอาการเบื้องต้นของโรคติดต่อ การสาธิตการล้างมือเจ็ดขั้นตอนที่ถูกวิธี และการลงพื้นที่กำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุงลายครบถ้วนทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100
จึงสรุปได้ว่าผู้ปกครองนักเรียนมีความรู้เรื่องสุขภาพทางช่องปาก พัฒนาการเด็ก โภชนาการและโรคติดต่อ คิดเป็นร้อยละ 100 บรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 1
1.2 วัตถุประสงค์ข้อที่ 2 ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการ
เด็กปฐมวัยการวัดและประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัยนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากทั้งนี้เนื่องจากผู้ปกครองจะได้รู้ล่วงหน้าหากเด็กมีปัญหาด้านพัฒนาการและผู้ปกครองจะได้เตรียมการให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนเด็กปฐมวัยให้มีพัฒนาการตามวัยหากผู้ปกครองปล่อยไว้ไม่สนใจการวัดการประเมินพัฒนาการเด็กก็อารทำให้เด็กมีปัญหาด้านพัฒนาการและผู้ปกครองอาจไม่สามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที การวัดพัฒนาการเด็กนั้นต้องรวมเอาทุกๆกิจกรรมที่จะสามารถแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของเด็กในทุกๆด้าน ซึ่งผู้ปกครองสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการของบุตรหลานตนเองที่บ้านได้อย่างถูกต้อง
1.3 .วัตถุประสงค์ข้อที่ 3 ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในการคัดเลือกอาหารและเตรียมอาหาร
ให้กับเด็กถูกต้องตามหลักโภชนาการในการกระตุ้นพัฒนาการเด็กปฐมวัย
การได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและเพียงพอต่อความต้องการจะช่วยให้ร่ายกายเด็กเจริญเติบโต
เต็มศักยภาพผู้ปกครองจึงควรให้ความสำคัญกับการเลือกโภชนาการที่เหมาะสมให้กับลูกในวัย ระหว่าง 1-6 ปี หรือวัยก่อนเรียนจึงควรได้รับอาหารมื้อหลัก 3 มื้อ ที่มีคุณค่าครบ 5 หมู่ และหลากหลายอาหารว่างไม่เกินวันละ 2 มื้อ และให้เด็กดื่มนมวันล่ะ 2-3 แก้ว
โภชนาการที่เหมาะสม นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมพัฒนาการของลูกน้อย เพราะในช่วงขวบปีแรก เด็กจะมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งทางร่างกายและสมอง โดยเฉพาะการเจริญเติบโตของสมอง ยังเป็นไปอย่างรวดเร็ว จนถึงอายุ 2 ขวบ อาหารสำหรับเด็กวัยก่อนวัยเรียน จึงเป็นการวางรากฐานชีวิตที่ดีสำหรับเด็ก ทั้งในขณะที่อยู่ในวัยนี้ และระยะต่อไป การขาดอาหารในระยะนี้ จะส่งผลให้เด็กมีสติปัญญาการเรียนรู้ด้อยลง การเจริญเติบโตชะงัก ทำให้ร่างกายแคระแกรน ไม่แข็งแรง เจ็บป่วย และติดเชื้อง่าย มีอัตราการเสียชีวิตสูง พ่อแม่จึงควรให้ความสำคัญกับการเลือกอาหารอย่างถูกต้อง และเพียงพอกับความต้องการตามวัยด้วย
1.4. วัตถุประสงค์ข้อที่ 4 ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยรู้จักสังเกตอาการเบื้องต้นของโรคติดต่อชนิดต่างๆและสามารถป้องกันการเกิดโรค สำหรับพัฒนาการที่ดีในเด็กปฐมวัย
การป้องกันโรคที่ได้ผลดีและคุ้มค่าที่สุด คือการป้องกันในระยะก่อนได้รับเชื้อ ได่แก่การส่งเสริมสุขภาพ การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค โดยเด็กต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคครบตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ได้รับอาหารที่หลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสม ทั้ง 3 มื้อ ดื่มน้ำสะอาดได้รับการดูแลเรื่องสุขอนามัยส่วนบุคคล เน้นความสะอาดของที่อยู่อาศัย เครื่องใช้ส่วนตัว สิ่งแวดล้อมที่ถูกสุขลักษณะ สะอาดไม่แออัด อากาศถ่ายเทสะดวก การป้องกันโรคไข้เลือดออกที่ดีคือ อย่าให้ยุงกัด และอย่าให้ยุงเกิด ด้วยการจำกัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายให้หมดสิ้น
1.5.วัตถุประสงค์ข้อที่ 5 ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพทางช่องปากการแปรงฟันที่ถูกวิธี
ผู้ปกครองควรดูแลฟันน้ำนมของลูกน้อยเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าอีกหน่อยฟันน้ำนมก็จะหลุดไปเอง แต่กว่าจะถึงเวลานั้น ฟันน้ำนมจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เด็กสามารถเคี้ยว กัด และพูดชัด นอกจากนี้ ฟันน้ำนมยังสร้างพื้นที่เตรียมไว้สำหรับฟันแท้ และช่วยให้ฟันแท้งอกขึ้นมาในตำแหน่งที่เหมาะสมด้วยเมื่อลูกอายุครบ 6 ขวบ ฟันน้ำนมจะเริ่มหลุด ดังนั้น ควรปล่อยให้ลูกโยกฟันจนกระทั่งฟันหลุดออกมาเอง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดความเจ็บปวดและเลือดออกจากฟันหักได้ฟันฟุเกิดจากการปล่อยให้อาหารที่มีน้ำตาลตกค้างอยู่ในช่องปากเป็นเวลานาน แบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนฟันของคุณจะกินเศษอาหารเหล่านี้ และปล่อยกรดออกมาทำลายเคลือบฟัน ระหว่างมื้ออาหารหรือของว่าง น้ำลายจะชะล้างกรดเหล่านี้ออกไป แต่หากลูกของคุณรับประทานอาหารอยู่ตลอดเวลา เวลาในการชะล้างกรดเหล่านี้อาจจะไม่พอคุณสามารถแปรงฟันให้ลูกได้เมื่ออายุครบ 2 ขวบ แต่ควรบีบยาสีฟันปริมาณน้อย (เท่าเมล็ดถั่วเขียว) เท่านั้น เด็กเล็กมักจะชอบกลืนยาสีฟันตอนแปรงฟันและไม่ยอมบ้วนออกมา ดังนั้นจึงควรให้ลูกแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์เมื่อลูกโตพอแล้วเท่านั้นและควรมีผู้ใหญ่ดูแลขณะแปรงฟัน
อาหารที่ถูกสัดส่วนมีความสำคัญต่อความแข็งแรงและความสามารถในการต่อต้านฟันผุของเด็ก นอกจากการรับประทานวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นแล้ว ควรให้แน่ใจว่าเด็กได้รับปริมาณแคลเซี่ยมและ ฟอสฟอรัสท รวมถึงปริมาณฟลูออไรด์ในระดับที่เหมาะสม ถ้าฟลูออไรด์คือสิ่งที่ดีที่สุดในการป้องกันฟันผุของเด็ก การรับประทานอาหารว่างบ่อยๆ ก็ถือเป็นศัตรูที่สำคัญที่สุดเช่นกัน โดยอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลที่พบในอาหารว่างหลายๆ ชนิด เช่น คุกกี้ ลูกอม ผลไม้แห้ง น้ำอัดลม และมันฝรั่งทอดกรอบ เศษของอาหารเหล่านี้เมื่อรวมตัวกับคราบแบคทีเรียในช่องปากก็จะทำให้เกิดกรดซึ่งจะทำลายผิวเคลือบฟันและนำไปสู่ฟันผุได้ การจู่โจมของคราบแบคทีเรียสามารถอยู่ได้นานถึง 20 นาทีหลังจากมื้ออาหาร และแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่คำเล็กๆ ก็สามารถทำให้เกิดกรดแบคทีเรียได้เช่นกัน ดังนั้น การจำกัดหรือลดจำนวนครั้งของอาหารว่างจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ดีที่สุดในการป้องการปัญหาฟันผุ
70
0
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ สถานการณ์ เป้าหมาย ผลผลิต อธิบาย
1
ข้อที่ 1เพื่อให้ผู้ปกครองของเด้กปฐมวัยมีความรู้ความเข้าใจในด้านการดูแลสุขภาพของเด็กในช่วงปฐมวัยในเรื่องพัฒนาการเด็ก โภชนาการโรคติดต่อและสุขภาพทางช่องปาก
ตัวชี้วัด : -ผู้ปกครองงเข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้ความเข้าใจในด้านการดูแลสุขภาพของเด็กในช่วงปฐมวัยในเรื่องพัฒนาการเด็กโภชนาการและโรคติดต่อ ร้อยละ 90
-โดยใช้แบบประเมินความรู้จากการอบรม
0.00
2
ข้อที่ 2 เพื่อให้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
ตัวชี้วัด : -ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้ความเข้าใจการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปบมวัยร้อยละ 90
-โดยใช้แบบประเมินความรู้จากการอบรม
-ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมมีทักษะการเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีให้กับเด็กปฐมวัย
0.00
3
ข้อที่ 3 เพื่อให้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในการคัดเลือกอาหารและเตรียมอาหารให้กับเด็กถูกต้องตามหลักโภชนาการในการกระตุ้นพัฒนาการเด็กปฐมวัยได้
ตัวชี้วัด : -ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้ความเข้าใจในการคัดเลือกอาหารและเตรียมอาหารให้กับเด็กถูกต้องตามหลักโภชนาการในการกระตุ้นพัฒนาการเด็กปฐมวัยร้อยละ 90
-โดยใช้แบบประเมินความรุ้จากการอบรมผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมมีทักษะการประกอบอาหารสำหรับเด็กปฐมวัยที่ถูกหลักโภชนาการ
0.00
4
ข้อที่ 4 เพื่อให้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยรู้จักสังเกตอาการเบื้องต้นของโรคติดต่อชนิดต่างๆและสามารถป้องกันการเกิดโรค สำหรับพัฒนาการที่ดีในเด็กปฐมวัยได้
ตัวชี้วัด : -ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้ความเข้าใจในการสังเกตอาการเบื้องต้นของโรคติดต่อชนิดต่างๆและสามารถป้องกันการเกิดโรค สำหรับพัฒนาการที่ดีในเด็กปฐมวัยร้อยละ 90
-โดยใช้แบบประเมินความรู้จากการอบรม
-ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมมีทักษะการสำรวจคูระบายน้ำบริเวณศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแหล่งเพาะพันธ์ุยุงลายเชื้อโรคและพาหะนำโรค
0.00
5
ข้อที่ 5 เพื่อให้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพทางช่องปากการแปลงฟันที่ถูกวิธี
ตัวชี้วัด : -ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการดูแลสุขภาพทางช่องปากการแปลงฟันที่ถูกวิธี ร้อยละ 90
-โดยใช้แบบประเมินความรู้จากการอบรม
-ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมมีทักษะการปรงฟันอย่างถูกวิธี
0.00
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
70
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
-
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
-
กลุ่มวัยทำงาน
70
กลุ่มผู้สูงอายุ
-
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
-
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
-
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
-
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
-
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
-
บทคัดย่อ*
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค สาเหตุ ข้อเสนอแนะ
ส่วนที่ 3 ประเมินคุณค่าโครงการ
โครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(โรงเรียนพ่อ แม่) ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์ จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 62-L7580-3-02
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
................................
( นางสาวรอรำล๊ะ หมาดสา )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลฉลุง
“ โครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(โรงเรียนพ่อ แม่) ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์ ”
ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูลหัวหน้าโครงการ
นางสาวรอรำล๊ะ หมาดสา
ชื่อโครงการ โครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(โรงเรียนพ่อ แม่) ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์
ที่อยู่ ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 62-L7580-3-02 เลขที่ข้อตกลง
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 15 กรกฎาคม 2562 ถึง 15 สิงหาคม 2562
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(โรงเรียนพ่อ แม่) ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์ จังหวัดสตูล" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลฉลุง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(โรงเรียนพ่อ แม่) ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(โรงเรียนพ่อ แม่) ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์ " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล รหัสโครงการ 62-L7580-3-02 ระยะเวลาการดำเนินงาน 15 กรกฎาคม 2562 - 15 สิงหาคม 2562 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 21,100.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลฉลุง เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกในชุมชนจำนวน 0 คน หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ | |
บทคัดย่อ | |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล | |
วัตถุประสงค์โครงการ | |
กิจกรรม/การดำเนินงาน | |
กลุ่มเป้าหมาย | |
ผลลัพธ์ที่ได้ | |
การประเมินผล | |
ปัญหาและอุปสรรค | |
ข้อเสนอแนะ | |
เอกสารประกอบอื่นๆ |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
ในแต่ละปีประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่กว่า 7 แสนคน ทำให้มีเด็กก่อนวัยเรียนที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี เกือบ 4 ล้านคน จำนวนนี้ครึ่งหนึ่งเป็นเด็กอายุระหว่าง 2 ปีถึง 3 ปี ร่วมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบัน ทำให้สภาพครอบครัวเป็นครอบครัวเป็นครอบครัวเดี่ยว พ่อแม่หรือผู้ปกครองเด็กต้องทำงานนอกบ้านไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรหลานของตนเองในช่วงเวลากลางวัน เด็กกลุ่มนี้จึงถูกนำไปฝากเลี้ยงในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาลจำนวนมาก ซึ่งเป็นสถานที่ๆอยู่ร่วมกับเด็กจำนวนมาก ผลที่ตามมาคือศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาลจึงเป็นสถานที่ๆเด้กจำนวนมากอาศัยอยู่ร่วมกัน เมื่อเด็กคนใดเจ็บป่วยด้วยโรคติดต่อ ซึ่งการเจ็บป่วยด้วยดรคติดต่อนี้จะแพร่กระจ่ายไปสู่เด็กคนอื่นๆได้ง่ายและรวดเร็วทำให้เด็กต้องหยุดเรียนจำนวนมาก ติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายวันหรือแม้กระทั่งปิดโรงเรียนชั่วคราว เพื่อทำความสะอาดและเพื่อลดปัจจัยที่นำไปสู่การระบาดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเด็กปฐมวัย เป็นวัยที่ อยากรู้ อยากเห็น อยากลอง ชอบเลียนแบบ ช่างจดจำ และเป็นวัยที่เริ่ม ช่วยเหลือตนเองได้ ความต้านทานโรคต่ำ ซึ่งสามารถที่จะติดเชื้อต่างๆได้ง่าย จากสถานการณ์ดังกล่าวศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์ได้ตระหนักและมองเห็นความสำคัญของปัญหาข้างต้นดังกล่าวข้างต้นหากไม่ดำเนินการป้องกันและแก้ไขเร่งด่วน จะส่งผลต่อพัฒนาการทั้งในด้านสมอง ร่างกายและจิตใจของเด็กปฐมวัย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์จึงได้ร่วมมือกับผู้ปกครองจัดทำโครงการเฝ้าระวังส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(โรงเรียน พ่อ แม่) เพื่อเป็นการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง ในการป้องกัน เฝ้าระวังรักษาสุขภาพบุตรหลานของตนเองได้อย่างถูกต้อง อนึ่งการดำเนินงานโครงการดังกล่าวจะส่งผลให้นักเรียนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์ประจำปีการศึกษา 2561 มีคุณภาพทางด้านร่างกาย ด้านจิตใจ-อารมณ์ ด้านสังคม และด้านสติปัญญาที่ดี สมวัยต่อไป ซึ่งผลจากการจัดโครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(โรงเรียน พ่อ แม่) ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์ในปีการศึกษา 2561 ที่ผ่านมาผู้ปกครองเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์มีความรู้ความเข้าใจในการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยเพิ่มมากขึ้นอัตราการเจ็บป่วยลดลงและเด็กนักเรียนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์มีภาวะโภชนาการที่ดีขึ้น ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์จึงได้จัดทำโครงการเฝ้าระวังส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(โรงเรียน พ่อ แม่ )เพื่อเป็นผู้ดูแลนักเรียนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์ประจำปีการศึกษา 2561 อย่างต่อเนื่องและเพื่อรองรับนักเรียนใหม่ในปีการศึกษา 2562 โดยจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการในการให้ความรู้และเพิ่มทักษะในการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการปฐมวัย มีความรู้ในการคัดเลือกอาหารและเตรียมอาหารให้กับเด็กถูกต้องตามหลักโภชนาการในการกระตุ้นพัมนาการเด็กปฐมวัยและผู้ปกครองเด็กปฐมวัยรู้จักสังเกตอาการเบื้องต้นของโรคติดต่อชนิดต่างๆ และสามารถป้องกันการเกิดโรคได้อย่างทันท่วงที รวมไปถึงการดูแลสุขภาพทางช่องปากการแปรงฟันที่ถุกวิธี อนึ่งการจัดโครงการดังกล่าวจะส่งผลให้เด็กเจริญเติบโตเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ และมีพัฒนาการที่เหมาะสมกับช่วงวัยทั้งในด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา มีความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรมและจิตสำนึกที่พึ่งประสงค์และอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุขต่อไป
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- ข้อที่ 1เพื่อให้ผู้ปกครองของเด้กปฐมวัยมีความรู้ความเข้าใจในด้านการดูแลสุขภาพของเด็กในช่วงปฐมวัยในเรื่องพัฒนาการเด็ก โภชนาการโรคติดต่อและสุขภาพทางช่องปาก
- ข้อที่ 2 เพื่อให้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
- ข้อที่ 3 เพื่อให้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในการคัดเลือกอาหารและเตรียมอาหารให้กับเด็กถูกต้องตามหลักโภชนาการในการกระตุ้นพัฒนาการเด็กปฐมวัยได้
- ข้อที่ 4 เพื่อให้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยรู้จักสังเกตอาการเบื้องต้นของโรคติดต่อชนิดต่างๆและสามารถป้องกันการเกิดโรค สำหรับพัฒนาการที่ดีในเด็กปฐมวัยได้
- ข้อที่ 5 เพื่อให้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพทางช่องปากการแปลงฟันที่ถูกวิธี
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- กิจกรรมอบรมให้ความรู้
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้ | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 70 | |
กลุ่มผู้สูงอายุ | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.ผู้ปกรองมีความรู้ความเข้าใจในด้านการดุแลสุขภาพ ของเด็กในช่วงปฐมวัย ในเรื่องสุขภาพทางช่องปาก การแปลงฟันที่ถูกวิธี พัฒนาการเด็ก โภชนาการและโรคติดต่อ 2.ผู้ปกครองเด็กปบมวัยมีคววามรู้ในการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย 3.ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในการคัดเลือกอาหารและเตรียมอาหารให้กับเด็กถูกต้องตามหลักโภชนาการในการกระตุ้นพัฒนาการเด็กปฐมวัยได้ 4.ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยรู้จักสังเกตอาการเบื้องต้นของโรคติดต่อชนิดต่างๆและสามารถป้องกันการเกิดโรคสำหรับพัฒนาการที่ดีในเด็กปฐมวัยได้ 5.ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพทางช่องปากการแปรงฟันที่ถูกวิธี
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์** กิจกรรมของโครงการ | ผลผลิต* | |
---|---|---|
ผลผลิตที่ตั้งไว้ | ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง | |
1. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ 4 ฐาน 1)ฐานโรคติดต่อ 2)ฐานโภชนาการ 3)ฐานพัฒนาการ 4)ฐานสุขภาพทางช่องปาก |
||
วันที่ 25 กรกฎาคม 2562กิจกรรมที่ทำอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ 4 ฐาน 1)ฐานโรคติดต่อ 2)ฐานโภชนาการ 3)ฐานพัฒนาการ 4)ฐานสุขภาพทางช่องปาก ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นผู้ปกครองนักเรียนเข้าร่วมโครงการทั้งหมด จำนวน 70 คน คิดเป็นร้อยละ 100 1.1 วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 ผู้ปกครองของเด็กปฐมวัยมีความรู้ความเข้าใจในด้านการดูแลสุขภาพของเด็กในช่วงปฐมวัยในเรื่องพัฒนาการเด็ก โภชนาการโรคติดต่อ และสุขภาพทางช่องปาก มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อโดยใช้เกณฑ์แปลผลดังนี้ 1.ระดับคะแนน 9-10 แปลผลว่า มากที่สุด 2.ระดับคะแนน 7-8 แปลผลว่า มาก 3.ระดับคะแนน 5-6 แปลผลว่า ปานกลาง 4.ระดับคะแนน 3-4 แปลผลว่า น้อย 5.ระดับคะแนน 1-2 แปลผลว่า น้อยที่สุด ตารางการประเมินความรู้ก่อน - หลังการอบรม การแปรผล ทดสอบความรู้ การแปรผล ก่อนการอบรม คิดเป็นร้อยละ หลังการอบรม คิดเป็นร้อยละ มากที่สุด 0 0 48 68.57 มาก 8 11.42 15 21.42 ปานกลาง 29 41.42 7 10 น้อย 30 42.85 0 0 น้อยที่สุด 3 4.28 0 0 รวม 70 100 70 100 จากตารางการประเมินความรู้ก่อน –หลังการอบรม พบว่า ก่อนการอบรม ผู้ปกครองนักเรียนมีความรู้อยู่ในระดับมาก 8 คน คิดเป็นร้อยละ 11.42 ระดับปานกลางจำนวน 29 คน คิดเป็นร้อยละ41.42 ระดับน้อยจำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 42.85 และระดับน้อยที่สุดจำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 4.28 หลังการอบรม ผู้ปกครองนักเรียนมีความรู้อยู่ในระดับมากที่สุดจำนวน 48 คน คิดเป็นร้อยละ 68.57 อยู่ในระดับมาก 15 คน คิดเป็นร้อยละ 21.42 ระดับปานกลางจำนวน
7 คน คิดเป็นร้อยละ 10 จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน –หลังอบรม พบว่า ก่อนการอบรม ผู้ปกครองนักเรียนได้คะแนนสูงสุดที่ 8 คะแนน จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 7.14 รองลงมา 7 คะแนน จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ4.28 คะแนนน้อยที่สุด 1 จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 1.42 และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 4 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 24.28 หลังการอบรม ผู้ปกครองนักเรียนได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 31.25 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 37.14คะแนนน้อยที่สุด 5 จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 1.42 และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 9 คะแนน จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 37.14
นอกจาการประเมินก่อน –หลังการอบรมแล้วผู้ปกครองนักเรียนได้แบ่งกลุ่มลงมือปฏิบัติ ในเรื่องสุขภาพทางช่องปาก พัฒนาการเด็ก โภชนาการและโรคติดต่อ เช่น การแปรงฟันให้ถูกวิธี การย้อมสีฟัน การประเมินพัฒนาการเด็กตามแบบประเมินคู่มือเฝ้าระวัง การสาธิตเมนูอาหารบำรุงสมองเด็กปฐมวัย และการสังเกตอาการเบื้องต้นของโรคติดต่อ การสาธิตการล้างมือเจ็ดขั้นตอนที่ถูกวิธี และการลงพื้นที่กำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุงลายครบถ้วนทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100
จึงสรุปได้ว่าผู้ปกครองนักเรียนมีความรู้เรื่องสุขภาพทางช่องปาก พัฒนาการเด็ก โภชนาการและโรคติดต่อ คิดเป็นร้อยละ 100 บรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 1
1.2 วัตถุประสงค์ข้อที่ 2 ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการ
|
70 | 0 |
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ | สถานการณ์ | เป้าหมาย | ผลผลิต | อธิบาย | |
---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อที่ 1เพื่อให้ผู้ปกครองของเด้กปฐมวัยมีความรู้ความเข้าใจในด้านการดูแลสุขภาพของเด็กในช่วงปฐมวัยในเรื่องพัฒนาการเด็ก โภชนาการโรคติดต่อและสุขภาพทางช่องปาก ตัวชี้วัด : -ผู้ปกครองงเข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้ความเข้าใจในด้านการดูแลสุขภาพของเด็กในช่วงปฐมวัยในเรื่องพัฒนาการเด็กโภชนาการและโรคติดต่อ ร้อยละ 90 -โดยใช้แบบประเมินความรู้จากการอบรม |
0.00 | |||
2 | ข้อที่ 2 เพื่อให้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ตัวชี้วัด : -ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้ความเข้าใจการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปบมวัยร้อยละ 90 -โดยใช้แบบประเมินความรู้จากการอบรม -ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมมีทักษะการเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีให้กับเด็กปฐมวัย |
0.00 | |||
3 | ข้อที่ 3 เพื่อให้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในการคัดเลือกอาหารและเตรียมอาหารให้กับเด็กถูกต้องตามหลักโภชนาการในการกระตุ้นพัฒนาการเด็กปฐมวัยได้ ตัวชี้วัด : -ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้ความเข้าใจในการคัดเลือกอาหารและเตรียมอาหารให้กับเด็กถูกต้องตามหลักโภชนาการในการกระตุ้นพัฒนาการเด็กปฐมวัยร้อยละ 90 -โดยใช้แบบประเมินความรุ้จากการอบรมผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมมีทักษะการประกอบอาหารสำหรับเด็กปฐมวัยที่ถูกหลักโภชนาการ |
0.00 | |||
4 | ข้อที่ 4 เพื่อให้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยรู้จักสังเกตอาการเบื้องต้นของโรคติดต่อชนิดต่างๆและสามารถป้องกันการเกิดโรค สำหรับพัฒนาการที่ดีในเด็กปฐมวัยได้ ตัวชี้วัด : -ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้ความเข้าใจในการสังเกตอาการเบื้องต้นของโรคติดต่อชนิดต่างๆและสามารถป้องกันการเกิดโรค สำหรับพัฒนาการที่ดีในเด็กปฐมวัยร้อยละ 90 -โดยใช้แบบประเมินความรู้จากการอบรม -ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมมีทักษะการสำรวจคูระบายน้ำบริเวณศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแหล่งเพาะพันธ์ุยุงลายเชื้อโรคและพาหะนำโรค |
0.00 | |||
5 | ข้อที่ 5 เพื่อให้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีความรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพทางช่องปากการแปลงฟันที่ถูกวิธี ตัวชี้วัด : -ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการดูแลสุขภาพทางช่องปากการแปลงฟันที่ถูกวิธี ร้อยละ 90 -โดยใช้แบบประเมินความรู้จากการอบรม -ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมมีทักษะการปรงฟันอย่างถูกวิธี |
0.00 |
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
---|---|---|---|
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด | 70 | ||
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | |||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | - | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | - | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 70 | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | - | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | |||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | - | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | - | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | - | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | - | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] | - |
บทคัดย่อ*
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค | สาเหตุ | ข้อเสนอแนะ |
---|---|---|
ส่วนที่ 3 ประเมินคุณค่าโครงการ
โครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(โรงเรียนพ่อ แม่) ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดารุลญันนะห์ จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 62-L7580-3-02
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
( นางสาวรอรำล๊ะ หมาดสา )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......