โครงการเฝ้าระวังป้องกันสตรีจากมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก ประจำปีงบประมาณ 2564
ชื่อโครงการ | โครงการเฝ้าระวังป้องกันสตรีจากมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก ประจำปีงบประมาณ 2564 |
รหัสโครงการ | 64-L8406-01-07 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนโดน |
วันที่อนุมัติ | 28 ธันวาคม 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 10 มกราคม 2564 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2564 |
งบประมาณ | 25,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายซอหมาด บาหลัง |
พี่เลี้ยงโครงการ | นายวรวิทย์ กาเสมสะ |
พื้นที่ดำเนินการ | จังหวัดสตูล |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 250 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ปี 2563 ยังไม่ผ่านเกณฑ์ | 80.00 | ||
2 | ผลการดำเนินงานคัดกรองมะเร็งเต้านม พบสตรีที่มีความผิดปกติที่ต้องตรวจโดยเจ้าหน้าที่ จำนวน 23 ราย พบ ถุงไขมันอักเสบ จำนวน 2 ราย ก้อนเนื้อไม่ใช่มะเร็ง จำนวน 1 ราย และพบความผิดปกติที่ต้องติดตามต่อเนื่อง จำนวน 3 ราย | 80.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
หลักการและเหตุผล (ระบุที่มาของการทำโครงการ) ในปัจจุบันโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมเป็นสาเหตุการตายจากโรคมะเร็งของสตรีในประเทศไทย ซึ่งทำให้เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ โดยเฉพาะโรคมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับหนึ่งของมะเร็งในสตรี พบได้ถึง ๓ คน ในประชากรหนึ่งแสนคน ในแต่ละปีมีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกเสียชีวิต ประมาณ ๔,๕๐๐ ราย ส่วนใหญ่มีอายุประมาณ ๓๐ - ๕๐ ปี ซึ่งที่ผ่านมาใช้วิธีการตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยการตรวจ Pap Smear และหากทำทุก 1 ปี ในกรณีกลุ่มเสี่ยง สามารถลดการเป็นมะเร็งระยะลุกลามได้ ๙๒ % ถึงแม้กระบวนการตรวจเพื่อค้นหามะเร็งปากมดลูก จะง่าย สะดวก ราคาถูก แต่ยังพบว่าสตรีจำนวนมากไม่เห็นความสำคัญ มีทัศนคติ ที่ไม่ดีต่อการตรวจ Pap Smear ส่วนโรคมะเร็ง
เต้านม ผู้ป่วยมักไม่มีอาการผิดปกติในระยะเริ่มต้น ดังนั้นจึงมีความจำเป็นและสำคัญที่ต้องทำการตรวจค้นหามะเร็งเต้านมใน ระยะเริ่มต้น การรักษามะเร็งเต้านมในปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปมาก การค้นพบมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้นสามารถรักษาให้หายขาดได้ และการรักษาอาจทำได้โดยการตัดเฉพาะก้อนมะเร็งออกไม่จำเป็นต้องผ่าตัดทั้งเต้านม ในทางตรงกันข้ามหากไม่มีการตรวจค้นหามะเร็งเต้านม รอจนกระทั่งมีอาการผิดปกติ มะเร็งอาจแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ แล้ว และไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
จากผลการดำเนินงานปี ๒๕63 ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานคัดกรองมะเร็งเต้านม พบสตรีที่มีความผิดปกติที่ต้องตรวจโดยเจ้าหน้าที่ จำนวน ๒๓ ราย พบ ถุงไขมันอักเสบ จำนวน ๒ ราย ก้อนเนื้อไม่ใช่มะเร็ง จำนวน ๑ ราย และพบความผิดปกติที่ต้องติดตามต่อเนื่อง จำนวน 3 รายและรอส่งเอกซเรย์เต้านมในโครงการมูลนิธิกาญจนบารมีตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติ และความผิดปกติอื่นๆ เช่น มีผื่นคันเต้านมอักเสบ ผิวหนังและหัวนมเป็นรอยบู๋ม ซึ่งได้ส่งต่อพบแพทย์และผลการดำเนินงานการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ในปีที่ผ่านมา คิดเป็นร้อยละ ๓๘.๖๑ ซึ่งยังถือว่าต่ำเกณฑ์ (ร้อยละ ๘0) ซึ่งจากการวิเคราะห์การทำงาน พบว่า ยังมีอุปสรรคหลายอย่างและเป็นงานที่ค่อนข้างใช้กลยุทธ์และการทำงานอย่างต่อเนื่อง เช่น ยกตัวอย่าง ๑.สตรีกลุ่มเป้าหมายอายพยาบาล จนท.ที่ตรวจที่ รพ.สต.เห็นหน้ากันบ่อยๆไม่กล้ามาที่ รพ.สต. ๒.สตรีกลุ่มเป้าหมายทํางานเลิกค่ำไม่มีเวลามาตรวจ บางคนต้องดูแลเลี้ยงลูกหลาน ไม่สามารถมาตรวจตามนัดได้ ๓.การเดินทางไม่สะดวก ไม่มีพาหนะหรือรถโดยสารนั่งมา รพ.สต. เลยทําให้ไม่อยากมาตรวจ ๔. ยังขาดความตระหนัก และการเห็นความสำคัญเพราะคิดว่า ยังไม่มีอาการอะไรหรือไม่มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นมะเร็ง ก็เลยมีความคิดว่าไม่จำเป็นต้องตรวจ และ ๕. บางคนกลัวผลการตรวจหากรู้ว่าเป็นมะเร็ง
จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่า กลุ่มคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่ยังไม่เข้ารับการตรวจฯจะเป็นกลุ่มที่ต้องใช้กลยุทธ์หรือการเก็บความครอบคลุม การติดตามเข้ารับบริการอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ส่วนการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยตนเองที่ไม่พบความผิดปกติ อาจเกิดจาก การตรวจที่ไม่ถูกต้อง เทคนิคหรือแบบการตรวจคัดกรองที่มีความซับซ้อนไม่เข้าใจ พร้อมทั้งกลุ่มเป้าหมายและ แกนนนำอาจ ยังขาดทักษะ ความเข้าใจในเรื่องโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม จากปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้มาวิเคราะห์ปัญหาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาแบบใหม่คือ การสร้างวงจรหรือ วงล้อแห่งการพัฒนาตามแนวทาง P-D-C-A (Plan-Do-Check-Action) เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด ตามบริบทของพื้นที่เพื่อเน้นการบริการรูปแบบเชิงรุกบุกถึงบ้าน ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนโดนจึงได้จัดทำโครงการ ต่อยอดความต่อเนื่อง เพื่อเป็นการกระตุ้นและเป็นแนวทางในการสร้างเสริมพฤติกรรมการป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมแบบยั่งยืนต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้สตรีกลุ่มเป้าหมายมีความรู้และตระหนักในเรื่องของมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกและสามารถตรวจเต้านมด้วยตนเองได้อย่างถูกต้อง กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการ มีความรู้ก่อนและหลังการอบรมและสามารถตรวจเต้านมได้ถูกต้อง ร้อยละ 90 |
80.00 | 100.00 |
2 | เพื่อค้นหาผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกในระยะแรกเพื่อลดอัตราป่วยและตายด้วยมะเร็งปากมดลูกและเต้านม ในรายผิดปกติได้รับการส่งต่อ ร้อยละ 100 |
100.00 | 100.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 280 | 25,000.00 | 2 | 25,000.00 | |
4 - 6 ก.พ. 64 | จัดพัฒนาศักยภาพ อาสาสมัครสาธารณสุขสู่ แกนนำ เชี่ยวชาญเฉพาะทาง | 30 | 0.00 | ✔ | 0.00 | |
11 - 14 ก.พ. 64 | สนับสนุนกลุ่มแกนนำจัดพัฒนาศักยภาพ ความรู้แก่หญิงวัยเจริญพันธุ์ในการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ด้วยตนเองให้ความรู้เรื่องมะเร็งปากมดลูกในชุมชน | 250 | 25,000.00 | ✔ | 25,000.00 |
1.แกนนำและทีม อาสาสมัครสาธารณสุข จัดเก็บความครอบคลุมการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจากสถานบริการอื่นๆ เพื่อทำฐานข้อมูลผู้ที่ไม่เคยผ่านการตรวจ
2. นัดกลุ่มเป้าหมายในการทำกลุ่มสอนการตรวจเต้านมด้วยตนเองในชุมชน
3. จัดทำทะเบียนนัดตรวจมะเร็งปากมดลูก และเข้ารับการตรวจ
- สตรีกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการตรวจมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม
- สตรีกลุ่มเป้าหมายรับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมแล้วพบความผิดปกติได้รับการส่งต่อเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง
- เครือข่ายแกนนำเชี่ยวชาญ มีความรู้เรื่องโรคมะเร็งปากมดลูกและสามารถถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับให้กลุ่มเป้าหมายและสมารถนำกลุ่มเป้าหมายเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกได้อย่างครอบคลุม และสามารถตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยตนเองในชุมชนได้อย่างถูกต้อง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2563 19:07 น.