แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลยะหริ่ง
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลยะหริ่ง
โรงเรียนยะหริ่งอำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี
นางรอสือเมาะ อภิบาลบำรุง
นายกฤติเดช ปิ่นหอม
โรงเรียนยะหริ่งอำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
ระบุสถานการณ์ หลักการและเหตุผล หรือ ที่มาของการทำโครงการ เพิ่มเติม
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
หลักการและเหตุผล
โภชนาการที่ดีเป็นรากฐานที่สำคัญของการมีสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะเด็กวัยเรียน เนื่องจากเด็กวัยนี้มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงเป็นโอกาสที่จะส่งเสริมให้เด็กมีการเจริญเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ หากเด็กได้รับอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายหรือมากเกินไป จะทำให้การเจริญเติบโตไม่ดีและผอม หรืออ้วนจนเกินไป หากขาดอาหารเป็นเวลานานเรื้อรังจะทำให้เด็กเตี้ยและผอม ส่งผลต่อการพัฒนาสมอง พัฒนาการล่าช้า อีกทั้งพบว่า เสี่ยงสูงที่จะป่วยเป็นโรคเรื้อรังเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เช่น โรคขาดสารอาหาร โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง พัฒนาการทางด้านสมองล่าช้า ซึ่งการส่งเสริมให้เด็กวัยเรียนได้กินอาหารในปริมาณและสัดส่วนที่เหมาะสม ทำให้เด็กมีการเจริญเติบโตที่ดี มีส่วนสูงในระดับดีและรูปร่างสมส่วนและสมวัย รวมทั้งป้องกันปัญหาภาวะทุพโภชนาการ (อ้วน ผอม เตี้ย) ได้ จากรายงานผลภาวะโภชนาการเด็กวัยเรียนของโรงเรียนยะหริ่งภาด 1/2563พบภาวะโภชนาการของเด็กวัยเรียนอายุ 6-12ปีสูงดีสมส่วนเพียง ร้อยละ 60.60น้ำหนักน้อย เตี้ย และเริ่มอ้วน พบร้อยละ21.28 ,18.41และ 9.12ตามลำดับดังนั้นการส่งเสริมให้เด็กวัยเรียนได้บริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ครบถ้วน เหมาะสมตามวัย ทำให้เด็กมีการเจริญเติบโตที่ดีทั้งร่างกายและสมอง โดยเด็กวัยเรียนควรดื่มนมจืดวันละ 2 แก้ว หรือ 400 มิลลิลิตร ทุกวัน เนื่องจากนมเป็นแหล่งของโปรตีนและแคลเซียม ช่วยสร้างมวลกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรง มีผลต่อการเจริญเติบโตด้านความสูง ร่วมกับการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกของข้อต่อ เพื่อให้การเจริญเติบโตของกระดูก โดยเฉพาะกลุ่ม long bone เพิ่มขึ้น รวมถึงการนอนหลับที่มีคุณภาพอย่างน้อย วันละ 8 ชั่วโมง จะมีผลต่อความสูงที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ควรให้กินไข่ วันละ 1 ฟอง เพราะไข่เป็นแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพสูง เสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย มีแร่ธาตุและวิตามิน ช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กนอกจากนี้ยังพบปัญหาว่าเด็กวัยเรียนบริโภคผัก ผลไม้น้อยกว่าปริมาณตามคำแนะนำจากความสำคัญดังกล่าว กรมอนามัย ได้กำหนดยุทธศาสตร์ส่งเสริมสุขภาพเด็กวัยเรียนให้แข็งแรงและฉลาด โดยมีเป้าประสงค์ คือ เด็กวัยเรียนเจริญเติบโตเต็มศักยภาพและมีทักษะสุขภาพ กำหนดตัวชี้วัดร้อยละของเด็กวัยเรียนอายุ 6-14 ปี สูงดีสมส่วน ร้อยละ 66 และเด็กอายุ 12 ปีมีส่วนสูงเฉลี่ยตามเกณฑ์ เป้าหมายระยะ5 ปี ข้างหน้า (ปี 2564 ) เด็กผู้ชายสูง 154 เซนติเมตร และ เด็กผู้หญิง 155 เซนติเมตรเพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์ดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการเด็กวัยเรียนสูงดีสมส่วน แข็งแรงและฉลาด เพื่อส่งเสริมให้เด็กวัยเรียนมีส่วนสูงระดับดีและรูปร่างสมส่วน เติบโตเต็มศักยภาพ มีพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ และเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรงต่อไปในอนาคต อันจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป
1.วัตถุประสงค์
1.เพื่อส่งเสริมเด็กวัยเรียนมีส่วนสูงระดับดีและรูปร่างสมส่วน
2.เพื่อส่งเสริมเด็กวัยเรียนให้มีพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์
3.เพื่อส่งเสริมเด็กวัยเรียนให้มีภาวะโภชนาการที่ดีขี้น (ภาวะอ้วน ผอม เตี้ยดีขี้น)
2. กลุ่มเป้าหมาย/พื้นที่เป้าหมาย
กลุ่มเด็กวัยเรียนที่อยู่ในภาวะ อ้วน ผอม เตี้ย จำนวน 100คน(22+45+47= 114 คน)
3. วิธีดำเนินการ/รายละเอียดกิจกรรม
3.1 การเฝ้าระวังติดตามการเจริญเติบโตโดยครูผู้ดูแล
3.1.1 จัดทำทะเบียน/บัญชีเด็กภาวะ อ้วน ผอม เตี้ย และติดตามเป็น ระยะๆ
3.1.2 จัดหาเครื่องชั่งน้ำหนัก เครื่องวัดส่วนสูง ที่มีมาตรฐาน
3.1.3 ชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงเด็กทุกเดือน พร้อมกับประเมินพฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็ก
3.1.4 นำข้อมูลบันทึกลงในโปรแกรมเฝ้าระวังการเจริญเติบโตของเด็กวัยเรียนหรือสมุดบันทึกสุขภาพเด็ก
3.1.5 นำข้อมูลจากโปรแกรมเฝ้าระวังการเจริญเติบโต แจ้งผลประเมินภาวะการเจริญเติบโตและแนวโน้มการเพิ่มน้ำหนักส่วนสูง และให้คำแนะนำแก่พ่อแม่/ผู้ปกครอง (แนบเอกสาร)ในการดูแลด้านโภชนาการและการเล่น รวมไปถึงการออกกำลังกาย
3.2 การสนับสนุนกิจกรรมแก้ไขเด็กที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน และเด็กที่มีน้ำหนักน้อย เตี้ย ผอม
3.2.1 จัดทำทะเบียนเด็กที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน และเด็กที่มีน้ำหนักน้อย เตี้ย ผอม และประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการแก้ไข
3.2.2 กรณีเด็กน้ำหนักน้อย เตี้ย ผอม แนะนำให้ผู้ปกครองจัดหาไข่หรือนมให้รับประทานติดต่อกัน เป็นเวลาอย่างน้อย180 วัน หรือจนกว่าเด็กกลับมาอยู่ในระดับค่อนข้างเตี้ย ค่อนข้างผอมหรือจนกว่าเด็กอยู่ในระดับสูงตามเกณฑ์และสมส่วนหรือเพิ่มอาหารกลุ่มเนื้อสัตว์ รวมทั้งแนะนำเด็กได้เล่นออกกำลังตามปกติอย่างน้อยวันละ 60 นาที
3.2.3 กรณีเด็กน้ำหนักเกินหรืออ้วน กระตุ้นให้เด็กอ้วนลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง และออกไปเล่นในสนามอย่างน้อยให้ได้วันละ 60 นาทีหรือมากกว่า กระตุ้นให้เด็กกินผักผลไม้มากขึ้น
3.3 การจัดอาหาร (อาหารกลางวันและอาหารว่าง) ปรับปรุง จัดเตรียมและจัดอาหารที่มีคุณค่าทาง
โภชนาการ ตามข้อแนะนำชุดกิจกรรมพื้นฐานด้านโภชนาการ
3.4 สรุปผลการดำเนินงานตามโครงการพร้อมแบบรายงาน (ภาคผนวก) ส่งให้กองทุนหลักประกัน
สุขภาพ เทศบาลอำเภอยะหริ่ง
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/10/2020
กำหนดเสร็จ 30/09/2021
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
20000 บาท
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?- เด็กน้ำหนักเกิน/อ้วน หรือเด็กน้ำหนักน้อย เตี้ย ผอม ได้รับการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูงทุก 1 เดือน
- เด็กน้ำหนักเกิน/อ้วน หรือเด็กน้ำหนักน้อย เตี้ย ผอม ได้รับการดูแลและมีภาวะโภชนาการที่ดีขึ้น
- เด็กน้ำหนักเกิน/อ้วน หรือเด็กน้ำหนักน้อย เตี้ย ผอม ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่ดีขึ้น