โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ในกลุ่มสงสัยป่วย โรคความดัน เบาหวาน ตำบลยามู ปี 2564
ชื่อโครงการ | โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ในกลุ่มสงสัยป่วย โรคความดัน เบาหวาน ตำบลยามู ปี 2564 |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์สุขภาพชุมชนตำบลยามู |
วันที่อนุมัติ | 15 เมษายน 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 15 เมษายน 2564 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 57,250.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางต่วนฟาตีมา จันทรัตนา |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางวรรณพร บัวสุวรรณ |
พื้นที่ดำเนินการ | จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 60 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของประชาชนทีมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน | 60.00 | ||
2 | ร้อยละประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง | 70.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
สถานการณ์ปัจจุบัน กลุ่มโรคไม่ติดต่อเป็นปัญหาสุขภาพอันดับหนึ่งของโลก และอันดับหนึ่ง ในประเทศไทย ทั้งในมิติของจำนวนการเสียชีวิตและภาระโรคโดยรวมในประเทศไทย ภาระโรค เกิดจากกลุ่มโรคไม่ติดต่อหลักสำคัญ ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ประชากรที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อมีจำนวนเพิ่มขึ้น อย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงปัจจัยทางสังคม เช่น การขยายตัวของสังคมเมือง กลยุทธ์ทางการตลาด ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการสื่อสาร ที่ส่งผลต่อวิถีชีวิตและทำให้ป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้มาตรฐาน หลักเกณฑ์และรูปแบบ การเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคไม่ติดต่อ ที่ดำเนินงานอยู่ยังไม่เพียงพอต่อการจัดการปัญหาและลดผลกระทบที่เกิดจากโรคไม่ติดต่อได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายสำคัญให้มีการทบทวนและจัดทำแผนยุทธศาสตร์การป้องกัน และควบคุมโรคไม่ติดต่อระดับชาติ 5 ปี (พ.ศ. 2560 - 2564) ที่สอดคล้อง ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ ชาติระยะ 20 ปีด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน รวมทั้ง การปรับสมดุลและพัฒนา ระบบการบริหารจัดการภาครัฐ และแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี(ด้านสาธารณสุข) ว่าด้วยความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายหลายภาคส่วน เพื่อเป็นทิศทางขับเคลื่อนสู่การลดปัญหาโรคไม่ติดต่อ โดยมีวิสัยทัศน์“ประชาชนสุขภาพดีปลอดจากภาระโรคไม่ติดต่อที่ป้องกันได้” ปัญหาหลักของการรักษาโรคเรื้อรังในประเทศไทย คือการที่ผู้ป่วยไม่ได้ตระหนัก ว่าเป็นโรค และการที่ยังไม่สามารถควบคุมโรคให้ลดลงมาตามเกณฑ์ปฏิบัติได้ อย่างไรก็ตาม พบว่าแนวโน้มของการไม่ตระหนักถึงการเป็นโรคของผู้ป่วยลดลง จากร้อยละ 72.4 ในปี พ.ศ. 2547 เหลือร้อยละ 44.7 ในปีพ.ศ. 2557 ในขณะที่สัดส่วนของผู้ที่ได้รับการรักษาและสามารถควบคุมความดันโลหิตได้ ต่ำกว่า 140/90 มม.ปรอทเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 8.6 ในปีพ.ศ. 2547 มาเป็น ร้อยละ 29.7 ในปีพ.ศ. 2557 สถานการณ์โรคหัวใจและหลอดเลือดที่สำคัญในประเทศไทย จากรายงานของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระหว่างปี พ.ศ. 2553 ถึง พ.ศ. 2558 พบว่าการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดหัวใจของประชาชนไทยเพิ่มสูงขึ้น โดย ผู้ชายเสียชีวิตจากโรคดังกล่าวสูงกว่าผู้หญิงเกือบเท่าตัวในเกือบทุกกลุ่มอายุ ยกเว้นในกลุ่มที่อายุ มากกว่า 70 ปี มีอัตราการเสียชีวิตที่ไม่ต่างกันระหว่างเพศชายและเพศหญิง ในปี พ.ศ. 2558 กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจทั้งประเทศรวม 18,922 คน (คิดเป็น 28.9 คนต่อประชากรหนึ่งแสนราย) และรายงานการเสียชีวิตจาก โรคหลอดเลือดสมองรวม 27,884 คน (คิดเป็น 42.6 คนต่อประชากรหนึ่งแสนราย) หากสามารถควบคุมโรคเรื้อรังในประเทศไทยให้ได้ผลดีขึ้น จะช่วยลดอัตราการ เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดลงได้อย่างแน่นอน จากการดำเนินงานโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ในปีที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดของกระทรวงสาธารณสุข ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนโดน มีผู้ป่วยโรคเบาหวานทั้งหมด 374 คน ขึ้นทะเบียนและมารับบริการทั้งหมด 159 คน คิดเป็น 42.51% มีผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่จากกลุ่มเสี่ยง จำนวน 11 คน คิดเป็น 0.75 % ลดลงจากปี 62 ซึ่งมีผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 30 คน ปี 63 จำนวน 27 ราย ลดลง คิดเป็น 10.00 % (ผ่านตัวชี้วัด) เป็นผู้ป่วยที่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี คิดเป็น 18.98 % (ไม่ผ่านตัวชี้วัด) ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ทั้งหมด 1,045 คน ขึ้นทะเบียนและมารับบริการทั้งหมด 394 คน คิดเป็น 37.70% มีผู้ป่วยความดันโลหิตสูงรายใหม่ 1 คน จากกลุ่มเสี่ยง จำนวน 22 คน คิดเป็น 4.55 % ลดลงจากปี 62 ซึ่งมีผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 78 คน ปี 63 จำนวน 64 ราย ลดลง คิดเป็น 17.95 % (ผ่านตัวชี้วัด) เป็นผู้ป่วยที่สามารถควบคุมระดับความดันโลหิตได้ดี คิดเป็น 33.88 % (ไม่ผ่านตัวชี้วัด) ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรังทั้งหมด 417 คน ได้รับการคัดกรองโรคหลอดเลือดสมอง 393 คน คิดเป็น 94.24 % (ผ่านตัวชี้วัด 90%) และผู้ป่วยที่รับบริการในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนโดน ได้รับการคัดกรอง ตา ไต เท้า หัวใจและหลอดเลือด คิดเป็น ร้อยละ 100 % ได้รับการส่งต่อเพื่อรับการรักษาต่อ ทางตา จำนวน 4 คน ทางไต จำนวน 3 คน ควบคุมระดับนำ้ตาลในเลือดได้ไม่ดี จำนวน 2 ราย ควบคุมระดับความดันโลหิตได้ไม่ดี จำนวน 1 คน จากข้อมูลดังกล่าว จะเห็นได้ว่าการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยกลุ่มนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆได้ ส่งผลต่อสุขภาพของผู้ป่วยเอง ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา ผู้ดูแลต้องดูแลอย่างใกล้ชิด อาจเกิดความพิการ และเสียชีวิตได้ ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนโดน เห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อแก้ปัญหาประชาชนทีมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ร้อยละของประชาชนทีมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ลดลง |
60.00 | 40.00 |
2 | เพื่อแก้ปัญหาประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง ลดลง |
70.00 | 40.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 57,250.00 | 0 | 0.00 | |
15 เม.ย. 64 - 30 มิ.ย. 64 | เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน | 0 | 8,250.00 | - | ||
1 พ.ค. 64 - 31 ส.ค. 64 | ติดตามประชาชนกลุ่มเสี่ยง(สงสัยป่วย) | 0 | 49,000.00 | - |
- ประชาชนกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูง มีความรู้และทักษะในการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรค สามารถประเมิน และแก้ไขภาวะสุขภาพของตนเอง ครอบครัวและชุมชนได้
- แกนนำประชาชนกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูง มีการขยายผลแก่สมาชิกกลุ่มเสี่ยงในชุมชน
- ประชาชนกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูง ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การดูแลตนเอง
- ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานรายใหม่ลดลง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2564 13:55 น.