โครงการเพิ่มกิจกรรมทางกายในชุมชน ลดโรค ลดพุง หุ่นดี ด้วย DPAC ประจำปี 2565
ชื่อโครงการ | โครงการเพิ่มกิจกรรมทางกายในชุมชน ลดโรค ลดพุง หุ่นดี ด้วย DPAC ประจำปี 2565 |
รหัสโครงการ | 65-L3325-2-3 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | กลุ่มอสม.รพ.สต.บ้านดอนศาลา |
วันที่อนุมัติ | 1 กุมภาพันธ์ 2565 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กุมภาพันธ์ 2565 - 31 สิงหาคม 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2565 |
งบประมาณ | 49,450.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวลักษิกา เที่ยงธรรม |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางสมทรง ประยูรวงศ์ |
พื้นที่ดำเนินการ | จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของผู้ใหญ่อายุ 18-64 ปี ที่มีกิจกรรมทางกายเพียงพอ (ระดับปานกลางถึงมาก อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์) | 50.51 | ||
2 | เพื่อให้คนในชุมชนมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอในช่วงโควิด-19ได้เพิ่มขึ้น | 23.33 | ||
3 | ร้อยละของประชาชนที่มีค่าดัชนีมวลกาย เกิน | 39.53 | ||
4 | ร้อยละของคนในชุมชนที่ดื่มน้ำอัดลมและเครื่องดื่มรสหวานจัดเป็นประจำ | 42.22 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
พฤติกรรมและวิถีชีวิตมีผลอย่างมากต่อสุขภาวะของมนุษย์พฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ของแต่ละบุคคลเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเจ็บป่วยของบุคคลนั้นๆจากสถานการณ์ของคนไทยในปัจจุบันพบว่าโรคเบาหวานโรคความดันโลหิตสูงโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเจ็บป่วยและการตายในลำดับต้นๆ ปัจจุบันคนไทยมีภาวะอ้วนและอ้วนลงพุงมากขึ้นจากพฤติกรรมบริโภคที่ไม่เหมาะสม โดยหันมาบริโภคอาหารรสหวานมันเค็ม และอาหารแปรรูปมากขึ้น รับประทานผักผลไม้น้อยลงและขาดการออกกำลังกาย ในปี2551ผลการสำรวจภาวะอ้วนลงพุงในประชาชนอายุ15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศของกรมอนามัยพบว่าเพศชายมีรอบเอวเกิน90เซนติเมตรร้อยละ34 และเพศหญิงมีรอบเอวเกิน 80เซนติเมตรร้อยละ 58 จากผลการคัดกรองสุขภาพในกลุ่มเสี่ยงของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านดอนศาลา ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2560 - พ.ศ. 2564 พบว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อโรคอ้วนจำนวน 360, 278, 279 , 343 ,270 ราย ตามลำดับ คิดเป็นร้อยละ 52.71 ,40.70 ,40.84,56.23,39.53 ในปี พ.ศ. 2563 เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงจำนวน 170 รายคิดเป็นร้อยละ 20.43 และเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองจำนวน 97 รายคิดเป็นร้อยละ 57.06 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (COVID-19) การออกกำลังกายอย่างถูกต้อง เหมาะสมและต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยปกป้องที่สำคัญในการป้องกันโรค แต่เนื่องจากสถานการณ์ระยะนี้การที่ประชาชนจะออกกำลังกายในรูปแบบการรวมกลุ่มกันออกกำลังกาย หรือการออกำลังกายตามที่สาธารณะที่มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด 19 (COVID-19) และเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่กระจายโรคได้มากขึ้นซึ่งการปรับพฤติกรรมสุขภาพต้องใช้เวลานานพอสมควรจึงสำเร็จ ด้วยความตระหนักถึงความรุนแรงของโรคอ้วน โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือดที่คุกคามวิถีชีวิตและสุขภาวะของผู้ประกันตนในสถานประกอบการ ประชาชนในชุมชนและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านดอนศาลา ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านดอนศาลา นอกจากจะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกายเพื่อมีสุขภาพที่แข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด 19 (COVID-19) แล้วโครงการนี้ยังการปลุกกระแสการสร้างสุขภาพโดยไม่จำเป็นต้องให้ประชาชนมารวมกลุ่มกันเพื่อทำกิจกรรม ซึ่งตอบโจทย์ของประเทศในการสร้างสุขภาพของคนไทยให้แข็งแรงมีภูมิต้านทานต่อโรค อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโรค ทำให้การควบคุมการระบาดของโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยผ่านพ้นภาวะวิกฤตินี้ไปในเร็ววันได้ด้วยความร่วมมือ และความสามัคคีของทุกคนในชาติ จึงได้ทำโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างต่อเนื่องภายใต้โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดโรค ลดพุงหุ่นดีด้วย DPAC โดยได้รับการสนับสนุนเงินงบประมาณในการดำเนินกิจกรรมจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั้งนี้ได้นำแนวคิดพฤติกรรมสุขภาพ3 อ 2 ส มาใช้เป็นหลักในการวางแผนการดำเนินกิจกรรมโดยการเพิ่มพลังอำนาจในตนเองให้เกิดความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเองในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสามารถตัดสินใจเลือกวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมได้อย่างเหมาะสมเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการเกิดความมั่นใจในการแก้ปัญหาพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความมั่นใจในการเริ่มต้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพสูงขึ้นซึ่งจะส่งผลให้ผู้เข้าร่วมโครงการเกิดความตระหนักในการดูแลสุขภาพก่อนที่จะเกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกิดจากการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ถูกต้องและมีความเชื่อมั่นในความสามารถของตนรวมทั้งมีแนวทางและเกิดทักษะในการดูแลสุขภาพตนเองจะช่วยลดการพึ่งพิงการรักษาและค่าใช้จ่ายในระดับทุติยภูมิและตติยภูมิซึ่งจะเสริมให้ทรัพยากรบุคลเป็นทุนมนุษย์ที่แข็งแรงของหน่วยงานและสังคมและประเทศชาติต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพิ่มการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอในผู้ใหญ่ ร้อยละของผู้ใหญ่อายุ 18-64 ปี ที่มีกิจกรรมทางกายเพียงพอ (ระดับปานกลางถึงมาก อย่างน้อยที่สุด 150 นาทีต่อสัปดาห์) |
50.51 | 65.00 |
2 | เพื่อให้คนในชุมชนมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอในช่วงโควิด-19 เพิ่มขึ้น เพิ่มจำนวนคนในชุมชนมีกิจกรรมทางกายเพียงพอในช่วงโควิด -19 |
23.33 | 33.55 |
3 | เพื่อลดค่าดัชนีมวลกายของกลุ่มเสี่ยงที่มีค่าดัชนีมวลกายเกินให้มีค่าลดลง ร้อยละของกลุ่มเสี่ยงที่มีค่าดัชนีมวลกายเกินมี่ค่าดัชนีมวลกายลดลง |
39.53 | 20.00 |
4 | เพื่อให้กลุ่มเสี่่ยงมีพฤติกรรมการบริโภคที่ดีขึ้นลดการดื่มน้ำอัดลมและเครื่องดื่มรสหวานจัด ร้อยละของกลุ่มเสี่ยงมีพฤติกรรมการบริโภคที่ดีขึ้น สามารถลดการดื่มน้ำอัดลมและเครื่องดื่มรสหวานจัด |
44.20 | 33.50 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 49,450.00 | 4 | 0.00 | |
1 ก.พ. 65 | กิจกรรมประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการ | 0 | 0.00 | ✔ | 0.00 | |
2 ก.พ. 65 - 31 มี.ค. 65 | ประชุมชี้แจงประชาสัมพันธ์โครงการ อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการมีกิจกรรมทางกายและการบริโภคอาหารอาหารที่ปลอดภัยและคัดกรองผู้เข้าร่วมโครงการ และอบรมแกนนำในการออกกำลังกาย | 0 | 25,600.00 | ✔ | 0.00 | |
1 เม.ย. 65 - 31 พ.ค. 65 | ติดตามประเมินผล ครั้งที่ 1 | 0 | 4,250.00 | ✔ | 0.00 | |
1 มิ.ย. 65 - 27 ส.ค. 65 | ติดตามประเมินผล ครั้งที่2 พร้อมสรุปผลการดำเนินงาน | 0 | 19,600.00 | ✔ | 0.00 |
กลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมโครงการ - มีความพึงพอใจต่อโครงการ - มีความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมต่อไป - ให้คำแนะนำผู้อื่นต่อในด้านสุขภาพ - ได้เครือข่ายในการดูแลสุขภาพตนเอง - มีสุขภาพที่ดีขึ้น สามารถลดปริมาณการเจ็บป่วย และค่าใช้จ่ายในการรักษาและใช้ยาที่ไม่จำเป็นลง -เกิดแกนนำในการออกกำลังกายในชุมชน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2564 11:04 น.