โครงการเฝ้าระวังผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลง ในตำบลปันแต
แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์
รายงานฉบับสมบูรณ์
โครงการ
“ โครงการเฝ้าระวังผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลง ในตำบลปันแต ”
หมู่ที่ 1 - 13 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
หัวหน้าโครงการ
นายประดับวุฒิ ณ นิโรจน์
ได้รับการสนับสนุนโดย กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ปันแต
สิงหาคม 2565
ชื่อโครงการ โครงการเฝ้าระวังผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลง ในตำบลปันแต
ที่อยู่ หมู่ที่ 1 - 13 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง จังหวัด พัทลุง
รหัสโครงการ 65-L3321-1-08 เลขที่ข้อตกลง 5/2565
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 ถึง 31 สิงหาคม 2565
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการเฝ้าระวังผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลง ในตำบลปันแต จังหวัดพัทลุง" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน หมู่ที่ 1 - 13 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ปันแต ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการเฝ้าระวังผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลง ในตำบลปันแต
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการเฝ้าระวังผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลง ในตำบลปันแต " ดำเนินการในพื้นที่ หมู่ที่ 1 - 13 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง รหัสโครงการ 65-L3321-1-08 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 พฤษภาคม 2565 - 31 สิงหาคม 2565 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 14,420.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ปันแต เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ »
บทคัดย่อ »
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล »
วัตถุประสงค์โครงการ »
กิจกรรม/การดำเนินงาน »
กลุ่มเป้าหมาย »
ผลลัพธ์ที่ได้ »
การประเมินผล »
ปัญหาและอุปสรรค »
ข้อเสนอแนะ »
เอกสารประกอบอื่นๆ »
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
ปัจจุบันความก้าวหน้าทางการเกษตรทำให้มีการผลิตสารเคมีกำจัดศัตรูพืชใช้อย่างแพร่หลายจะเห็นได้ว่าปริมาณและชนิดของสารเคมีที่นำมาใช้ในทางการเกษตรได้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากโดยในรอบ ๑๐ ปีที่ผ่านมา ได้มีการนำเข้าวัตถุอันตรายทางการเกษตรเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าตัวโดยในปี พ.ศ. ๒๕๔๘ มีการใช้สารเคมีปริมาณ ๕,๔๗๓,๐๓๓.๑๐ กิโลกรัม คิดมูลค่าเป็นเงิน ๑๐,๕๓๐,๗๐๐,๖๔๒.๒๓ บาท และเพิ่มขึ้นเป็น ๖๐,๘๒๔,๑๖๓.๔๘ กิโลกรัม ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ คิดเป็นมูลค่าเป็นเงิน ๒๐,๖๑๗,๗๐๕,๕๖.๗๐ บาท ซึ่งสารเคมีกำจัดศัตรูพืชสามารถทำอันตรายต่อร่างกายได้ทั้งมนุษย์และสัตว์ กล่าวคือ จะไปทำลายอวัยวะ ในร่างกาย เช่น ตับ ไต ปอด สมอง ผิวหนัง ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และตา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางใดและปริมาณมากน้อยเท่าใด ส่วนใหญ่แล้วการที่อวัยวะในร่างกายได้สะสมสารเคมีไว้จนถึงขีดที่ร่างกายไม่อาจทนได้จึงแสดงอาการต่าง ๆ ออกมา เช่น โรคมะเร็ง โรคต่อมไร้ท่อ โรคเลือดและระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น และจากสถิติจากสำนักโรคประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๕๗ พบว่า มีผู้ป่วยจากโรคพิษจากสารกำจัดศัตรูพืชเป็น ๓,๗๕๓, ๗,๘๐๖, ๗,๕๐๖, และ ๗,๙๕๔ คนต่อปี โดยคิดเป็นอัตราป่วย ๕.๘๖, ๑๒.๑๑,๑๑.๕๙ และ๑๒.๒๑ ต่อแสนประชากร ตามลำดับสะท้อนให้เห็นว่า แนวโน้มการนำเข้าสารเคมีกำจัดศัตรูพืชสูงขึ้น ส่งผลให้อัตราป่วยของโรคจากพิษสารเคมีกำจัดศัตรูพืชเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ตำบลปันแต เป็นตำบลหนึ่งที่ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรมโดยมีพื้นที่ที่ใช้ในการเกษตร ซึ่งประกอบไปด้วย การทำนาปี ทำสวนยางพารา พืชล้มลุกทางการเกษตรอีกหลายชนิด ผลกระทบจากการใช้สารเคมีในการควบคุมและกำจัดศัตรูพืชจึงกระจายและขยายเป็นวงกว้าง และยังอยู่ในระดับที่รุนแรง และสูง นอกจากเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงมีการศึกษาอันตรายจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างกว้างขวาง และพบว่า สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเหล่านี้สามารถถูกสะสมในร่างกายมนุษย์ได้เป็นเวลานาน ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ การดูดซึมทางผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ และการรับประทาน จึงได้มีเฝ้าระวังในกลุ่มผู้บริโภค ในปีงบประมาณ 2564 โดยการเจาะสารเคมีในเลือดให้กลุ่มดังกล่าว ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้รับการตรวจสารเคมีในเลือด ทั้งสิ้นจำนวน ๕๕๘ คน มีผลดังนี้ เจาะเลือดประชาชนกลุ่มเสี่ยงโดยใช้กระดาษ Reactive paper ครั้งที่ ๑ พบว่า ปกติ ร้อยละ 4.66 ปลอดภัย ร้อยละ 21.68 เสี่ยง ร้อยละ 44.09 และไม่ปลอดภัย ร้อยละ 29.57 กรณีพบว่า ไม่ปลอดภัยในครั้งที่ ๑ เจาะเลือดเกษตรกรโดยใช้กระดาษ Reactive paper ครั้งที่ ๒ พบว่า ปกติ ร้อยละ 4.03 ปลอดภัย ร้อยละ 25.00 เสี่ยง ร้อยละ 17.74 และไม่ปลอดภัย ร้อยละ 53.23
จะเห็นได้ว่า ผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลงนั้นมีสารเคมีในเลือดอยู่ในกลุ่มที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเป็นจำนวนมาก จากข้อมูลข้างต้นสถานการณ์สารเคมีตกค้างในเลือดทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคแสดงถึงความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากการปนเปื้อนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในผลผลิตทางการเกษตร
ดังนั้น ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปันแต ร่วมกับกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลปันแตได้เล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพของผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลงในพื้นที่ตำบลปันแต จึงได้จัดทำโครงการเฝ้าระวังผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลง ในตำบลปันแตขึ้น เพื่อให้ผู้สัมผัสและเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่รับผิดชอบได้รับการตรวจสุขภาพและเจาะเลือดเพื่อหาสารเคมีตกค้างในกระแสเลือด ว่าอยู่ในระดับใด เพื่อเฝ้าระวังและรักษาต่อไป
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อเฝ้าระวังสภาวะสุขภาพจากสารเคมี ในประชาชนกลุ่มเสี่ยงอายุ ๑๕ ปีขึ้นไป
- 2. เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ที่มีระดับสารเคมีในเลือดระดับไม่ปลอดภัยได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- กิจกรรมตรวจสารเคมีตกค้างในประชาชน
- กิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- กิจกรรมตรวจสารเคมีตกค้างในปะชาชน อายุ ๑๕ ปีขึ้นไป
- กิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
337
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีระดับสารเคมีตกค้างในเกณฑ์ปกติและปลอดภัย
2.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีพฤติกรรมการใช้สารเคมีที่ถูกต้อง
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ ผลผลิต* ผลผลิตที่ตั้งไว้ ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง
1. กิจกรรมตรวจสารเคมีตกค้างในปะชาชน อายุ ๑๕ ปีขึ้นไป
วันที่ 1 เมษายน 2565 เวลา 09:00 น.กิจกรรมที่ทำ
กิจกรรมตรวจสารเคมีตกค้างในประชาชน อายุ ๑๕ ปีขึ้นไป 1. สำรวจข้อมูลประชากร อายุ 15 ปีขึ้นไป 2. จัดทำหนังสือเชิญกลุ่มเป้าหมายเข้ารับการตรวจสารเคมีตกค้าง 3. แจ้งผลการตรวจสารเคมีตกค้าง
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จากการดำเนินโครงการผู้สัมผัสพบว่ามีระดับสารเคมีในเลือดอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว ซึ่งผลจาการดำเนินการตามวัตถุประสงค์โครงการ ดังนี้
๑. ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้รับการตรวจสารเคมีในเลือด ทั้งสิ้นจำนวน ๕๕๘ คน มีผลดังนี้
๑.๑ เจาะเลือดประชาชนกลุ่มเสี่ยงโดยใช้กระดาษ Reactive paper ครั้งที่ ๑ พบว่า ปกติ ร้อยละ 4.66 ปลอดภัย ร้อยละ 21.68 เสี่ยง ร้อยละ 44.09 และไม่ปลอดภัย ร้อยละ 29.57
๑.๒ กรณีพบว่า ไม่ปลอดภัยในครั้งที่ ๑ เจาะเลือดเกษตรกรโดยใช้กระดาษ Reactive paper ครั้งที่ ๒ พบว่า ปกติ ร้อยละ 4.03 ปลอดภัย ร้อยละ 25.00 เสี่ยง ร้อยละ 17.74 และไม่ปลอดภัย ร้อยละ 53.23
๒.ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ที่มีระดับสารเคมีในเลือดระดับไม่ปลอดภัยได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทุกราย โดยได้ทำการคัดกรองตามแบบประเมินความเสี่ยงในการทำงานของเกษตรกรจากการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช นบก.1 เพื่อทราบถึงพฤติกรรมการใช้สารเคมีของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ยังให้ความรู้โดยใช้สื่อจากแผ่นพับการล้างผักที่ถูกวิธี และแผ่นพับการใช้สมุนไพรล้างพิษ เจาะจงเป็นรายบุคคล ผู้ที่มีระดับสารเคมีระดับเสี่ยงและไม่ปลอดภัยทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปันแตจะจ่ายยาผงรางจืดชงรับประทาน ๑ เดือน แล้วนัดมาเจาะเลือดซ้ำครั้งที่ ๒ เพื่อเฝ้าระวังต่อไป
จะเห็นได้ว่า ทางโครงการ จากการเจาะเลือดครั้งที่ ๑ ผลเลือดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงและไม่ปลอดภัยค่อนข้างสูง เมื่อนัดเจาะครั้งที่ ๒ กลุ่มนี้มารับบริการน้อย แต่ผลเลือดส่วนใหญ่กลุ่มนี้ยังอยู่ในกลุ่มเสี่ยงและไม่ปลอดภัย ซึ่งผลเลือดส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงไม่ปลอดภัย ก็ยังจำเป็นที่ยังต้องมีการเฝ้าระวังประชาชนเกี่ยวการสารเคมีตกค้างต่อไป
337
0
2. กิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
วันที่ 1 เมษายน 2565 เวลา 09:00 น.กิจกรรมที่ทำ
กิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แจกเอกสารการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแก่กลุ่มเป้าหมายที่เข้ารับการตรวจสารเคมีตกค้าง
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
ผู้เข้ารับการตรวจสารเคมีตกค้าง ได้รับเอกสารการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทุกราย
337
0
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ สถานการณ์ เป้าหมาย ผลผลิต อธิบาย
1
เพื่อเฝ้าระวังสภาวะสุขภาพจากสารเคมี ในประชาชนกลุ่มเสี่ยงอายุ ๑๕ ปีขึ้นไป
ตัวชี้วัด : ร้อยละ 10 ของประชาชนกลุ่มเสี่ยงอายุ ๑๕ ปีขึ้นไป ได้รับการเฝ้าระวังสภาวะสุขภาพจากสารเคมี
10.00
2
2. เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ที่มีระดับสารเคมีในเลือดระดับไม่ปลอดภัยได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ตัวชี้วัด : ร้อยละ 80 ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ที่มีระดับสารเคมีในเลือดระดับ
ไม่ปลอดภัยได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
80.00
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
337
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
-
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
-
กลุ่มวัยทำงาน
-
กลุ่มผู้สูงอายุ
-
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
-
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
-
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
-
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
337
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
-
บทคัดย่อ*
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อเฝ้าระวังสภาวะสุขภาพจากสารเคมี ในประชาชนกลุ่มเสี่ยงอายุ ๑๕ ปีขึ้นไป (2) 2. เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ที่มีระดับสารเคมีในเลือดระดับไม่ปลอดภัยได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) กิจกรรมตรวจสารเคมีตกค้างในประชาชน (2) กิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (3) กิจกรรมตรวจสารเคมีตกค้างในปะชาชน อายุ ๑๕ ปีขึ้นไป (4) กิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...
หมายเหตุ *- บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
- หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค สาเหตุ ข้อเสนอแนะ
โครงการเฝ้าระวังผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลง ในตำบลปันแต จังหวัด พัทลุง
รหัสโครงการ 65-L3321-1-08
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
................................
( นายประดับวุฒิ ณ นิโรจน์ )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......
โครงการ
“ โครงการเฝ้าระวังผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลง ในตำบลปันแต ”
หมู่ที่ 1 - 13 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
หัวหน้าโครงการ
นายประดับวุฒิ ณ นิโรจน์
สิงหาคม 2565
ที่อยู่ หมู่ที่ 1 - 13 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง จังหวัด พัทลุง
รหัสโครงการ 65-L3321-1-08 เลขที่ข้อตกลง 5/2565
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 ถึง 31 สิงหาคม 2565
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการเฝ้าระวังผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลง ในตำบลปันแต จังหวัดพัทลุง" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน หมู่ที่ 1 - 13 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ปันแต ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการเฝ้าระวังผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลง ในตำบลปันแต
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการเฝ้าระวังผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลง ในตำบลปันแต " ดำเนินการในพื้นที่ หมู่ที่ 1 - 13 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง รหัสโครงการ 65-L3321-1-08 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 พฤษภาคม 2565 - 31 สิงหาคม 2565 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 14,420.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ปันแต เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ | » |
บทคัดย่อ | » |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล | » |
วัตถุประสงค์โครงการ | » |
กิจกรรม/การดำเนินงาน | » |
กลุ่มเป้าหมาย | » |
ผลลัพธ์ที่ได้ | » |
การประเมินผล | » |
ปัญหาและอุปสรรค | » |
ข้อเสนอแนะ | » |
เอกสารประกอบอื่นๆ | » |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
ปัจจุบันความก้าวหน้าทางการเกษตรทำให้มีการผลิตสารเคมีกำจัดศัตรูพืชใช้อย่างแพร่หลายจะเห็นได้ว่าปริมาณและชนิดของสารเคมีที่นำมาใช้ในทางการเกษตรได้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากโดยในรอบ ๑๐ ปีที่ผ่านมา ได้มีการนำเข้าวัตถุอันตรายทางการเกษตรเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าตัวโดยในปี พ.ศ. ๒๕๔๘ มีการใช้สารเคมีปริมาณ ๕,๔๗๓,๐๓๓.๑๐ กิโลกรัม คิดมูลค่าเป็นเงิน ๑๐,๕๓๐,๗๐๐,๖๔๒.๒๓ บาท และเพิ่มขึ้นเป็น ๖๐,๘๒๔,๑๖๓.๔๘ กิโลกรัม ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ คิดเป็นมูลค่าเป็นเงิน ๒๐,๖๑๗,๗๐๕,๕๖.๗๐ บาท ซึ่งสารเคมีกำจัดศัตรูพืชสามารถทำอันตรายต่อร่างกายได้ทั้งมนุษย์และสัตว์ กล่าวคือ จะไปทำลายอวัยวะ ในร่างกาย เช่น ตับ ไต ปอด สมอง ผิวหนัง ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และตา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางใดและปริมาณมากน้อยเท่าใด ส่วนใหญ่แล้วการที่อวัยวะในร่างกายได้สะสมสารเคมีไว้จนถึงขีดที่ร่างกายไม่อาจทนได้จึงแสดงอาการต่าง ๆ ออกมา เช่น โรคมะเร็ง โรคต่อมไร้ท่อ โรคเลือดและระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น และจากสถิติจากสำนักโรคประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๕๗ พบว่า มีผู้ป่วยจากโรคพิษจากสารกำจัดศัตรูพืชเป็น ๓,๗๕๓, ๗,๘๐๖, ๗,๕๐๖, และ ๗,๙๕๔ คนต่อปี โดยคิดเป็นอัตราป่วย ๕.๘๖, ๑๒.๑๑,๑๑.๕๙ และ๑๒.๒๑ ต่อแสนประชากร ตามลำดับสะท้อนให้เห็นว่า แนวโน้มการนำเข้าสารเคมีกำจัดศัตรูพืชสูงขึ้น ส่งผลให้อัตราป่วยของโรคจากพิษสารเคมีกำจัดศัตรูพืชเพิ่มขึ้นเช่นกัน ตำบลปันแต เป็นตำบลหนึ่งที่ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรมโดยมีพื้นที่ที่ใช้ในการเกษตร ซึ่งประกอบไปด้วย การทำนาปี ทำสวนยางพารา พืชล้มลุกทางการเกษตรอีกหลายชนิด ผลกระทบจากการใช้สารเคมีในการควบคุมและกำจัดศัตรูพืชจึงกระจายและขยายเป็นวงกว้าง และยังอยู่ในระดับที่รุนแรง และสูง นอกจากเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงมีการศึกษาอันตรายจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างกว้างขวาง และพบว่า สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเหล่านี้สามารถถูกสะสมในร่างกายมนุษย์ได้เป็นเวลานาน ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ การดูดซึมทางผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ และการรับประทาน จึงได้มีเฝ้าระวังในกลุ่มผู้บริโภค ในปีงบประมาณ 2564 โดยการเจาะสารเคมีในเลือดให้กลุ่มดังกล่าว ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้รับการตรวจสารเคมีในเลือด ทั้งสิ้นจำนวน ๕๕๘ คน มีผลดังนี้ เจาะเลือดประชาชนกลุ่มเสี่ยงโดยใช้กระดาษ Reactive paper ครั้งที่ ๑ พบว่า ปกติ ร้อยละ 4.66 ปลอดภัย ร้อยละ 21.68 เสี่ยง ร้อยละ 44.09 และไม่ปลอดภัย ร้อยละ 29.57 กรณีพบว่า ไม่ปลอดภัยในครั้งที่ ๑ เจาะเลือดเกษตรกรโดยใช้กระดาษ Reactive paper ครั้งที่ ๒ พบว่า ปกติ ร้อยละ 4.03 ปลอดภัย ร้อยละ 25.00 เสี่ยง ร้อยละ 17.74 และไม่ปลอดภัย ร้อยละ 53.23 จะเห็นได้ว่า ผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลงนั้นมีสารเคมีในเลือดอยู่ในกลุ่มที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเป็นจำนวนมาก จากข้อมูลข้างต้นสถานการณ์สารเคมีตกค้างในเลือดทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคแสดงถึงความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากการปนเปื้อนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในผลผลิตทางการเกษตร ดังนั้น ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปันแต ร่วมกับกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลปันแตได้เล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพของผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลงในพื้นที่ตำบลปันแต จึงได้จัดทำโครงการเฝ้าระวังผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลง ในตำบลปันแตขึ้น เพื่อให้ผู้สัมผัสและเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่รับผิดชอบได้รับการตรวจสุขภาพและเจาะเลือดเพื่อหาสารเคมีตกค้างในกระแสเลือด ว่าอยู่ในระดับใด เพื่อเฝ้าระวังและรักษาต่อไป
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อเฝ้าระวังสภาวะสุขภาพจากสารเคมี ในประชาชนกลุ่มเสี่ยงอายุ ๑๕ ปีขึ้นไป
- 2. เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ที่มีระดับสารเคมีในเลือดระดับไม่ปลอดภัยได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- กิจกรรมตรวจสารเคมีตกค้างในประชาชน
- กิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- กิจกรรมตรวจสารเคมีตกค้างในปะชาชน อายุ ๑๕ ปีขึ้นไป
- กิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้ | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | ||
กลุ่มวัยทำงาน | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 337 | |
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีระดับสารเคมีตกค้างในเกณฑ์ปกติและปลอดภัย 2.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีพฤติกรรมการใช้สารเคมีที่ถูกต้อง
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์** กิจกรรมของโครงการ | ผลผลิต* | |
---|---|---|
ผลผลิตที่ตั้งไว้ | ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง | |
1. กิจกรรมตรวจสารเคมีตกค้างในปะชาชน อายุ ๑๕ ปีขึ้นไป |
||
วันที่ 1 เมษายน 2565 เวลา 09:00 น.กิจกรรมที่ทำกิจกรรมตรวจสารเคมีตกค้างในประชาชน อายุ ๑๕ ปีขึ้นไป 1. สำรวจข้อมูลประชากร อายุ 15 ปีขึ้นไป 2. จัดทำหนังสือเชิญกลุ่มเป้าหมายเข้ารับการตรวจสารเคมีตกค้าง 3. แจ้งผลการตรวจสารเคมีตกค้าง ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการผู้สัมผัสพบว่ามีระดับสารเคมีในเลือดอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว ซึ่งผลจาการดำเนินการตามวัตถุประสงค์โครงการ ดังนี้ ๑. ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้รับการตรวจสารเคมีในเลือด ทั้งสิ้นจำนวน ๕๕๘ คน มีผลดังนี้ ๑.๑ เจาะเลือดประชาชนกลุ่มเสี่ยงโดยใช้กระดาษ Reactive paper ครั้งที่ ๑ พบว่า ปกติ ร้อยละ 4.66 ปลอดภัย ร้อยละ 21.68 เสี่ยง ร้อยละ 44.09 และไม่ปลอดภัย ร้อยละ 29.57 ๑.๒ กรณีพบว่า ไม่ปลอดภัยในครั้งที่ ๑ เจาะเลือดเกษตรกรโดยใช้กระดาษ Reactive paper ครั้งที่ ๒ พบว่า ปกติ ร้อยละ 4.03 ปลอดภัย ร้อยละ 25.00 เสี่ยง ร้อยละ 17.74 และไม่ปลอดภัย ร้อยละ 53.23 ๒.ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ที่มีระดับสารเคมีในเลือดระดับไม่ปลอดภัยได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทุกราย โดยได้ทำการคัดกรองตามแบบประเมินความเสี่ยงในการทำงานของเกษตรกรจากการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช นบก.1 เพื่อทราบถึงพฤติกรรมการใช้สารเคมีของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ยังให้ความรู้โดยใช้สื่อจากแผ่นพับการล้างผักที่ถูกวิธี และแผ่นพับการใช้สมุนไพรล้างพิษ เจาะจงเป็นรายบุคคล ผู้ที่มีระดับสารเคมีระดับเสี่ยงและไม่ปลอดภัยทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปันแตจะจ่ายยาผงรางจืดชงรับประทาน ๑ เดือน แล้วนัดมาเจาะเลือดซ้ำครั้งที่ ๒ เพื่อเฝ้าระวังต่อไป จะเห็นได้ว่า ทางโครงการ จากการเจาะเลือดครั้งที่ ๑ ผลเลือดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงและไม่ปลอดภัยค่อนข้างสูง เมื่อนัดเจาะครั้งที่ ๒ กลุ่มนี้มารับบริการน้อย แต่ผลเลือดส่วนใหญ่กลุ่มนี้ยังอยู่ในกลุ่มเสี่ยงและไม่ปลอดภัย ซึ่งผลเลือดส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงไม่ปลอดภัย ก็ยังจำเป็นที่ยังต้องมีการเฝ้าระวังประชาชนเกี่ยวการสารเคมีตกค้างต่อไป
|
337 | 0 |
2. กิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม |
||
วันที่ 1 เมษายน 2565 เวลา 09:00 น.กิจกรรมที่ทำกิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แจกเอกสารการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแก่กลุ่มเป้าหมายที่เข้ารับการตรวจสารเคมีตกค้าง ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นผู้เข้ารับการตรวจสารเคมีตกค้าง ได้รับเอกสารการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทุกราย
|
337 | 0 |
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ | สถานการณ์ | เป้าหมาย | ผลผลิต | อธิบาย | |
---|---|---|---|---|---|
1 | เพื่อเฝ้าระวังสภาวะสุขภาพจากสารเคมี ในประชาชนกลุ่มเสี่ยงอายุ ๑๕ ปีขึ้นไป ตัวชี้วัด : ร้อยละ 10 ของประชาชนกลุ่มเสี่ยงอายุ ๑๕ ปีขึ้นไป ได้รับการเฝ้าระวังสภาวะสุขภาพจากสารเคมี |
10.00 |
|
||
2 | 2. เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ที่มีระดับสารเคมีในเลือดระดับไม่ปลอดภัยได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ตัวชี้วัด : ร้อยละ 80 ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ที่มีระดับสารเคมีในเลือดระดับ ไม่ปลอดภัยได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม |
80.00 |
|
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
---|---|---|---|
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด | 337 | ||
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | |||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | - | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | - | ||
กลุ่มวัยทำงาน | - | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | - | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | |||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | - | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | - | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | - | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 337 | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] | - |
บทคัดย่อ*
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อเฝ้าระวังสภาวะสุขภาพจากสารเคมี ในประชาชนกลุ่มเสี่ยงอายุ ๑๕ ปีขึ้นไป (2) 2. เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ที่มีระดับสารเคมีในเลือดระดับไม่ปลอดภัยได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) กิจกรรมตรวจสารเคมีตกค้างในประชาชน (2) กิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (3) กิจกรรมตรวจสารเคมีตกค้างในปะชาชน อายุ ๑๕ ปีขึ้นไป (4) กิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...
หมายเหตุ *
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค | สาเหตุ | ข้อเสนอแนะ |
---|---|---|
|
|
|
โครงการเฝ้าระวังผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลง ในตำบลปันแต จังหวัด พัทลุง
รหัสโครงการ 65-L3321-1-08
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
( นายประดับวุฒิ ณ นิโรจน์ )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......