แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์
รายงานฉบับสมบูรณ์
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.เขาชัยสน
“ โครงการเครือข่ายชุมชนเข้มแข็ง ป้องกันภัยโรคโควิด-19 รพ.สต.บ้านโคกยา ”
ตำบลเขาชัยสน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง
หัวหน้าโครงการ
นายพงษ์ศักดิ์ เผือกสม
ชื่อโครงการ โครงการเครือข่ายชุมชนเข้มแข็ง ป้องกันภัยโรคโควิด-19 รพ.สต.บ้านโคกยา
ที่อยู่ ตำบลเขาชัยสน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง จังหวัด พัทลุง
รหัสโครงการ 2565-L3310-1- เลขที่ข้อตกลง 12/2565
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ ถึง
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการเครือข่ายชุมชนเข้มแข็ง ป้องกันภัยโรคโควิด-19 รพ.สต.บ้านโคกยา จังหวัดพัทลุง" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลเขาชัยสน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.เขาชัยสน ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการเครือข่ายชุมชนเข้มแข็ง ป้องกันภัยโรคโควิด-19 รพ.สต.บ้านโคกยา
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการเครือข่ายชุมชนเข้มแข็ง ป้องกันภัยโรคโควิด-19 รพ.สต.บ้านโคกยา " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลเขาชัยสน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง รหัสโครงการ 2565-L3310-1- ระยะเวลาการดำเนินงาน ยังไม่ระบุ - (ยังไม่ระบุ) ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 23,540.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล อบต.เขาชัยสน เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกในชุมชนจำนวน 0 คน หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ
บทคัดย่อ
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
วัตถุประสงค์โครงการ
กิจกรรม/การดำเนินงาน
กลุ่มเป้าหมาย
ผลลัพธ์ที่ได้
การประเมินผล
ปัญหาและอุปสรรค
ข้อเสนอแนะ
เอกสารประกอบอื่นๆ
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019(COVID-19) ที่ กำลังระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ จัดอยู่ในกลุ่มเชื้อไวรัสโคโรนาซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่มีรูปร่างคล้ายมงกุฎ พบครั้งแรกกลางทศวรรษที่ 1960 แต่ยังไม่ทราบแหล่งที่มาอย่างชัดเจนว่ามาจากที่ใด เป็นไวรัสที่ สามารถติดเชื้อได้ทั้งในมนุษย์และสัตว์ ปัจจุบันมีการค้นพบไวรัสสายพันธุ์นี้แล้วทั้งหมด 6 สายพันธุ์ ส่วนสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดหนักทั่วโลกตอนนี้เป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยพบมาก่อน คือ สายพันธุ์ที่ 7 จึงถูกเรียกว่าเป็น “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019” และในภายหลังถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019(COVID-19)) เริ่มต้นขึ้น ในเดือนธันวาคม พ.ศ.2562 แรกเริ่ม ถูกค้นพบจากสัตว์ โดยเป็นสัตว์ทะเลที่มีการติดเชื้อไวรัสนี้แล้วคนที่ อยู่ใกล้ชิดคลุกคลีกับสัตว์เหล่านี้ก็ติดเชื้อไวรัสมาอีกที โดยเริ่มต้นจากเมืองอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน อันตรายที่ทำให้เสี่ยงถึงชีวิต จะเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิต้านทานโรคของเราไม่แข็งแรง หรือเชื้อ ไวรัสเข้าไปทำลายการทำงานของปอด โดยเชื้อไวรัสจะแพร่กระจายลุกลามอย่างรวดเร็วและเพิ่มมากขึ้นจนทำให้ปอดเกิดการเสียหายและสุญเสียการทำงานหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจะทำให้ผู้ป่วย เสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว
องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ได้ประกาศให้การระบาดนี้เป็น ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ ในวันที่ 30 มกราคม พ.ศ.2563 และประกาศให้เป็นโรค ระบาดทั่วไป ในวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2563 และวันที่ 15 มกราคม 2564 มีผู้ติดเชื้อยืนยันแพร่กระจายเป็นวงกว้าง ทุกทวีป ทั่วโลก หรือ Pandemic
ประเทศไทยพบผู้ป่วยรายแรก เมื่อวันที่ 15 ม.ค.63 กลับมาจากต่างประเทศ
31 ม.ค.63 ไทยรายงานผู้ป่วยที่ติดเชื้อในประเทศไทย รายแรก(คนขับ Taxi)
26 ก.พ.63 กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เป็นโรคติดต่ออันตราย
25 มี.ค.63 นายกฯประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฉบับแรก ต่อจากนั้นพบมีการระบาดเรื่อยมา จนกระทั่งระบาดหนักที่สุดทั้งประเทศ ในเดือน เมษายน 2564 จนกระทั่งถึงเดือน มกราคม 2565 เป็นต้นมา
เขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโคกยาพบผู้ป่วยรายแรก เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 เพศหญิงอายุ 31 ปี อาชีพพนักงานบริษัทต่อจากนั้น พบการระบาดเรื่อยมา เป็นกลุ่มก้อน ละแวกบ้าน กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มวัยทำงาน และการระบาดลงสู่ครัวเรือนเดือนกุมภาพันธ์ -มีนาคม 2565 พบการระบาดมากที่สุดรวมทั้งในภาพรวมของอำเภอและจังหวัด ส่งผลกระทบทุกภาคส่วนเป็นวงกว้าง โดยจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 ในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโคกยาทั้งหมด 558/ประชากรทั้งหมด 2740 คิดเป็นอัตราป่วย 20364.96/แสนประชากร นับเป็นอัตราป่วยที่สูง
โรคโควิด-19 มีการแพร่เชื้อระหว่างคนในลักษณะเดียวกับไข้หวัดใหญ่โดยผ่านการติดเชื้อจาก ละอองเสมหะ จากการไอ ระยะเวลาระหว่างการสัมผัสเชื้อและเริ่มมีอาการ โดยทั่วไปแล้วอยู่ที่ 5 วัน แต่มีช่วงอยู่ระหว่าง 2 ถึง 14 วัน อาการที่พบบ่อยได้แก่ มีไข้ ไอ และหายใจลำบาก ภาวะแทรกซ้อน อาจรวมไปถึงปอดบวม และกลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน โดยยังไม่มีวัคซีน ที่ได้รับอนุญาตหรือ ยาต้านไวรัสจำเพาะ แต่กำลังมีการวิจัยอยู่ขณะนี้ การรักษาจึงพยายามมุ่งเป้าไปที่การจัดการกับอาการ และการรักษาแบบประคับประคอง มาตรการป้องกันที่มีการแนะนำคือการสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ การอยู่ห่างจากบุคคลอื่น (โดยเฉพาะกับบุคคลที่ป่วย) ติดตามอาการ และกักตนเองเป็นเวลา 14 วัน ในกรณีที่สงสัยว่าตนอาจติดเชื้อ
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโคกยาตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกัน ควบคุมโรค และเสริมสร้างความรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยการสร้างเครือข่ายการทำงาน ที่มีคุณภาพ เข้าถึงเร็ว ควบคุมเร็ว ในทุกเขตและพื้นที่ รวมถึงการใช้มาตรการตอบโต้สถานการณ์ที่รวดเร็ว ฉับไว และการสร้างความรู้ความร่วมมือในการดูแลตนเอง ครอบครัว และชุมชน ในการควบคุมป้องกันโรค ด้วยหลัก Universal Prevention เป็นหลักครอบจักรวาลที่ได้ผลมากที่สุด การเฝ้าระวังตรวจจับคัดกรองผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง การกระตุ้นให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน เข็มกระตุ้น (Booster Dose) ให้ได้มากกว่าร้อยละ 60 และการเฝ้าระวังดูแลกลุ่มเปราะบาง เพื่อลดอัตราป่วยและเสียชีวิต และพร้อมที่จะก้าวไปสู่ระยะของการเปลี่ยนผ่านไปสู่โรคประจำถิ่นอย่างปลอดภัย(เนื่องจากงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนในการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันในการปฏิบัติควบคุมโรคจาก Cupไม่เพียงพอ)
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- 1.เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ในการควบคุมป้องกันโรค
- 2.เพื่อลดอัตราป่วยด้วยโรคโควิด-19
- 3.เสริมสร้างพลังและความเข้มแข็งของชุมชนในการควบคุมป้องกันโรคและเพื่อสร้างการดำเนินชีวิตแบบใหม่ New Normal Life
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- 1ประชุมให้ความรู้แกนนำ ภาคีเครือข่าย
- 2.ประชุมทีม SRRT ระดับตำบล วางแผน การทำงาน
- 3.ประชุมทีม เพื่อเยี่ยมติดตามกลุ่มเสี่ยง/กลุ่มป่วย 2 ครั้ง
- 4.ประชุมให้ความรู้ทีม SRRT ตำบลเพื่อสรุปผลและวางแผนแก้ไขการทำงาน จำนวน 2 ครั้ง
- 5.กิจกรรมทำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.อัตราป่วยด้วยโรคโควิด-19 ลดลง
2.ประชาชนมีความรู้ในการป้องกันตนเองที่ถูกต้อง
3.มีมาตรการการป้องกันโรคในชุมชนที่เข้มแข็งและยั่งยืน
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ ผลผลิต* ผลผลิตที่ตั้งไว้ ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ สถานการณ์ เป้าหมาย ผลผลิต อธิบาย
1
1.เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ในการควบคุมป้องกันโรค
ตัวชี้วัด : ๑.ประชาชนมีความรู้และปฏิบัติตนได้ถูกต้องตามมาตรการ Universal Prevention ร้อยละ 95
0.00
0.00
2
2.เพื่อลดอัตราป่วยด้วยโรคโควิด-19
ตัวชี้วัด : ๒.ประชาชนได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นมากกว่าร้อยละ 60
0.00
3
3.เสริมสร้างพลังและความเข้มแข็งของชุมชนในการควบคุมป้องกันโรคและเพื่อสร้างการดำเนินชีวิตแบบใหม่ New Normal Life
ตัวชี้วัด : 3.ลดอัตราป่วยลง 50% จากอัตราป่วยของปีที่
ผ่านมา
0.00
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
0
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
-
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
-
กลุ่มวัยทำงาน
-
กลุ่มผู้สูงอายุ
-
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
-
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
-
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
-
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
-
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
-
บทคัดย่อ*
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค สาเหตุ ข้อเสนอแนะ
ส่วนที่ 3 ประเมินคุณค่าโครงการ
โครงการเครือข่ายชุมชนเข้มแข็ง ป้องกันภัยโรคโควิด-19 รพ.สต.บ้านโคกยา จังหวัด พัทลุง
รหัสโครงการ 2565-L3310-1-
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
................................
( นายพงษ์ศักดิ์ เผือกสม )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.เขาชัยสน
“ โครงการเครือข่ายชุมชนเข้มแข็ง ป้องกันภัยโรคโควิด-19 รพ.สต.บ้านโคกยา ”
ตำบลเขาชัยสน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุงหัวหน้าโครงการ
นายพงษ์ศักดิ์ เผือกสม
ชื่อโครงการ โครงการเครือข่ายชุมชนเข้มแข็ง ป้องกันภัยโรคโควิด-19 รพ.สต.บ้านโคกยา
ที่อยู่ ตำบลเขาชัยสน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง จังหวัด พัทลุง
รหัสโครงการ 2565-L3310-1- เลขที่ข้อตกลง 12/2565
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ ถึง
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการเครือข่ายชุมชนเข้มแข็ง ป้องกันภัยโรคโควิด-19 รพ.สต.บ้านโคกยา จังหวัดพัทลุง" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลเขาชัยสน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.เขาชัยสน ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการเครือข่ายชุมชนเข้มแข็ง ป้องกันภัยโรคโควิด-19 รพ.สต.บ้านโคกยา
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการเครือข่ายชุมชนเข้มแข็ง ป้องกันภัยโรคโควิด-19 รพ.สต.บ้านโคกยา " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลเขาชัยสน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง รหัสโครงการ 2565-L3310-1- ระยะเวลาการดำเนินงาน ยังไม่ระบุ - (ยังไม่ระบุ) ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 23,540.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล อบต.เขาชัยสน เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกในชุมชนจำนวน 0 คน หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ | |
บทคัดย่อ | |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล | |
วัตถุประสงค์โครงการ | |
กิจกรรม/การดำเนินงาน | |
กลุ่มเป้าหมาย | |
ผลลัพธ์ที่ได้ | |
การประเมินผล | |
ปัญหาและอุปสรรค | |
ข้อเสนอแนะ | |
เอกสารประกอบอื่นๆ |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019(COVID-19) ที่ กำลังระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ จัดอยู่ในกลุ่มเชื้อไวรัสโคโรนาซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่มีรูปร่างคล้ายมงกุฎ พบครั้งแรกกลางทศวรรษที่ 1960 แต่ยังไม่ทราบแหล่งที่มาอย่างชัดเจนว่ามาจากที่ใด เป็นไวรัสที่ สามารถติดเชื้อได้ทั้งในมนุษย์และสัตว์ ปัจจุบันมีการค้นพบไวรัสสายพันธุ์นี้แล้วทั้งหมด 6 สายพันธุ์ ส่วนสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดหนักทั่วโลกตอนนี้เป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยพบมาก่อน คือ สายพันธุ์ที่ 7 จึงถูกเรียกว่าเป็น “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019” และในภายหลังถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019(COVID-19)) เริ่มต้นขึ้น ในเดือนธันวาคม พ.ศ.2562 แรกเริ่ม ถูกค้นพบจากสัตว์ โดยเป็นสัตว์ทะเลที่มีการติดเชื้อไวรัสนี้แล้วคนที่ อยู่ใกล้ชิดคลุกคลีกับสัตว์เหล่านี้ก็ติดเชื้อไวรัสมาอีกที โดยเริ่มต้นจากเมืองอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน อันตรายที่ทำให้เสี่ยงถึงชีวิต จะเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิต้านทานโรคของเราไม่แข็งแรง หรือเชื้อ ไวรัสเข้าไปทำลายการทำงานของปอด โดยเชื้อไวรัสจะแพร่กระจายลุกลามอย่างรวดเร็วและเพิ่มมากขึ้นจนทำให้ปอดเกิดการเสียหายและสุญเสียการทำงานหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจะทำให้ผู้ป่วย เสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว
องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ได้ประกาศให้การระบาดนี้เป็น ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ ในวันที่ 30 มกราคม พ.ศ.2563 และประกาศให้เป็นโรค ระบาดทั่วไป ในวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2563 และวันที่ 15 มกราคม 2564 มีผู้ติดเชื้อยืนยันแพร่กระจายเป็นวงกว้าง ทุกทวีป ทั่วโลก หรือ Pandemic
ประเทศไทยพบผู้ป่วยรายแรก เมื่อวันที่ 15 ม.ค.63 กลับมาจากต่างประเทศ
31 ม.ค.63 ไทยรายงานผู้ป่วยที่ติดเชื้อในประเทศไทย รายแรก(คนขับ Taxi)
26 ก.พ.63 กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เป็นโรคติดต่ออันตราย
25 มี.ค.63 นายกฯประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฉบับแรก ต่อจากนั้นพบมีการระบาดเรื่อยมา จนกระทั่งระบาดหนักที่สุดทั้งประเทศ ในเดือน เมษายน 2564 จนกระทั่งถึงเดือน มกราคม 2565 เป็นต้นมา
เขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโคกยาพบผู้ป่วยรายแรก เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 เพศหญิงอายุ 31 ปี อาชีพพนักงานบริษัทต่อจากนั้น พบการระบาดเรื่อยมา เป็นกลุ่มก้อน ละแวกบ้าน กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มวัยทำงาน และการระบาดลงสู่ครัวเรือนเดือนกุมภาพันธ์ -มีนาคม 2565 พบการระบาดมากที่สุดรวมทั้งในภาพรวมของอำเภอและจังหวัด ส่งผลกระทบทุกภาคส่วนเป็นวงกว้าง โดยจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 ในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโคกยาทั้งหมด 558/ประชากรทั้งหมด 2740 คิดเป็นอัตราป่วย 20364.96/แสนประชากร นับเป็นอัตราป่วยที่สูง
โรคโควิด-19 มีการแพร่เชื้อระหว่างคนในลักษณะเดียวกับไข้หวัดใหญ่โดยผ่านการติดเชื้อจาก ละอองเสมหะ จากการไอ ระยะเวลาระหว่างการสัมผัสเชื้อและเริ่มมีอาการ โดยทั่วไปแล้วอยู่ที่ 5 วัน แต่มีช่วงอยู่ระหว่าง 2 ถึง 14 วัน อาการที่พบบ่อยได้แก่ มีไข้ ไอ และหายใจลำบาก ภาวะแทรกซ้อน อาจรวมไปถึงปอดบวม และกลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน โดยยังไม่มีวัคซีน ที่ได้รับอนุญาตหรือ ยาต้านไวรัสจำเพาะ แต่กำลังมีการวิจัยอยู่ขณะนี้ การรักษาจึงพยายามมุ่งเป้าไปที่การจัดการกับอาการ และการรักษาแบบประคับประคอง มาตรการป้องกันที่มีการแนะนำคือการสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ การอยู่ห่างจากบุคคลอื่น (โดยเฉพาะกับบุคคลที่ป่วย) ติดตามอาการ และกักตนเองเป็นเวลา 14 วัน ในกรณีที่สงสัยว่าตนอาจติดเชื้อ
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโคกยาตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกัน ควบคุมโรค และเสริมสร้างความรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยการสร้างเครือข่ายการทำงาน ที่มีคุณภาพ เข้าถึงเร็ว ควบคุมเร็ว ในทุกเขตและพื้นที่ รวมถึงการใช้มาตรการตอบโต้สถานการณ์ที่รวดเร็ว ฉับไว และการสร้างความรู้ความร่วมมือในการดูแลตนเอง ครอบครัว และชุมชน ในการควบคุมป้องกันโรค ด้วยหลัก Universal Prevention เป็นหลักครอบจักรวาลที่ได้ผลมากที่สุด การเฝ้าระวังตรวจจับคัดกรองผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง การกระตุ้นให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน เข็มกระตุ้น (Booster Dose) ให้ได้มากกว่าร้อยละ 60 และการเฝ้าระวังดูแลกลุ่มเปราะบาง เพื่อลดอัตราป่วยและเสียชีวิต และพร้อมที่จะก้าวไปสู่ระยะของการเปลี่ยนผ่านไปสู่โรคประจำถิ่นอย่างปลอดภัย(เนื่องจากงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนในการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันในการปฏิบัติควบคุมโรคจาก Cupไม่เพียงพอ)
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- 1.เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ในการควบคุมป้องกันโรค
- 2.เพื่อลดอัตราป่วยด้วยโรคโควิด-19
- 3.เสริมสร้างพลังและความเข้มแข็งของชุมชนในการควบคุมป้องกันโรคและเพื่อสร้างการดำเนินชีวิตแบบใหม่ New Normal Life
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- 1ประชุมให้ความรู้แกนนำ ภาคีเครือข่าย
- 2.ประชุมทีม SRRT ระดับตำบล วางแผน การทำงาน
- 3.ประชุมทีม เพื่อเยี่ยมติดตามกลุ่มเสี่ยง/กลุ่มป่วย 2 ครั้ง
- 4.ประชุมให้ความรู้ทีม SRRT ตำบลเพื่อสรุปผลและวางแผนแก้ไขการทำงาน จำนวน 2 ครั้ง
- 5.กิจกรรมทำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้ | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | ||
กลุ่มวัยทำงาน | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.อัตราป่วยด้วยโรคโควิด-19 ลดลง
2.ประชาชนมีความรู้ในการป้องกันตนเองที่ถูกต้อง
3.มีมาตรการการป้องกันโรคในชุมชนที่เข้มแข็งและยั่งยืน
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์** กิจกรรมของโครงการ | ผลผลิต* | |
---|---|---|
ผลผลิตที่ตั้งไว้ | ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง |
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ | สถานการณ์ | เป้าหมาย | ผลผลิต | อธิบาย | |
---|---|---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ในการควบคุมป้องกันโรค ตัวชี้วัด : ๑.ประชาชนมีความรู้และปฏิบัติตนได้ถูกต้องตามมาตรการ Universal Prevention ร้อยละ 95 |
0.00 | 0.00 | ||
2 | 2.เพื่อลดอัตราป่วยด้วยโรคโควิด-19 ตัวชี้วัด : ๒.ประชาชนได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นมากกว่าร้อยละ 60 |
0.00 | |||
3 | 3.เสริมสร้างพลังและความเข้มแข็งของชุมชนในการควบคุมป้องกันโรคและเพื่อสร้างการดำเนินชีวิตแบบใหม่ New Normal Life ตัวชี้วัด : 3.ลดอัตราป่วยลง 50% จากอัตราป่วยของปีที่ ผ่านมา |
0.00 |
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
---|---|---|---|
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด | 0 | ||
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | |||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | - | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | - | ||
กลุ่มวัยทำงาน | - | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | - | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | |||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | - | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | - | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | - | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | - | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] | - |
บทคัดย่อ*
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค | สาเหตุ | ข้อเสนอแนะ |
---|---|---|
ส่วนที่ 3 ประเมินคุณค่าโครงการ
โครงการเครือข่ายชุมชนเข้มแข็ง ป้องกันภัยโรคโควิด-19 รพ.สต.บ้านโคกยา จังหวัด พัทลุง
รหัสโครงการ 2565-L3310-1-
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
( นายพงษ์ศักดิ์ เผือกสม )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......