แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์
รายงานฉบับสมบูรณ์
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.กำแพง
“ โครงการชุมชนปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน ”
ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล
หัวหน้าโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการชุมชนปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน
ที่อยู่ ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 2561 - L8010 - 2 - 07 เลขที่ข้อตกลง
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน 2560 ถึง 30 กันยายน 2561
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการชุมชนปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน จังหวัดสตูล" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.กำแพง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการชุมชนปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน
บทคัดย่อ
โครงการชุมชนปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน โดยการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.) เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านค้า แกนนำนักเรียน และผู้บริโภคมีความรู้ และเข้าใจถึงอันตรายของกล่อมโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ 2.) เพื่อให้ร้านจำหน่ายอาหารในชุมชนและโรงอาหารในโรงเรียนเป็นร้านค้าที่ปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ และ 3.) เพื่อให้เกิดหมู่บ้านต้นแบบ ปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ ผลการดำเนินโครงการพบว่า
การขับเคลื่อนการรณรงค์ในชุมชน ลด ละ เลิก การใช้โฟมและน้ำมันทอดซ้ำ หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน ได้ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน เพื่อร่วมกันวางแผนการดำเนินงาน ร่วมกันลงพื้นที่สำรวจร้านค้าและตรวจน้ำมันทอดซ้ำตามร้านค้าที่จำหน่ายอาหารในชุมชน พร้อมทั้งหาแนวทางในการแก้ไข ป้องกัน เพื่อไม่ให้ร้านค้าในชุมชนกลับมาใช้โฟม หรือน้ำมันที่ใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำ โดยกิจกรรมตามโครงการได้ดำเนินกิจกรรมดังนี้
กิจกรรมอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของกล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ผู้ประกอบการร้านค้า แกนนำนักเรียน แกนนำผู้บริโภค ร้านค้า จำนวน 115 คน โดยใช้แบบทดสอบก่อน-หลังอบรม จำนวน 12 ข้อ พบว่า ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมผู้เข้าร่วมมีคะแนนต่ำกว่า 6 คะแนน จำนวน 68 คน คิดเป็นร้อยละ 59.13 คะแนนมากกว่า 6 คะแนน จำนวน 47 คน คิดเป็นร้อยละ 40.90 และหลังการดำเนินกิจกรรมอบรมให้ความรู้ ผู้เข้าร่วมอบรมผ่านเกณฑ์ได้คะแนนมากกว่า 6 คะแนน จำนวน 98 คน คิดเป็นร้อยละ 85.22 ซึ่งผ่านตัวชี้วัดที่ตั้งไว้ หลักจากดำเนินกิจกรรมอบรมให้ความรู้แล้ว คณะกรรมการขับเคลื่อนในชุมชนได้จัดกิจกรรมเดินรณรงค์ในชุมชน ลด ละ เลิก กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ โดยกลุ่มเป้าหมายได้แก่ แกนนำนักเรียนและคณะกรรมการขับเคลื่อน เดินรณรงค์ ประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำแก่ร้านค้า และประชาชนในชุมชน เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักและให้ความสำคัญผลกระทบต่อสุขภาพ
กิจกรรมตรวจน้ำมันทอดซ้ำร้านค้า โรงอาหารในโรงเรียนในเขตหมู่ที่ 1 จำนวน 30 ร้าน โดยร้านค้าที่ใช้น้ำมันในการปรุงอาหารจำนวน 16 ร้าน และร้านที่ขายอาหารตามสั่ง ข้าวแกง ลูกชิ้นทอด เป็นต้น จำนวน 14 ร้าน โดยสุ่มตรวจร้านค้าจำนวน 3 ครั้ง พบว่า ร้านค้าที่ใช้น้ำมันในการปรุงอาหารส่วนใหญ่ ได้แก่ น้ำมันรินทิพย์ น้ำมันล้อเขียว น้ำมันยี่ห้อผึ้ง เป็นต้น ซึ่งจากการตรวจสารโพลาร์ในน้ำมันที่ผ่านการใช้แล้ว จำนวน 16 ร้านค้า โดยมีการแปลผลังนี้
ค่าสารโพลาห์อยู่ในช่วง 9-20% เป็นน้ำมันที่ใช้ได้
ค่าสารโพลาห์ไม่เกิน 24% เป็นน้ำมันที่ยังใช้ได้ ไม่ควรเติมน้ำมันใหม่เพิ่มลงไป
ค่าสารโพลาห์ไม่เกิน 25% เป็นน้ำมันที่ยังใช้ได้ ไม่ควรเติมน้ำมันใหม่เพิ่มลงไป
ค่าสารโพลาห์มากกว่า 25% เป็นน้ำมันที่เสื่อมสภาพแล้ว ไม่ควรใช้
ครั้งที่ 1 ค่าสารโพลาห์อยู่ในช่วง 9-20% จำนวน 12 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 75.00 และสารโพลาร์ 24% จำนวน 4 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 25.00
ครั้งที่ 2 ค่าสารโพลาห์อยู่ในช่วง 9-20% จำนวน 15 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 93.75 และสารโพลาร์ 24% จำนวน 1 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 6.25
ครั้งที่ 3 ค่าสารโพลาห์อยู่ในช่วง 9-20% จำนวน 16 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 100
สำหรับร้านค้าที่ใช้ภาชนะโฟมในการบรรจุอาหาร ในการลงตรวจครั้งที่ 1 มีจำนวน 1 ร้าน คณะทำงานและเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำ ทางผู้ประกอบการได้แจ้งว่า ถ้าใช้ภาชนะอย่างอื่นอาจมีราคาแพงและไม่เหมาะสมกับราคาที่ขาย ทำให้ต้องใช้ทุนเยอะ จากการลงตรวจร้านค้าครั้งที่ 2 ก็พบว่าผู้ประกอบการยังใช้โฟมบรรจุอาหารอยู่บ้าง โดยแจ้งว่ายังเหลือภาชนะโฟมที่ใช้บรรจุอาหารอยู่อีก ขอใช้ให้หมดก่อนจึงจะเปลี่ยนเป็นภาชนะอย่างอื่นที่ไม่ใช่โฟม และการลงตรวจครั้งที่ 3 พบว่าผู้ประกอบการเลิกใช้ภาชนะโฟมและใช้ภาชนะอย่างอื่นแทน
การติดตามผลจากการลงพื้นที่ตรวจแล้ว คณะกรรมการขับเคลื่อนได้ลงติดตามร้านค้าในชุมชนและโรงอาหารในโรงเรียน พบว่า ผู้ประกอบการร้านค้าเลิกใช้กล่องโฟมและไม่นำน้ำมันทอดซ้ำที่ใช้แล้วเกิน 2 ครั้ง มาใช้ซ้ำ และคณะกรรมการขับเคลื่อนได้มอบป้าย "ร้านค้าปลอดโพมและน้ำมันทอดซ้ำ" ให้แก่ร้านค้าที่ผ่านการตรวจประเมิน เพื่อให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ เพื่อสุขภาพที่ดีของคนในชุมชน
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ
บทคัดย่อ
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
วัตถุประสงค์โครงการ
กิจกรรม/การดำเนินงาน
กลุ่มเป้าหมาย
ผลลัพธ์ที่ได้
การประเมินผล
ปัญหาและอุปสรรค
ข้อเสนอแนะ
เอกสารประกอบอื่นๆ
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
ในยุคสมัยที่คนเราเร่งรีบ รักความสะดวกสบาย หลายคนคงเคยชินกับการรับประทานอาหารกล่อง อาหารสำเร็จรูป เพราะสะดวก รวดเร็ว ประหยัด หาซื้อได้ง่าย โดยลืมคำนึงถึงสุขภาพ และด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาแพงขึ้น ทำให้พ่อค้าแม่ขายต้องปรับตัวหาวิถีทางที่จะลดต้นทุน เพื่อให้ได้กำไรที่มากขึ้น อีกทั้งคนส่วนใหญ่ เน้น “อิ่ม-ถูก-เร็ว” ส่งผลให้อาหารประเภทข้าวกล่องแกงถุง กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆที่ผู้คนให้ความสนใจในชีวิตประจำวัน โดยละเลยอันตรายต่อสุขภาพที่แฝงมากับวัสดุที่ใช้บรรจุอาหาร
กล่องโฟม เป็นผลิตภัณฑ์ชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาใช้บรรจุอาหารเมื่อนำมาใช้บรรจุอาหารร้อนและอาหารทอด น้ำมันจากอาหารจะเกิดปฏิกิริยากับโฟม ทำให้เกิดสารอันตรายปะปนออกมากับอาหาร สารเหล่านี้ ได้แก่ สารสไตรีน (styrene) และสารเบนซิน (benzene) สารสไตรีนที่เกิดขึ้นจะมีผลเสียต่อร่างกาย คือ ทำลายระบบฮอร์โมนในร่างกาย มีผลต่อระบบประสาท เม็ดเลือดแดง ตับและไต เมื่อถูกผิวหนังหรือเข้าตาหรือสูดดมเข้าไป ทำให้เยื่อเมือกเกิดการระคายเคือง มีอาการไอและหายใจลำบาก ปวดศีรษะ ง่วงซึม สำหรับสารเบนซิน จัดเป็นสารก่อมะเร็งซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้สูดดมหรือรับประทานเข้าไป ในระยะแรกทำให้วิงเวียน คลื่นไส้หรือมีอาการปวดท้อง เนื่องจากกระเพาะถูกกัดกร่อน เวียนศีรษะ อาเจียน ง่วงนอน ชัก หัวใจเต้นแรงและอาจเสียชีวิตได้ การได้รับสารเบนซินเป็นเวลานานจะมีผลทำให้โลหิตจาง (Anemia) เนื่องจากสารเบนซินจะเข้าไปทำลายไขกระดูก ทำให้จำนวนเม็ดเลือดแดงลดลงและทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ยังมีอาหารประเภทที่ใช้น้ำมันในการทอดและเป็นอาหารยอดนิยม ปัจจุบันคนไทยบริโภคน้ำมันสูงถึงประมาณ 1,000 ล้านลิตรต่อไป มีน้ำมันเหลือจากการทอดประมาณ 250-300 ล้านลิตรต่อปี และน้ำมันที่เหลือนี้เป็นต้นทางของ “น้ำมันทอดซ้ำ”แม้ในปัจจุบันคนไทยได้รับรู้ถึงพิษภัยของน้ำมันทอดซ้ำอย่างกว้างขวางแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างสิ้นเชิงเนื่องจากยังมีผู้ประกอบการบางรายนำน้ำมันที่ใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำอย่างไม่เหมาะสม อันตรายของน้ำมันทอดซ้ำ น้ำมันที่ได้รับความร้อนสูงซ้ำแล้วซ้ำอีกจะมีการเสื่อมสภาพเปลี่ยนเป็นสารประกอบที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ เช่น สารโพลาร์ ก่อให้เกิดความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ สารโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (ในควันที่เกิดจากน้ำมันทอดซ้ำ) ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ ทั้งนี้สารดังกล่าวจะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนครั้งที่มีการทอดซ้ำ ฉะนั้นผู้ปรุงอาหารควรหลีกเลี่ยงอันตรายจากน้ำมันทอดซ้ำ เช่น คาดผ้าปิดจมูกป้องกันไอระเหยของน้ำมัน ในครัวเรือนไม่ควรใช้น้ำมันทอดซ้ำเกิน 2 ครั้ง ส่วนผู้ประกอบการควรเปลี่ยนน้ำมันให้บ่อยขึ้น ไม่ใช้ความร้อนสูงเกินไปในการทอด และหยุดให้ความร้อนทันทีหลังทอดอาหารเสร็จ เป็นต้นซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บริโภคต้องตระหนักและดูแลสุขภาพของตนเอง โดยหยุดบริโภคอาหารจากร้านค้าที่ผู้ประกอบการใช้กล่องโฟมบรรจุอาหาร แล้วหันมาบริโภคอาหารที่บรรจุในภาชนะทดแทนโฟมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันได้มีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ชานอ้อย เยื่อไผ่ มันสำปะหลัง ซึ่งทนต่อความร้อน ใช้กับอาหารที่มีไขมัน และอุ่นอาหารในไมโครเวฟได้ ย่อยสลายเร็วภายใน45 วันก็ย่อยสลายหมดแล้ว แตกต่างจากโฟมที่ต้องใช้เวลามากกว่า450ปี จึงจะย่อยสลายได้หมด หรือใช้ปิ่นโตใส่อาหาร ซึ่งอาจไม่สะดวกในการพกพาแต่สามารถล้างทำความสะอาดแล้วนำกลับมาใช้ซ้ำได้สำหรับพื้นที่ หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน ตำบลกำแพงมีจำนวนประชากรจำนวนมากและเป็นพื้นที่กว้างขวาง รวมทั้งมีร้านจำหน่ายอาหารในชุมชนจำนวน 14 ร้าน มีทั้งร้านอาหารตามสั่ง และแผงลอย ที่อยู่ในชุมชน ส่วนใหญ่ยังใช้กล่องโฟมในการบรรจุอาหาร และขายอาหารประเภททอด
จากปัญหาดังกล่าวข้างต้น อาสาสมัครสาธารณสุข หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน จึงได้มีการรณรงค์ลด ละ เลิก การใช้กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำในชุมชน โดยมีการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากการใช้กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ แก่ร้านค้าในชุมชน แกนนำผู้บริโภคในชุมชน และแกนนำนักเรียนดำเนินการตรวจน้ำมันทอดซ้ำในร้านจำหน่ายอาหาร พร้อมทั้งให้คำแนะนำจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและมอบป้าย“ร้านค้าปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ” แก่ร้านค้าที่ผ่านการตรวจประเมิน
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- 1 เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านค้า แกนนำนักเรียน และผู้บริโภคมีความรู้ และเข้าใจถึงอันตรายของกล่อมโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ
- 2 เพื่อให้ร้านจำหน่ายอาหารในชุมชนและโรงอาหารในโรงเรียนเป็นร้านค้าที่ปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ
- 3 เพื่อให้เกิดหมู่บ้านต้นแบบ ปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- กิจกรรมประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการรณรงค์ในชุมชน ลด ละ เลิก การใช้โฟมและน้ำมันทอดซ้ำ(จำนวน 2 ครั้ง)
- กิจกรรมอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากการใช้กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ แก่ร้านค้าในชุมชน แกนนำผู้บริโภคในชุมชน และแกนนำนักเรียน
- กิจกรรมตรวจน้ำมันทอดซ้ำในร้านจำหน่ายอาหาร และโรงอาหารร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
- กิจกรรมติดตามผล
- กิจกรรมมอบป้าย “ร้านค้าปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ” แก่ร้านค้าที่ผ่านการตรวจประเมิน
- กิจกรรมสรุปผลการดำเนินงานโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- ผู้ประกอบการร้านค้า แกนนำนักเรียน และผู้บริโภคในชุมชนมีความรู้ และเข้าใจถึงอันตรายของกล่อมโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ
- ร้านจำหน่ายอาหารในชุมชนเป็นร้านค้าปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ
- เกิดหมู่บ้านต้นแบบลด ละ เลิก กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ ผลผลิต* ผลผลิตที่ตั้งไว้ ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง
1. กิจกรรมตรวจน้ำมันทอดซ้ำในร้านจำหน่ายอาหาร และโรงอาหารร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
วันที่ 1 กรกฎาคม 2561กิจกรรมที่ทำ
กิจกรรมที่ 3 ตรวจน้ำมันทอดซ้ำในร้านจำหน่ายอาหาร และโรงอาหารร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
- ตรวจ/แนะนำ ร้านค้าที่จำหน่ายอาหารแต่ละประเภทและโรงอาหารในโรงเรียน
- ทดสอบน้ำมันทอดซ้ำก่อน-หลังการใช้ จำนวน 3 ครั้งและกรณีร้านค้าที่ยังไม่ผ่านการตรวจก็ดำเนินการลงตรวจซ้ำอีก
- น้ำมันที่เหลือจากการใช้แล้วเก็บรวบรวมจำหน่ายต่อไป
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
กิจกรรมตรวจน้ำมันทอดซ้ำร้านค้า โรงอาหารในโรงเรียนในเขตหมู่ที่ 1 จำนวน 30 ร้าน โดยร้านค้าที่ใช้น้ำมันในการปรุงอาหารจำนวน 16 ร้าน และร้านที่ขายอาหารตามสั่ง ข้าวแกง ลูกชิ้นทอด เป็นต้น จำนวน 14 ร้าน โดยสุ่มตรวจร้านค้าจำนวน 3 ครั้ง พบว่า ร้านค้าที่ใช้น้ำมันในการปรุงอาหารส่วนใหญ่ ได้แก่ น้ำมันรินทิพย์ น้ำมันล้อเขียว น้ำมันยี่ห้อผึ้ง เป็นต้น ซึ่งจากการตรวจสารโพลาร์ในน้ำมันที่ผ่านการใช้แล้ว จำนวน 16 ร้านค้า โดยมีการแปลผลังนี้
ค่าสารโพลาห์อยู่ในช่วง 9-20% เป็นน้ำมันที่ใช้ได้
ค่าสารโพลาห์ไม่เกิน 24% เป็นน้ำมันที่ยังใช้ได้ ไม่ควรเติมน้ำมันใหม่เพิ่มลงไป
ค่าสารโพลาห์ไม่เกิน 25% เป็นน้ำมันที่ยังใช้ได้ ไม่ควรเติมน้ำมันใหม่เพิ่มลงไป
ค่าสารโพลาห์มากกว่า 25% เป็นน้ำมันที่เสื่อมสภาพแล้ว ไม่ควรใช้
ครั้งที่ 1 ค่าสารโพลาห์อยู่ในช่วง 9-20% จำนวน 12 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 75.00 และสารโพลาร์ 24% จำนวน 4 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 25.00
ครั้งที่ 2 ค่าสารโพลาห์อยู่ในช่วง 9-20% จำนวน 15 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 93.75 และสารโพลาร์ 24% จำนวน 1 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 6.25
ครั้งที่ 3 ค่าสารโพลาห์อยู่ในช่วง 9-20% จำนวน 16 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 100
สำหรับร้านค้าที่ใช้ภาชนะโฟมในการบรรจุอาหาร ในการลงตรวจครั้งที่ 1 มีจำนวน 1 ร้าน คณะทำงานและเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำ ทางผู้ประกอบการได้แจ้งว่า ถ้าใช้ภาชนะอย่างอื่นอาจมีราคาแพงและไม่เหมาะสมกับราคาที่ขาย ทำให้ต้องใช้ทุนเยอะ จากการลงตรวจร้านค้าครั้งที่ 2 ก็พบว่าผู้ประกอบการยังใช้โฟมบรรจุอาหารอยู่บ้าง โดยแจ้งว่ายังเหลือภาชนะโฟมที่ใช้บรรจุอาหารอยู่อีก ขอใช้ให้หมดก่อนจึงจะเปลี่ยนเป็นภาชนะอย่างอื่นที่ไม่ใช่โฟม และการลงตรวจครั้งที่ 3 พบว่าผู้ประกอบการเลิกใช้ภาชนะโฟมและใช้ภาชนะอย่างอื่นแทน
30
0
2. กิจกรรมประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการรณรงค์ในชุมชน ลด ละ เลิก การใช้โฟมและน้ำมันทอดซ้ำ(จำนวน 2 ครั้ง)
วันที่ 3 สิงหาคม 2561กิจกรรมที่ทำ
กิจกรรมที่ 1 ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการรณรงค์ในชุมชน ลด ละ เลิก การใช้โฟมและน้ำมันทอดซ้ำ (จำนวน 2 ครั้ง)
คัดเลือกคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการ
สำรวจข้อมูลการใช้โฟมและน้ำมันทอดซ้ำในชุมชนและโรงเรียนเพิ่มเติม
ประชุม วิเคราะห์ข้อมูล จัดลำดับความสำคัญ และวางแผนการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนให้เป็นชุมชนปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ
รายงาน สรุป ผลการตรวจร้านค้าปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำในชุมชน เพื่อหาแนวทางและวางแผนการดำเนินต่อไป
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
การขับเคลื่อนการรณรงค์ในชุมชน ลด ละ เลิก การใช้โฟมและน้ำมันทอดซ้ำ หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน ได้ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน เพื่อร่วมกันวางแผนการดำเนินงาน ร่วมกันลงพื้นที่สำรวจร้านค้าและตรวจน้ำมันทอดซ้ำตามร้านค้าที่จำหน่ายอาหารในชุมชน พร้อมทั้งหาแนวทางในการแก้ไข ป้องกัน เพื่อไม่ให้ร้านค้าในชุมชนกลับมาใช้โฟม หรือน้ำมันที่ใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำ โดยกิจกรรมตามโครงการได้ดำเนินกิจกรรมดังนี้
20
0
3. กิจกรรมอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากการใช้กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ แก่ร้านค้าในชุมชน แกนนำผู้บริโภคในชุมชน และแกนนำนักเรียน
วันที่ 27 สิงหาคม 2561กิจกรรมที่ทำ
กิจกรรมที่ 2 อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากการใช้กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ แก่ร้านค้าในชุมชน แกนนำผู้บริโภคในชุมชน และแกนนำนักเรียน
2.1 อบรมให้ความรู้
- ให้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับกล่องโฟมบรรจุอาหาร อันตราย โทษ พิษภัย และผลกระทบต่อสุขภาพของกล่องโฟม
- ให้ความรู้เกี่ยวกับน้ำมันทอดซ้ำ อันตราย โทษ พิษภัย และผลกระทบต่อสุขภาพ
- สอน/สาธิต การทดสอบน้ำมันทอดซ้ำในอาหาร
- คืนข้อมูลเกี่ยวกับการใช้โฟมและน้ำมันทอดซ้ำให้ชุมชนและโรงเรียน
2.2 รณรงค์และประชาสัมพันธ์
- เดินรณรงค์ลด ละ เลิก กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำในชุมชน โดยกลุ่มแกนนำนักเรียนและคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ
- แจกแผ่นผับให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากกล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำแก่ประชาชนในชุมชน
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
กิจกรรมอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของกล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ผู้ประกอบการร้านค้า แกนนำนักเรียน แกนนำผู้บริโภค ร้านค้า จำนวน 115 คน โดยใช้แบบทดสอบก่อน-หลังอบรม จำนวน 12 ข้อ พบว่า ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมผู้เข้าร่วมมีคะแนนต่ำกว่า 6 คะแนน จำนวน 68 คน คิดเป็นร้อยละ 59.13 คะแนนมากกว่า 6 คะแนน จำนวน 47 คน คิดเป็นร้อยละ 40.90 และหลังการดำเนินกิจกรรมอบรมให้ความรู้ ผู้เข้าร่วมอบรมผ่านเกณฑ์ได้คะแนนมากกว่า 6 คะแนน จำนวน 98 คน คิดเป็นร้อยละ 85.22 ซึ่งผ่านตัวชี้วัดที่ตั้งไว้ หลักจากดำเนินกิจกรรมอบรมให้ความรู้แล้ว คณะกรรมการขับเคลื่อนในชุมชนได้จัดกิจกรรมเดินรณรงค์ในชุมชน ลด ละ เลิก กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ โดยกลุ่มเป้าหมายได้แก่ แกนนำนักเรียนและคณะกรรมการขับเคลื่อน เดินรณรงค์ ประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำแก่ร้านค้า และประชาชนในชุมชน เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักและให้ความสำคัญผลกระทบต่อสุขภาพ
115
0
4. กิจกรรมมอบป้าย “ร้านค้าปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ” แก่ร้านค้าที่ผ่านการตรวจประเมิน
วันที่ 11 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
- มอบป้าย “ร้านค้าปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ” ในเวทีทั่วไป เพื่อเป็นตัวอย่างและขวัญกำลังใจให้แก่ร้านค้า
- ประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรในที่สาธารณะ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนทั่วไปในพื้นที่ทราบ
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
คณะกรรมการขับเคลื่อนได้มอบป้าย "ร้านค้าปลอดโพมและน้ำมันทอดซ้ำ" ให้แก่ร้านค้าที่ผ่านการตรวจประเมิน เพื่อให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ เพื่อสุขภาพที่ดีของคนในชุมชน
30
0
5. กิจกรรมติดตามผล
วันที่ 20 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
- เยี่ยมติดตามร้านค้าและโรงอาหารที่ได้ตรวจแนะนำ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อตรวจสอบการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ประกอบการ
- สุ่มประเมินผลการใช้บริการของผู้บริโภค เปรียบเทียบก่อน-หลัง ดำเนินการ
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
การติดตามผลจากการลงพื้นที่ตรวจแล้ว คณะกรรมการขับเคลื่อนได้ลงติดตามร้านค้าในชุมชนและโรงอาหารในโรงเรียน พบว่า ผู้ประกอบการร้านค้าเลิกใช้กล่องโฟมและไม่นำน้ำมันทอดซ้ำที่ใช้แล้วเกิน 2 ครั้ง มาใช้ซ้ำ
30
0
6. กิจกรรมสรุปผลการดำเนินงานโครงการ
วันที่ 20 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
จัดทำรูปเล่มรายงาน
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
มีรูปเล่มรายงานฉบับสมบูรณ์
0
0
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ สถานการณ์ เป้าหมาย ผลผลิต อธิบาย
1
1 เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านค้า แกนนำนักเรียน และผู้บริโภคมีความรู้ และเข้าใจถึงอันตรายของกล่อมโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ
ตัวชี้วัด : - ผู้ประกอบการร้านค้า แกนนำนักเรียน และผู้บริโภคไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 มีความรู้ และเข้าใจถึงอันตรายของกล่อมโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ
80.00
2
2 เพื่อให้ร้านจำหน่ายอาหารในชุมชนและโรงอาหารในโรงเรียนเป็นร้านค้าที่ปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ
ตัวชี้วัด : - ร้อยละ 90 ร้านจำหน่ายอาหารในชุมชนและโรงอาหารในโรงเรียนเป็นร้านที่ปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ
90.00
3
3 เพื่อให้เกิดหมู่บ้านต้นแบบ ปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ
ตัวชี้วัด : - เกิดหมู่บ้านต้นแบบ ลด ละ เลิก กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำในชุมชน
100.00
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
0
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
-
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
-
กลุ่มวัยทำงาน
-
กลุ่มผู้สูงอายุ
-
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
-
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
-
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
-
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
-
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
-
บทคัดย่อ*
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค สาเหตุ ข้อเสนอแนะ
โครงการชุมชนปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 2561 - L8010 - 2 - 07
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
................................
( )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.กำแพง
“ โครงการชุมชนปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน ”
ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูลหัวหน้าโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการชุมชนปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน
ที่อยู่ ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 2561 - L8010 - 2 - 07 เลขที่ข้อตกลง
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน 2560 ถึง 30 กันยายน 2561
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการชุมชนปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน จังหวัดสตูล" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.กำแพง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการชุมชนปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน
บทคัดย่อ
โครงการชุมชนปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน โดยการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.) เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านค้า แกนนำนักเรียน และผู้บริโภคมีความรู้ และเข้าใจถึงอันตรายของกล่อมโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ 2.) เพื่อให้ร้านจำหน่ายอาหารในชุมชนและโรงอาหารในโรงเรียนเป็นร้านค้าที่ปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ และ 3.) เพื่อให้เกิดหมู่บ้านต้นแบบ ปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ ผลการดำเนินโครงการพบว่า
การขับเคลื่อนการรณรงค์ในชุมชน ลด ละ เลิก การใช้โฟมและน้ำมันทอดซ้ำ หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน ได้ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน เพื่อร่วมกันวางแผนการดำเนินงาน ร่วมกันลงพื้นที่สำรวจร้านค้าและตรวจน้ำมันทอดซ้ำตามร้านค้าที่จำหน่ายอาหารในชุมชน พร้อมทั้งหาแนวทางในการแก้ไข ป้องกัน เพื่อไม่ให้ร้านค้าในชุมชนกลับมาใช้โฟม หรือน้ำมันที่ใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำ โดยกิจกรรมตามโครงการได้ดำเนินกิจกรรมดังนี้
กิจกรรมอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของกล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ผู้ประกอบการร้านค้า แกนนำนักเรียน แกนนำผู้บริโภค ร้านค้า จำนวน 115 คน โดยใช้แบบทดสอบก่อน-หลังอบรม จำนวน 12 ข้อ พบว่า ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมผู้เข้าร่วมมีคะแนนต่ำกว่า 6 คะแนน จำนวน 68 คน คิดเป็นร้อยละ 59.13 คะแนนมากกว่า 6 คะแนน จำนวน 47 คน คิดเป็นร้อยละ 40.90 และหลังการดำเนินกิจกรรมอบรมให้ความรู้ ผู้เข้าร่วมอบรมผ่านเกณฑ์ได้คะแนนมากกว่า 6 คะแนน จำนวน 98 คน คิดเป็นร้อยละ 85.22 ซึ่งผ่านตัวชี้วัดที่ตั้งไว้ หลักจากดำเนินกิจกรรมอบรมให้ความรู้แล้ว คณะกรรมการขับเคลื่อนในชุมชนได้จัดกิจกรรมเดินรณรงค์ในชุมชน ลด ละ เลิก กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ โดยกลุ่มเป้าหมายได้แก่ แกนนำนักเรียนและคณะกรรมการขับเคลื่อน เดินรณรงค์ ประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำแก่ร้านค้า และประชาชนในชุมชน เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักและให้ความสำคัญผลกระทบต่อสุขภาพ
กิจกรรมตรวจน้ำมันทอดซ้ำร้านค้า โรงอาหารในโรงเรียนในเขตหมู่ที่ 1 จำนวน 30 ร้าน โดยร้านค้าที่ใช้น้ำมันในการปรุงอาหารจำนวน 16 ร้าน และร้านที่ขายอาหารตามสั่ง ข้าวแกง ลูกชิ้นทอด เป็นต้น จำนวน 14 ร้าน โดยสุ่มตรวจร้านค้าจำนวน 3 ครั้ง พบว่า ร้านค้าที่ใช้น้ำมันในการปรุงอาหารส่วนใหญ่ ได้แก่ น้ำมันรินทิพย์ น้ำมันล้อเขียว น้ำมันยี่ห้อผึ้ง เป็นต้น ซึ่งจากการตรวจสารโพลาร์ในน้ำมันที่ผ่านการใช้แล้ว จำนวน 16 ร้านค้า โดยมีการแปลผลังนี้
ค่าสารโพลาห์อยู่ในช่วง 9-20% เป็นน้ำมันที่ใช้ได้
ค่าสารโพลาห์ไม่เกิน 24% เป็นน้ำมันที่ยังใช้ได้ ไม่ควรเติมน้ำมันใหม่เพิ่มลงไป
ค่าสารโพลาห์ไม่เกิน 25% เป็นน้ำมันที่ยังใช้ได้ ไม่ควรเติมน้ำมันใหม่เพิ่มลงไป
ค่าสารโพลาห์มากกว่า 25% เป็นน้ำมันที่เสื่อมสภาพแล้ว ไม่ควรใช้
ครั้งที่ 1 ค่าสารโพลาห์อยู่ในช่วง 9-20% จำนวน 12 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 75.00 และสารโพลาร์ 24% จำนวน 4 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 25.00
ครั้งที่ 2 ค่าสารโพลาห์อยู่ในช่วง 9-20% จำนวน 15 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 93.75 และสารโพลาร์ 24% จำนวน 1 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 6.25
ครั้งที่ 3 ค่าสารโพลาห์อยู่ในช่วง 9-20% จำนวน 16 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 100
สำหรับร้านค้าที่ใช้ภาชนะโฟมในการบรรจุอาหาร ในการลงตรวจครั้งที่ 1 มีจำนวน 1 ร้าน คณะทำงานและเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำ ทางผู้ประกอบการได้แจ้งว่า ถ้าใช้ภาชนะอย่างอื่นอาจมีราคาแพงและไม่เหมาะสมกับราคาที่ขาย ทำให้ต้องใช้ทุนเยอะ จากการลงตรวจร้านค้าครั้งที่ 2 ก็พบว่าผู้ประกอบการยังใช้โฟมบรรจุอาหารอยู่บ้าง โดยแจ้งว่ายังเหลือภาชนะโฟมที่ใช้บรรจุอาหารอยู่อีก ขอใช้ให้หมดก่อนจึงจะเปลี่ยนเป็นภาชนะอย่างอื่นที่ไม่ใช่โฟม และการลงตรวจครั้งที่ 3 พบว่าผู้ประกอบการเลิกใช้ภาชนะโฟมและใช้ภาชนะอย่างอื่นแทน
การติดตามผลจากการลงพื้นที่ตรวจแล้ว คณะกรรมการขับเคลื่อนได้ลงติดตามร้านค้าในชุมชนและโรงอาหารในโรงเรียน พบว่า ผู้ประกอบการร้านค้าเลิกใช้กล่องโฟมและไม่นำน้ำมันทอดซ้ำที่ใช้แล้วเกิน 2 ครั้ง มาใช้ซ้ำ และคณะกรรมการขับเคลื่อนได้มอบป้าย "ร้านค้าปลอดโพมและน้ำมันทอดซ้ำ" ให้แก่ร้านค้าที่ผ่านการตรวจประเมิน เพื่อให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ เพื่อสุขภาพที่ดีของคนในชุมชน
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ | |
บทคัดย่อ | |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล | |
วัตถุประสงค์โครงการ | |
กิจกรรม/การดำเนินงาน | |
กลุ่มเป้าหมาย | |
ผลลัพธ์ที่ได้ | |
การประเมินผล | |
ปัญหาและอุปสรรค | |
ข้อเสนอแนะ | |
เอกสารประกอบอื่นๆ |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
ในยุคสมัยที่คนเราเร่งรีบ รักความสะดวกสบาย หลายคนคงเคยชินกับการรับประทานอาหารกล่อง อาหารสำเร็จรูป เพราะสะดวก รวดเร็ว ประหยัด หาซื้อได้ง่าย โดยลืมคำนึงถึงสุขภาพ และด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาแพงขึ้น ทำให้พ่อค้าแม่ขายต้องปรับตัวหาวิถีทางที่จะลดต้นทุน เพื่อให้ได้กำไรที่มากขึ้น อีกทั้งคนส่วนใหญ่ เน้น “อิ่ม-ถูก-เร็ว” ส่งผลให้อาหารประเภทข้าวกล่องแกงถุง กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆที่ผู้คนให้ความสนใจในชีวิตประจำวัน โดยละเลยอันตรายต่อสุขภาพที่แฝงมากับวัสดุที่ใช้บรรจุอาหาร กล่องโฟม เป็นผลิตภัณฑ์ชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาใช้บรรจุอาหารเมื่อนำมาใช้บรรจุอาหารร้อนและอาหารทอด น้ำมันจากอาหารจะเกิดปฏิกิริยากับโฟม ทำให้เกิดสารอันตรายปะปนออกมากับอาหาร สารเหล่านี้ ได้แก่ สารสไตรีน (styrene) และสารเบนซิน (benzene) สารสไตรีนที่เกิดขึ้นจะมีผลเสียต่อร่างกาย คือ ทำลายระบบฮอร์โมนในร่างกาย มีผลต่อระบบประสาท เม็ดเลือดแดง ตับและไต เมื่อถูกผิวหนังหรือเข้าตาหรือสูดดมเข้าไป ทำให้เยื่อเมือกเกิดการระคายเคือง มีอาการไอและหายใจลำบาก ปวดศีรษะ ง่วงซึม สำหรับสารเบนซิน จัดเป็นสารก่อมะเร็งซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้สูดดมหรือรับประทานเข้าไป ในระยะแรกทำให้วิงเวียน คลื่นไส้หรือมีอาการปวดท้อง เนื่องจากกระเพาะถูกกัดกร่อน เวียนศีรษะ อาเจียน ง่วงนอน ชัก หัวใจเต้นแรงและอาจเสียชีวิตได้ การได้รับสารเบนซินเป็นเวลานานจะมีผลทำให้โลหิตจาง (Anemia) เนื่องจากสารเบนซินจะเข้าไปทำลายไขกระดูก ทำให้จำนวนเม็ดเลือดแดงลดลงและทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ยังมีอาหารประเภทที่ใช้น้ำมันในการทอดและเป็นอาหารยอดนิยม ปัจจุบันคนไทยบริโภคน้ำมันสูงถึงประมาณ 1,000 ล้านลิตรต่อไป มีน้ำมันเหลือจากการทอดประมาณ 250-300 ล้านลิตรต่อปี และน้ำมันที่เหลือนี้เป็นต้นทางของ “น้ำมันทอดซ้ำ”แม้ในปัจจุบันคนไทยได้รับรู้ถึงพิษภัยของน้ำมันทอดซ้ำอย่างกว้างขวางแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างสิ้นเชิงเนื่องจากยังมีผู้ประกอบการบางรายนำน้ำมันที่ใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำอย่างไม่เหมาะสม อันตรายของน้ำมันทอดซ้ำ น้ำมันที่ได้รับความร้อนสูงซ้ำแล้วซ้ำอีกจะมีการเสื่อมสภาพเปลี่ยนเป็นสารประกอบที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ เช่น สารโพลาร์ ก่อให้เกิดความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ สารโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (ในควันที่เกิดจากน้ำมันทอดซ้ำ) ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ ทั้งนี้สารดังกล่าวจะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนครั้งที่มีการทอดซ้ำ ฉะนั้นผู้ปรุงอาหารควรหลีกเลี่ยงอันตรายจากน้ำมันทอดซ้ำ เช่น คาดผ้าปิดจมูกป้องกันไอระเหยของน้ำมัน ในครัวเรือนไม่ควรใช้น้ำมันทอดซ้ำเกิน 2 ครั้ง ส่วนผู้ประกอบการควรเปลี่ยนน้ำมันให้บ่อยขึ้น ไม่ใช้ความร้อนสูงเกินไปในการทอด และหยุดให้ความร้อนทันทีหลังทอดอาหารเสร็จ เป็นต้นซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บริโภคต้องตระหนักและดูแลสุขภาพของตนเอง โดยหยุดบริโภคอาหารจากร้านค้าที่ผู้ประกอบการใช้กล่องโฟมบรรจุอาหาร แล้วหันมาบริโภคอาหารที่บรรจุในภาชนะทดแทนโฟมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันได้มีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ชานอ้อย เยื่อไผ่ มันสำปะหลัง ซึ่งทนต่อความร้อน ใช้กับอาหารที่มีไขมัน และอุ่นอาหารในไมโครเวฟได้ ย่อยสลายเร็วภายใน45 วันก็ย่อยสลายหมดแล้ว แตกต่างจากโฟมที่ต้องใช้เวลามากกว่า450ปี จึงจะย่อยสลายได้หมด หรือใช้ปิ่นโตใส่อาหาร ซึ่งอาจไม่สะดวกในการพกพาแต่สามารถล้างทำความสะอาดแล้วนำกลับมาใช้ซ้ำได้สำหรับพื้นที่ หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน ตำบลกำแพงมีจำนวนประชากรจำนวนมากและเป็นพื้นที่กว้างขวาง รวมทั้งมีร้านจำหน่ายอาหารในชุมชนจำนวน 14 ร้าน มีทั้งร้านอาหารตามสั่ง และแผงลอย ที่อยู่ในชุมชน ส่วนใหญ่ยังใช้กล่องโฟมในการบรรจุอาหาร และขายอาหารประเภททอด จากปัญหาดังกล่าวข้างต้น อาสาสมัครสาธารณสุข หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน จึงได้มีการรณรงค์ลด ละ เลิก การใช้กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำในชุมชน โดยมีการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากการใช้กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ แก่ร้านค้าในชุมชน แกนนำผู้บริโภคในชุมชน และแกนนำนักเรียนดำเนินการตรวจน้ำมันทอดซ้ำในร้านจำหน่ายอาหาร พร้อมทั้งให้คำแนะนำจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและมอบป้าย“ร้านค้าปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ” แก่ร้านค้าที่ผ่านการตรวจประเมิน
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- 1 เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านค้า แกนนำนักเรียน และผู้บริโภคมีความรู้ และเข้าใจถึงอันตรายของกล่อมโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ
- 2 เพื่อให้ร้านจำหน่ายอาหารในชุมชนและโรงอาหารในโรงเรียนเป็นร้านค้าที่ปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ
- 3 เพื่อให้เกิดหมู่บ้านต้นแบบ ปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- กิจกรรมประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการรณรงค์ในชุมชน ลด ละ เลิก การใช้โฟมและน้ำมันทอดซ้ำ(จำนวน 2 ครั้ง)
- กิจกรรมอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากการใช้กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ แก่ร้านค้าในชุมชน แกนนำผู้บริโภคในชุมชน และแกนนำนักเรียน
- กิจกรรมตรวจน้ำมันทอดซ้ำในร้านจำหน่ายอาหาร และโรงอาหารร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
- กิจกรรมติดตามผล
- กิจกรรมมอบป้าย “ร้านค้าปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ” แก่ร้านค้าที่ผ่านการตรวจประเมิน
- กิจกรรมสรุปผลการดำเนินงานโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้ | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | ||
กลุ่มวัยทำงาน | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- ผู้ประกอบการร้านค้า แกนนำนักเรียน และผู้บริโภคในชุมชนมีความรู้ และเข้าใจถึงอันตรายของกล่อมโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ
- ร้านจำหน่ายอาหารในชุมชนเป็นร้านค้าปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ
- เกิดหมู่บ้านต้นแบบลด ละ เลิก กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์** กิจกรรมของโครงการ | ผลผลิต* | |
---|---|---|
ผลผลิตที่ตั้งไว้ | ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง | |
1. กิจกรรมตรวจน้ำมันทอดซ้ำในร้านจำหน่ายอาหาร และโรงอาหารร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข |
||
วันที่ 1 กรกฎาคม 2561กิจกรรมที่ทำกิจกรรมที่ 3 ตรวจน้ำมันทอดซ้ำในร้านจำหน่ายอาหาร และโรงอาหารร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกิจกรรมตรวจน้ำมันทอดซ้ำร้านค้า โรงอาหารในโรงเรียนในเขตหมู่ที่ 1 จำนวน 30 ร้าน โดยร้านค้าที่ใช้น้ำมันในการปรุงอาหารจำนวน 16 ร้าน และร้านที่ขายอาหารตามสั่ง ข้าวแกง ลูกชิ้นทอด เป็นต้น จำนวน 14 ร้าน โดยสุ่มตรวจร้านค้าจำนวน 3 ครั้ง พบว่า ร้านค้าที่ใช้น้ำมันในการปรุงอาหารส่วนใหญ่ ได้แก่ น้ำมันรินทิพย์ น้ำมันล้อเขียว น้ำมันยี่ห้อผึ้ง เป็นต้น ซึ่งจากการตรวจสารโพลาร์ในน้ำมันที่ผ่านการใช้แล้ว จำนวน 16 ร้านค้า โดยมีการแปลผลังนี้
ครั้งที่ 1 ค่าสารโพลาห์อยู่ในช่วง 9-20% จำนวน 12 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 75.00 และสารโพลาร์ 24% จำนวน 4 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 25.00 ครั้งที่ 2 ค่าสารโพลาห์อยู่ในช่วง 9-20% จำนวน 15 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 93.75 และสารโพลาร์ 24% จำนวน 1 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 6.25 ครั้งที่ 3 ค่าสารโพลาห์อยู่ในช่วง 9-20% จำนวน 16 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 100 สำหรับร้านค้าที่ใช้ภาชนะโฟมในการบรรจุอาหาร ในการลงตรวจครั้งที่ 1 มีจำนวน 1 ร้าน คณะทำงานและเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำ ทางผู้ประกอบการได้แจ้งว่า ถ้าใช้ภาชนะอย่างอื่นอาจมีราคาแพงและไม่เหมาะสมกับราคาที่ขาย ทำให้ต้องใช้ทุนเยอะ จากการลงตรวจร้านค้าครั้งที่ 2 ก็พบว่าผู้ประกอบการยังใช้โฟมบรรจุอาหารอยู่บ้าง โดยแจ้งว่ายังเหลือภาชนะโฟมที่ใช้บรรจุอาหารอยู่อีก ขอใช้ให้หมดก่อนจึงจะเปลี่ยนเป็นภาชนะอย่างอื่นที่ไม่ใช่โฟม และการลงตรวจครั้งที่ 3 พบว่าผู้ประกอบการเลิกใช้ภาชนะโฟมและใช้ภาชนะอย่างอื่นแทน
|
30 | 0 |
2. กิจกรรมประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการรณรงค์ในชุมชน ลด ละ เลิก การใช้โฟมและน้ำมันทอดซ้ำ(จำนวน 2 ครั้ง) |
||
วันที่ 3 สิงหาคม 2561กิจกรรมที่ทำกิจกรรมที่ 1 ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการรณรงค์ในชุมชน ลด ละ เลิก การใช้โฟมและน้ำมันทอดซ้ำ (จำนวน 2 ครั้ง)
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นการขับเคลื่อนการรณรงค์ในชุมชน ลด ละ เลิก การใช้โฟมและน้ำมันทอดซ้ำ หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน ได้ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน เพื่อร่วมกันวางแผนการดำเนินงาน ร่วมกันลงพื้นที่สำรวจร้านค้าและตรวจน้ำมันทอดซ้ำตามร้านค้าที่จำหน่ายอาหารในชุมชน พร้อมทั้งหาแนวทางในการแก้ไข ป้องกัน เพื่อไม่ให้ร้านค้าในชุมชนกลับมาใช้โฟม หรือน้ำมันที่ใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำ โดยกิจกรรมตามโครงการได้ดำเนินกิจกรรมดังนี้
|
20 | 0 |
3. กิจกรรมอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากการใช้กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ แก่ร้านค้าในชุมชน แกนนำผู้บริโภคในชุมชน และแกนนำนักเรียน |
||
วันที่ 27 สิงหาคม 2561กิจกรรมที่ทำกิจกรรมที่ 2 อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากการใช้กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ แก่ร้านค้าในชุมชน แกนนำผู้บริโภคในชุมชน และแกนนำนักเรียน 2.1 อบรมให้ความรู้
2.2 รณรงค์และประชาสัมพันธ์
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกิจกรรมอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของกล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ผู้ประกอบการร้านค้า แกนนำนักเรียน แกนนำผู้บริโภค ร้านค้า จำนวน 115 คน โดยใช้แบบทดสอบก่อน-หลังอบรม จำนวน 12 ข้อ พบว่า ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมผู้เข้าร่วมมีคะแนนต่ำกว่า 6 คะแนน จำนวน 68 คน คิดเป็นร้อยละ 59.13 คะแนนมากกว่า 6 คะแนน จำนวน 47 คน คิดเป็นร้อยละ 40.90 และหลังการดำเนินกิจกรรมอบรมให้ความรู้ ผู้เข้าร่วมอบรมผ่านเกณฑ์ได้คะแนนมากกว่า 6 คะแนน จำนวน 98 คน คิดเป็นร้อยละ 85.22 ซึ่งผ่านตัวชี้วัดที่ตั้งไว้ หลักจากดำเนินกิจกรรมอบรมให้ความรู้แล้ว คณะกรรมการขับเคลื่อนในชุมชนได้จัดกิจกรรมเดินรณรงค์ในชุมชน ลด ละ เลิก กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ โดยกลุ่มเป้าหมายได้แก่ แกนนำนักเรียนและคณะกรรมการขับเคลื่อน เดินรณรงค์ ประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำแก่ร้านค้า และประชาชนในชุมชน เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักและให้ความสำคัญผลกระทบต่อสุขภาพ
|
115 | 0 |
4. กิจกรรมมอบป้าย “ร้านค้าปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ” แก่ร้านค้าที่ผ่านการตรวจประเมิน |
||
วันที่ 11 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคณะกรรมการขับเคลื่อนได้มอบป้าย "ร้านค้าปลอดโพมและน้ำมันทอดซ้ำ" ให้แก่ร้านค้าที่ผ่านการตรวจประเมิน เพื่อให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ เพื่อสุขภาพที่ดีของคนในชุมชน
|
30 | 0 |
5. กิจกรรมติดตามผล |
||
วันที่ 20 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นการติดตามผลจากการลงพื้นที่ตรวจแล้ว คณะกรรมการขับเคลื่อนได้ลงติดตามร้านค้าในชุมชนและโรงอาหารในโรงเรียน พบว่า ผู้ประกอบการร้านค้าเลิกใช้กล่องโฟมและไม่นำน้ำมันทอดซ้ำที่ใช้แล้วเกิน 2 ครั้ง มาใช้ซ้ำ
|
30 | 0 |
6. กิจกรรมสรุปผลการดำเนินงานโครงการ |
||
วันที่ 20 มีนาคม 2562กิจกรรมที่ทำจัดทำรูปเล่มรายงาน ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมีรูปเล่มรายงานฉบับสมบูรณ์
|
0 | 0 |
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ | สถานการณ์ | เป้าหมาย | ผลผลิต | อธิบาย | |
---|---|---|---|---|---|
1 | 1 เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านค้า แกนนำนักเรียน และผู้บริโภคมีความรู้ และเข้าใจถึงอันตรายของกล่อมโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ ตัวชี้วัด : - ผู้ประกอบการร้านค้า แกนนำนักเรียน และผู้บริโภคไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 มีความรู้ และเข้าใจถึงอันตรายของกล่อมโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ |
80.00 | |||
2 | 2 เพื่อให้ร้านจำหน่ายอาหารในชุมชนและโรงอาหารในโรงเรียนเป็นร้านค้าที่ปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ ตัวชี้วัด : - ร้อยละ 90 ร้านจำหน่ายอาหารในชุมชนและโรงอาหารในโรงเรียนเป็นร้านที่ปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ |
90.00 | |||
3 | 3 เพื่อให้เกิดหมู่บ้านต้นแบบ ปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ ตัวชี้วัด : - เกิดหมู่บ้านต้นแบบ ลด ละ เลิก กล่องโฟมและน้ำมันทอดซ้ำในชุมชน |
100.00 |
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
---|---|---|---|
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด | 0 | ||
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | |||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | - | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | - | ||
กลุ่มวัยทำงาน | - | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | - | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | |||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | - | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | - | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | - | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | - | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] | - |
บทคัดย่อ*
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค | สาเหตุ | ข้อเสนอแนะ |
---|---|---|
โครงการชุมชนปลอดโฟมและน้ำมันทอดซ้ำ หมู่ที่ 1 บ้านควนไสน จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 2561 - L8010 - 2 - 07
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
( )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......