โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงวัย ห่างไกลพลัดตกหกล้ม ปี 2564
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงวัย ห่างไกลพลัดตกหกล้ม ปี 2564 |
รหัสโครงการ | 64-L6895-01-07 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองกันตัง |
วันที่อนุมัติ | 17 พฤศจิกายน 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2564 - 31 สิงหาคม 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 สิงหาคม 2564 |
งบประมาณ | 31,680.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสุพรรณนิกา ลีลาสำราญ |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางสมใจ เป้าทอง |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.41,99.519place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 70 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวเข้าสังคมสูงวัย (aging society) โดยในปี 2563 ประเทศไทยมี
สัดส่วนผู้สูงอายุ ร้อยละ 1 ส่งผลให้ผู้สูงอายุต้องอยู่ในภาวะโรคเรื้อรังมากขึ้น เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคกระดูกพรุน เป็นต้น ทำให้ต้องมีการรักษาที่ต่อเนื่องและยาวนาน แต่ร่างกายทีเสื่อมลงตามอายุที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้มีการผิดรูปของข้อต่างๆ ส่งผลให้เกิดข้อเสื่อม ทำให้มีการทรงตัว และการเคลื่อนไหวผิดปกติ ผลที่ตามมาคือ ทำให้เกิดการพลัดตกหกล้ม
ผลกระทบของการพลัดตกหกล้มส่งผลทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจจากรายงานการพยากรณ์
การพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ พ.ศ.2560-2564 คาดว่าจะมีผู้สูงอายุหกล้ม ปีละ 3,030,900-5,506,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้จะมีผู้เสียชีวิตจำนวน 5,700-10,400 คน ผลกระทบต่อจิตใจทำให้เกิดการกลัวต่อการหกล้ม สูญเสียความมั่นใจในการทำกิจกรรม ผลกระทบด้านเศรษฐกิจต้องเสียค่ารักษา พยาบาล และการฟื้นฟูสภาพเป็นเวลานาน และการดูแลที่ต่อเนื่อง ตลอดจนส่งผลต่อการขาดรายได้ของสมาชิกในครอบครัวที่ต้องมาดูแลผู้สูงอายุที่ได้รับบาดเจ็บจากการพลัดตกหกล้ม
จากข้อมูลรายงานสถิติการแพทย์ฉุกเฉิน ระหว่างเดือน กันยายน 2561 - กันยายน 2562
จังหวัดตรัง พบว่าจำนวนผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุพลัดตกหกล้ม 5 อันดับแรกได้แก่ อำเภอเมืองตรัง จำนวน 555 ราย รองลงมาอำเภอห้วยยอด จำนวน 191 ราย อำเภอกันตัง จำนวน 139 ราย อำเภอนาโยง จำนวน 95 ราย และอำเภอย่านตาขาวจำนวน 84 รายตามลำดับ
ศูนย์บริการสาธารณสุข เทศบาลกันตัง ได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการ
แก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงจัดทำโครงการนี้ขึ้น เพื่อให้ผู้สูงอายุได้เรียนรู้เรื่องวิธีการป้องกันการพลัดตกหกล้ม การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแรงของกล้ามเนื้อและการทรงตัว และการปรับปรุงที่อยู่อาศัยเพื่อป้องกันการพลัดตกหกล้ม
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้ผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยง มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลตนเอง สามารถปฏิบัติตัวในเรื่องการป้องกันการพลัดตกหกล้ม
|
0.00 | |
2 | เพื่อลดอัตราการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุเขตเทศบาลเมืองกันตัง
|
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 118 | 31,680.00 | 3 | 28,855.00 | |
11 มี.ค. 64 | กิจกรรมประชุมตัวแทนแกนนำสุขภาพในชุมชน | 48 | 4,740.00 | ✔ | 5,494.00 | |
18 มี.ค. 64 | กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ | 70 | 22,340.00 | ✔ | 20,865.00 | |
26 มี.ค. 64 | กิจกรรมลงพื้นที่ติดตามเยี่ยมบ้าน/ประเมิน/แก้ไขสภาพแวดล้อม | 0 | 4,600.00 | ✔ | 2,496.00 |
ขั้นเตรียมการ
1. อบรมตัวแทนแกนนำสุขภาพในชุมชน เพื่อรวบรวมข้อมูลและจัดทำฐานข้อมูลผู้สูงอายุ และทำความเข้าใจถึงแผนดำเนินการตามโครงการ
2. ตัวแทนแกนนำสุขภาพในชุมชน ขยายลงเครือข่ายร่วมคัดกรองผู้สูงอายุในชุมชนโดยประเมิน falling assessment tool
3. ดำเนินการเลือกกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุตามแบบประเมินที่มีค่าการประเมินอยู่ในกลุ่มเสี่ยงปานกลางขึ้นไป
ขั้นดำเนินการ
1. ประสานงานขอสนับสนุนวิทยากรกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง /โรงพยาบาลกันตัง /สำนักงานสาธารณสุขอำเภอกันตัง
2. อบรมเชิงปฏิบัติการ จำนวน 1 วัน โดยมีรูปแบบการดำเนินกิจกรรมดังนี้
• ผู้เข้าร่วมโครงการทำแบบประเมินก่อนและหลังให้ความรู้
• กิจกรรมบรรยายเรื่องสรีระวิทยากับการเปลี่ยนแปลงในผู้สูงอายุ
• กิจกรรมการเข้าฐาน ประกอบด้วย การให้ความรู้และประเมินการใช้ยาในผู้สูงอายุ การให้ความรู้เรื่องการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงกล้ามเนื้อสะโพก เข่า และข้อเท้า การใช้อุปกรณ์ช่วยป้องกัน การพลัดตกหกล้ม การให้ความรู้เรื่องสภาพแวดล้อมในบ้านที่มีความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม
• ประเมินความพึงพอใจผู้เข้ารับการอบรม
3. เจ้าหน้าที่พร้อมแกนนำสุขภาพชุมชนลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้สูงอายุ ประเมินภาพแวดล้อมจริงที่บ้านพร้อมทั้งแนะแนวทาง/แก้ไขลดความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม
ขั้นสรุปและประเมินผล
1.สรุปผล/รายงานผลการดำเนินงานต่อคณะกรรมการกองทุนฯ
- ผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงมีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลตนเอง สามารถปฏิบัติตัวป้องกันการพลัดตกหกล้ม
- อัตราการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุที่เข้าร่วมโครงการไม่เกินร้อยละ 5
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2563 08:54 น.